คุณพ่อคุณแม่คงได้ทราบข่าวกันไปแล้วว่า การเดินทางด้วยรถยนต์ที่มีเด็กนั่งไปด้วยนั้นมีกฎหมายใหม่ออกมาบังคับให้เด็กอายุไม่เกิน 6 ปี จะต้องนั่ง คาร์ซีท และสำหรับเด็กที่มีความสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร จะต้องคาดเข็มขัดนิรภัย ดังนั้นหากลูกน้อยของคุณอยู่ในเกณฑ์ต้องนั่งคาร์ซีทก็อย่าลืมจัดเตรียมไว้ให้พร้อมก่อนออกเดินทาง การใช้คาร์ซีทคงไม่ใช่แค่เรื่องของการทำตามกฎหมายเพราะกลัวถูกปรับเท่านั้น แต่เป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจกับความปลอดภัยของลูกอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะมีกฎหมายใดมาบังคับหรือไม่ก็ตาม คาร์ซีท คือหัวใจหลักของการปกป้องลูกน้อยให้เดินทางอย่างปลอดภัย
เลือก คาร์ซีท แบบไหนให้ลูกดี
การซื้อคาร์ซีทไว้ใช้งานคุณพ่อคุณแม่ต้องใช้เกณฑ์น้ำหนักและอายุของลูกเป็นหลัก เพราะคาร์ซีทแต่ละแบบนั้นดีไซน์มาสำหรับเด็กที่อยู่ในวัยต่าง ๆ และมีรูปร่างที่ต่างกัน
- แบบกระเช้าที่ติดตั้งแบบหันหน้าเข้าหาพนักพิงเบาะ สำหรับใช้กับเด็กแรกเกิดจนถึงเด็กที่มีน้ำหนักประมาณ 13 กิโลกรัม
- แบบหันหน้าไปทางด้านหน้ารถ สำหรับเด็กโตขึ้นมาอีกหน่อยจนถึงอายุประมาณ 6 ขวบ
- แบบ High Back Booster เหมาะสำหรับเด็กโตอายุ 6 ขวบขึ้นไป สามารถใช้ร่วมกับเข็มขัดนิรภัยบนรถได้
- แบบ Convertible ใช้งานได้หลากหลายปรับไปตามความสะดวกของผู้ใช้ เหมาะกับเด็กทุกช่วงอายุ สามารถปรับหันหน้าหรือหันหลังก็ได้และหมุนรอบตัวได้ด้วย ง่ายต่อการที่ผู้ใหญ่จะคอยดูแลเด็กในรถได้ใกล้ชิดมากกว่า
นอกจากนี้ควรดูในเรื่องของวัสดุให้ดีเลือกวัสดุที่นั่งสบายเด็กจะได้ไม่งอแง และอย่าลืมว่าวัสดุนั้นต้องทำความสะอาดได้ง่ายด้วย เพราะเด็กอาจจะมีการเมารถอาเจียนบ้าง ทำอาหารหกเลอะเบาะบ้าง คงต้องทำความสะอาดกันบ่อยครั้งทีเดียว คุณสมบัติที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการติดตั้ง ถ้าเป็นคาร์ซีทสมัยใหม่ส่วนใหญ่จะติดตั้งแบบ ISOFIX ซึ่งมีความปลอดภัยสูง หากเลือกใช้ระบบนี้ก็จะมั่นใจได้มากกว่า
ISOFIX คืออะไร ทำไมจึงสำคัญต่อการใช้คาร์ซีท
เหตุผลที่ต้องแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ได้รู้จักกับ ISOFIX ก็เพราะว่าเป็นระบบการติดตั้งคาร์ซีทที่ทั่วโลกนิยมใช้กัน และได้รับการยอมรับว่ามีมาตรฐานความปลอดภัยโดยไม่ต้องพึ่งเข็มขัดนิรภัยเลย ตัวยึดเบาะแบบ ISOFIX มีความแข็งแรงมาก เมื่อเกิดอุบัติเหตุจะล็อกติดกับโครงสร้างรถอย่างมั่นคง ลดแรงสั่นสะเทือน และคาร์ซีทจะไม่เคลื่อนออกจากเบาะได้ง่ายจึงปลอดภัยกว่า อย่างไรก็ตามต้องขึ้นอยู่กับตัวรถของคุณพ่อคุณแม่ด้วยว่าที่เบาะมีช่องเตรียมไว้สำหรับการติดตั้งคาร์ซีทระบบนี้ด้วยหรือไม่ ก่อนซื้ออย่าลืมดูที่เบาะรถด้วยนะคะ
แนะนำ คาร์ซีท ยอดนิยมที่น่าใช้สำหรับเด็กทุกวัย
- AILEBEBE รุ่น Kurutto NT2 Premium
คาร์ซีทสำหรับเด็กวัยแรกเกิดถึง 4 ปี รับน้ำหนักได้ถึง 18 กิโลกรัม เป็นแบบปรับหมุนได้รอบโดยใช้แค่มือเดียว เหมาะมากสำหรับคุณแม่ลูกอ่อน ตัวเบาะออกแบบมาเพื่อรองรับสรีระของเด็กแรกเกิดได้และมีหลังคาบังตากันลมกันแสงจ้าให้ลูกด้วย เพราะเด็กน้อยแบเบาะเมื่อขึ้นรถก็มักจะหลับยาว สำหรับราคารุ่นนี้น่าลงทุน ซื้อความปลอดภัยให้ลูก อย่างไรก็คุ้ม
- CHICCO Kidfit
ยี่ห้อนี้รับบทหนักได้สบาย รองรับน้ำหนักได้มากสุดถึง 50 กิโลกรัม เป็น คาร์ซีท แบรนด์อิตาลีชื่อดัง ยี่ห้อที่คุณแม่ชาวไทยนิยมมานานตั้งแต่รุ่นคุณยาย มีให้เลือกแบบ 2 อิน 1 สามารถปรับเป็นเบาะ Booster ได้ ปรับความสูงของเบาะได้ถึง 10 ระดับ เมื่อลูกโตขึ้นก็ปรับสูงขึ้นได้เรื่อย ๆ จนลูกโต ใช้งานคุ้มค่า การติดตั้งก็ง่าย วัสดุที่ใช้เป็นผ้านุ่มพิเศษ
- Growy-W Rotera 360°
เป็นคาร์ซีทที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานของประเทศเยอรมัน ใช้ได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงน้ำหนัก 18 กิโลกรัม ใช้ติดตั้งแบบหันหน้าเข้าหาเบาะรถสำหรับเด็กเล็กก็ได้หรือปรับเป็นแบบหันหน้าออกจากเบาะก็ได้เมื่อเด็กโตขึ้น สามารถปรับหมุนได้รอบตัวเพื่อการอุ้มเด็กขึ้นลงได้อย่างสะดวกสบาย มือเดียวก็ใช้งานได้
- Maxi-Cosi OPAL
ราคาสูงหน่อยแต่ซื้อครั้งเดียวใช้ยาวไปจนโต ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดถึง 4 ขวบ รับน้ำหนักได้ 18 กิโลกรัม สามารถปรับความสูงและความกว้างตามพัฒนาการของลูกได้ทุกช่วงวัย เป็นคาร์ซีทแบบหันหน้าเข้าหาเบาะก็ได้ หันหลังก็ได้ ถ้าใช้สำหรับเด็กเล็กก็ปรับหันเข้า ถ้าใช้กับเด็กโตก็ปรับหันออกแค่กดปุ่มคลิกนิดเดียวเท่านั้น โครงสร้างเบาะแข็งแรงเป็นพิเศษ ไม่ต้องห่วงเมื่อรถถูกชนกระแทก
- DODOLOVE KL005
แบรนด์มาแรงแต่ราคาไม่แรงมาก น่าใช้เพราะมีระบบติดตั้งให้เลือกทั้งแบบ ISOFIX และแบบเข็มขัดนิรภัย ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 12 ขวบ รับน้ำหนักมากถึง 36 กิโลกรัม มีเข็มขัดรัด 5 จุดแน่นหนา หมุนได้รอบทิศทาง จะปรับเอน ปรับเอียงได้หมด อุ้มลูกขึ้นนั่งเปิดแอร์เย็น ๆ พร้อมหลับได้อย่างสบาย มีระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้างอีกด้วย
คุณพ่อคุณแม่อาจลองหารายละเอียดทั้ง 5 รุ่นนี้ดูอีกครั้งก่อนตัดสินใจได้ที่ลาซาด้า และหลังจากที่ได้คาร์ซีทมาแล้วอย่าปล่อยให้อุปกรณ์ชิ้นนี้ต้องไปอยู่ในห้องเก็บของแต่เพียงลำพัง เพราะบางครอบครัวซื้อมาแล้วลูกไม่ยอมนั่งก็ปล่อยเลยตามเลย อย่างไรก็ต้องฝึกลูกของเราให้นั่ง Car Seat จนคุ้นเคยเพราะเป็นเรื่องของความปลอดภัยล้วน ๆ อุบัติเหตุอาจเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้ไม่ควรประมาท
ที่มาข้อมูล: top10 , top5supersale