คุณสมบัติสำคัญอย่างหนึ่งสำหรับผู้ขับรถก็คือต้องรู้กฎจราจรหรือกฎหมายที่เกี่ยวกับการใช้รถใช้ถนน และสำหรับใครที่เพิ่งถอยรถใหม่ ป้ายแดง อย่าลืมเช็กเรื่องกฎข้อบังคับของทางการว่ามีข้อห้ามอะไรบ้างในการขับรถใหม่บนถนนสาธารณะเพื่อเพิ่มความระมัดระวังให้มากยิ่งขึ้น ไม่เช่นนั้นแล้วอาจถูกตำรวจตรวจจับและเสียค่าปรับในกรณีที่ทำผิดกฎ โทษของการทำผิดกฎนั้นผู้ขับต้องจ่ายค่าปรับเป็นจำนวนไม่น้อยอย่างน่าเสียดาย ดังนั้นแทนที่จะเสียค่าปรับยอมเสียเวลาทำความเข้าใจกับกฎระเบียบของการขับรถใหม่กันไว้ก่อนดีกว่า
การใช้ ป้ายแดง มีกำหนดระยะเวลา ฝ่าฝืนถูกปรับ
รถใหม่ที่ถอยออกจากศูนย์ด้วยป้ายทะเบียนสีแดงนั้น เป็นการใช้ป้ายเพื่อรอเวลาการจดทะเบียนรถใหม่ ป้ายทะเบียนสีแดงก็มีข้อกำหนดให้ใช้ในระยะเวลาไม่นานเกินกว่า 1 เดือน หรือ 30 วัน หรือถ้านับจากการใช้งานก็ต้องไม่เกิน 3,000 กิโลเมตร ถ้าหากว่าเจ้าของรถยังไม่ได้รับทะเบียนสีขาวนานเกินเดือนต้องรีบตามเรื่องแล้วว่าไปถึงไหนอย่างไร เพื่อจะได้รีบเปลี่ยนป้ายทะเบียนก่อนที่จะถูกตำรวจเรียกตรวจสอบ
รถยนต์ป้ายแดง ที่ใช้ทะเบียนนานเกินเวลาที่กำหนดจะมีค่าปรับไม่เกิน 10,000 บาท แต่เนื่องจากในปัจจุบันมีรถใหม่จดทะเบียนเป็นจำนวนมากและขั้นตอนการผลิตทะเบียนทำไม่ทันเวลา อาจมีการอนุโลมให้กับเจ้าของรถได้บ้าง คือถ้าเป็นกรณีที่ป้ายทะเบียนรถใหม่ออกได้ไม่ทันใน 1 เดือน จริง ๆ แล้วล่ะก็ สามารถขอผ่อนผันกับทางการได้ แต่ถ้าหากว่ารถได้ป้ายใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าของรถควรเปลี่ยนทันทีจะเป็นเรื่องดีที่สุด
ขับรถ ป้ายแดง ต้องไม่ลืมสมุดคู่มือการใช้รถ กฎหมายบังคับให้บันทึกทุกครั้ง
นอกจากข้อกำหนดเรื่องระยะเวลาของการใช้ป้ายทะเบียนสีแดงแล้ว ยังมีข้อกำหนดของการใช้งานรถยนต์ใหม่อีกด้วย รถป้ายแดงทุกคันที่ถอยออกจากศูนย์จะได้รับสมุดคู่มือทะเบียนรถยนต์หน้าปกสีน้ำตาลซึ่งเป็นสมุดที่เจ้าของรถจะต้องให้ความสำคัญ
เพราะตามกฎหมายระบุว่าเจ้าของรถจะต้องจดบันทึกการใช้รถทุกครั้งลงในสมุดเล่มนี้ ว่าวันไหนเดินทางไปที่ใดมาบ้าง แม้ว่าในทางปฏิบัติจริง ๆ คงจะมีน้อยคนที่ทำได้ แต่ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย ถ้าโชคดีก็ไม่เจอด่านตรวจ แต่ถ้าโชคไม่ดีเจอด่านที่คุณตำรวจคุมเข้มมากหน่อยถูกปรับแน่นอน ถ้าไม่อยากลุ้นเสียเงินก็ทำตามกฎไว้ก่อนไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร
ขับ ป้ายแดง ในเวลากลางคืนเสี่ยงถูกปรับ
การขับรถใหม่ป้ายแดงกฎหมายกำหนดให้ใช้ขับบนถนนสาธารณะได้เฉพาะเวลากลางวันก่อนพระอาทิตย์ตกดิน หรือระหว่างเวลา 6.00 – 18.00 น. แต่ข้อนี้คงเป็นไปได้ยาก จึงได้มีการอนุโลมให้ขับได้ถึง 20.00 น. ใครฝ่าฝืนกฎข้อนี้จะโดยตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจก็ตาม หากเจอด่านตรวจให้เตรียมเงินค่าปรับไว้ได้เลยไม่เกิน 2,000 บาท ไม่จำเป็นอย่าขับกลางคืนจะปลอดภัยกว่า ไม่ต้องควักกระเป๋า
กฎข้อที่ว่าไม่ให้ขับรถใหม่ในเวลากลางคืนนี้มีเหตุผลสำคัญคือ ป้ายทะเบียนสีแดงนั้นมองเลขทะเบียนได้ไม่ชัดเจนในเวลากลางคืนเพราะมีสีเข้มทั้งป้ายและตัวอักษร เวลาเกิดอุบัติเหตุจะตามตัวยาก และที่สำคัญสำหรับเจ้าของรถใหม่ทุกคนก็คือรถใหม่ย่อมเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรม จากที่ผ่านมาพบว่ามีปัญหารถใหม่ถูกขโมยเกิดขึ้นบ่อย ๆ ทางการจึงกำหนดให้มีกฎหมายขึ้นเพื่อป้องกันความปลอดภัยให้กับเจ้าของรถ ทางที่ดีที่สุดก็คือพยายามหลีกเลี่ยงการใช้ในเวลากลางคืน จะช่วยลดปัญหาทุกอย่างให้น้อยลงได้
ป้ายแดงอย่าขับไกล ใช้ได้ในเขตพื้นที่เดียวกัน
รถป้ายแดงสามารถใช้งานได้ภายในเขตจังหวัดที่ออกรถหรือเขตพื้นที่ตามที่อยู่บนป้ายทะเบียนนั้น เช่น ป้ายทะเบียน กท ก็ให้ใช้งานแค่ในกรุงเทพฯ เป็นต้น ข้อนี้ยากอีกเหมือนกันโดยเฉพาะผู้ที่ต้องเดินทางไปทำกิจธุระหรือปฏิบัติภารกิจตามหน้าที่การงานอยู่บ่อย ๆ ถ้าเป็นลักษณะนั้นควรทำเรื่องขออนุญาตจากนายทะเบียนให้เป็นกิจลักษณะไปเลย และอย่าละเลยการจดบันทึกการเดินทางลงในสมุดคู่มือด้วย เพื่อให้พ้นข้อหาทำผิดกฎหมายและไม่ต้องถูกปรับที่ด่านตรวจ ซึ่งการทำผิดข้อนี้มีค่าปรับสูงถึง 10,000 บาท
รู้กฎหมายรถป้ายแดง รู้ขั้นตอนการจดทะเบียนป้ายขาว
นอกจากรู้กฎหมายบังคับสำหรับการขับรถ ป้ายแดง แล้ว ผู้ที่ซื้อรถใหม่ควรรู้ขั้นตอนการจดทะเบียนรถว่าต้องทำอย่างไร โดยทั่วไปการจดทะเบียนรถมีขั้นตอน ดังนี้
- นำเอกสารประจำตัวของผู้ซื้อรถหรือเจ้าของรถไปยื่นที่กรมการขนส่งทางบก เอกสารที่ต้องใช้คือ บัตรประชาชนตัวจริงและสำเนา
- เอกสารการซื้อรถจากศูนย์รถหรือบริษัทรถยนต์ เช่น สัญญาซื้อขาย ใบเสร็จรับเงิน
- เอกสารการทำ พ.ร.บ. รถยนต์ใหม่
- แบบคำขอจดทะเบียนรถ ถ้าให้คนอื่นทำแทนต้องมีหนังสือมอบอำนาจ พร้อมกับเตรียมเงินไว้สำหรับจ่ายค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนรถ
การเคารพในกฎข้อบังคับต่าง ๆ เป็นเรื่องสำคัญไม่เฉพาะแต่การขับรถยนต์ป้ายแดงเท่านั้น ไม่ว่าจะขับรถใหม่หรือรถเก่า สิ่งที่ต้องยึดถือปฏิบัติขณะอยู่บนท้องถนนก็คือ กฎจราจร ผู้ขับที่ละเลยมองข้ามกฎจราจรในเวลาขับรถอาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุและนำมาซึ่งความเสียหายทั้งต่อตัวผู้ขับเองและความเสียหายต่อคู่กรณี ซึ่งไม่มีใครอยากพบเจอเรื่องแบบนี้อย่างแน่นอน
ที่มาข้อมูล: กระทรวงยุติธรรม , TIRES BID , CHOB ROD