การทาผิวหน้าด้วย มอยส์เจอไรเซอร์ เป็นขั้นตอนสำคัญในการบำรุงผิวเพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้กับเซลล์ผิวหนังซึ่งเป็นขั้นตอนจำเป็นต่อทุกสภาพผิว โดยเฉพาะคนผิวแห้งก็ยิ่งต้องเพิ่มความชุ่มชื้นมากเป็นพิเศษเพราะด้วยปัจจัยที่แตกต่างทำให้คนผิวแห้งขาดความชุ่มชื้นได้มากกว่าลักษณะผิวแบบอื่น ๆ หากปล่อยให้ผิวแห้งมากเกินไปก็ส่งผลต่อการเกิดริ้วรอย และอาจทำให้เกิดอาการผิดปกติต่าง ๆ ตามมา เช่น ผิวลอก อาการคัน ผิวหนังอักเสบ สิวและรอยดำ ซึ่งส่งผลต่อการใช้ชีวิตรวมถึงสภาพจิตใจได้อีกด้วย วันนี้เราจึงมีมอยส์เจอไรเซอร์ดี ๆ มาแนะนำสาวผิวแห้งค่ะ
คุณสมบัติของสารประกอบใน มอยส์เจอไรเซอร์
มอยส์เจอไรเซอร์ มีประโยชน์เด่นคือช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น ซึ่งก็ประกอบไปด้วยสารที่มีคุณสมบัติหลัก ๆ 3 ประเภท คือ
- Humectant
สารที่ช่วยดูดความชื้นจากบรรยากาศเข้าสู่เซลล์ผิวหนังเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำในเซลล์ ตัวอย่างสารในกลุ่มนี้ ได้แก่ Lactic acid, Hyaluronic acid, Glycerine และ Urea ซึ่งสารกลุ่มนี้มีคุณสมบัติช่วยอุ้มน้ำได้ดีแต่ไม่ได้ช่วยกักเก็บน้ำ เมื่อใช้สารในกลุ่มนี้เดี่ยว ๆ จึงต้องทาผิวด้วยสารที่มีคุณสมบัติกักเก็บน้ำได้ดีร่วมด้วย
- Occlusive
สารที่เคลือบผิวช่วยในการกักเก็บน้ำไม่ให้ระเหยออกไป โดยสารกลุ่มนี้จะเป็นไขมันที่ผิวหนังดูดซึมไม่ได้ เช่น Lanolin, Dimethicone, Petrolatum, Argan oil และ Jojoba oil หรือน้ำมันที่ใช้ทาผิวชนิดอื่น ๆ
- Emollient
สารที่จะช่วยเติมร่องของเซลล์ผิวหนังที่เกิดจากน้ำในเซลล์ลดลง ทำให้ผิวมีความเนียนนุ่มและลดการหลุดลอกของเซลล์ผิวหนังมากขึ้น ตัวอย่างสารในกลุ่มนี้ ได้แก่ cetearyl alcohol, capric triglyceride และน้ำมันเมล็ดทานตะวัน
5 มอยส์เจอไรส์เซอร์ คุณภาพดีที่แนะนำ
1. CeraVe Moisturizing Cream
มอยส์เจอไรเซอร์ เนื้อเข้มข้นจากแบรนด์เวชสำอางชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ที่มีส่วนช่วยเรื่องความชุ่มชื้นและฟื้นฟูเกราะป้องกันของผิวหนัง โดยมีส่วนประกอบของเซราไมด์สูตรสกัดจากพืชที่มีความจำเป็นต่อผิวถึง 3 ชนิด มาพร้อมกับ MVE technology ที่ช่วยล็อคความชุ่มชื้นได้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมง ผ่านการรับรองโดยสถาบันแพทย์ผิวหนังของสหรัฐอเมริกา เหมาะสำหรับผิวแห้งถึงแห้งมาก โดยใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย
2. Hada labo anti-aging lift cream
ครีมบำรุงผิวยอดนิยมจากญี่ปุ่น ที่เพิ่มประสิทธิภาพการดูแลผิวระดับเซลล์ เพิ่มความชุ่มชื้น และช่วยฟื้นฟูปัญหาริ้วรอยได้อย่างตรงจุดด้วย Elasgrow สูตรเฉพาะของฮาดะ ลาโบะ ช่วยให้อีลาสตินเพิ่มมากขึ้น ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความกระชับได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมี Soymilk Ferment Filtrate สารสำคัญที่ได้จากการหมักถั่วเหลืองซึ่งมีสารโมเลกุลเล็กที่จะเข้าแทรกซึมไปสู่ผิว ช่วยเพิ่มความกระชับขึ้นอีกระดับ และยังประกอบไปด้วย 3D Hyaluronic Acid ที่มีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้นานกว่า ช่วยให้ผิวดูชุ่มชื้นเป็นเวลานานกว่าที่เคย
3. Thaicream Coconut & Aloe Vera Gel
เจลว่านห่างจระเข้เป็นผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นในการเติมความชุ่มชื่นให้กับผิวหนัง เมื่อผสมรวมกับสารสกัดจากน้ำมันมะพร้าวและแตงกวา จึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดีมากกว่าที่เคย โดยเจลว่านพร้าวจากแบรนด์ไทยครีม มีลักษณะเป็นเจลสีใส เนื้อบางเบา ดูดซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ ใช้ได้กับทุกสภาพผิว ทั้งผิวแห้ง ผิวมัน รวมถึงผิวแพ้ง่าย โดยไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ซิลิโคน พาราเบนและสีสังเคราะห์ เหมาะกับการใช้เป็นตัวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นประจำวันได้เป็นอย่างดี
4. Haewon Hyaluron Filler
เซรั่มไฮยารูลอนเข้มข้นสัญชาติเกาหลีที่ขึ้นชื่อเรื่องครีมบำรุงผิวและความสวยงามมาอย่างยาวนาน โดยเป็นฟิลเลอร์แบบทาที่จะช่วยให้ใบหน้าอิ่มฟู ลดริ้วรอย เติมเต็มร่องแก้ม ทางแบรนด์เคลมไว้ว่า ช่วยปูผิวใหม่ตั้งแต่ชั้นหนังแท้ ทำให้ผิวเรียบเนียนน่าสัมผัสภายใน 28 วัน เมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาริ้วรอยร่องแก้ม รอบดวงตา ผิวขาดความสมดุล รูขุมขนกว้าง ผิวหนังหย่อนคล้อย ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
5. Zermix Forte cream
ครีมบำรุงผิวหน้าสำหรับผิวอักเสบและแพ้ง่ายเรื้อรัง ผลิตภัณฑ์คุณภาพจากเกาหลี โดยมีส่วนผสมเป็นเซราไมด์ กรดไขมัน และคอเรสเตอรอล เหมือนกับที่อยู่ในชั้นผิวหนัง ช่วยสร้างเกราะป้องกันผิวที่แข็งแรงได้มากกว่าเดิม สามารถลดการระคายเคืองของผิวหนังได้ใน 4 สัปดาห์ รู้สึกผิวชุ่มชื้นมากขึ้นถึง 30% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ และล็อคความชุ่มชื้นได้ยาวนานถึง 8 ชม. มีสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยลดการอักเสบเทียบเท่ากับการใช้สเตียรอยด์แบบอ่อน (1%) ช่วยฟื้นฟูผิวหนังพร้อมกับรักษาอาการติดสเตียรอยด์ได้เป็นอย่างดี
สำหรับใครที่มีผิวหน้าแห้งหรือใครที่ต้องการหา มอยส์เจอไรเซอร์ เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวก็ลองดูคุณสมบัติของครีมบำรุงข้างต้น ถ้าสนใจตัวไหน ก็ลองอ่านละเอียดจากร้านค้าและกดสั่งซื้อกันได้เลย
ที่มาข้อมูล: aquaplus , hellokhunmor , pobpad
Comments 2