การเลือกซื้อรองเท้าแม้จะซื้อขนาดมาพอดีหรือลองสวมเดินแล้วก่อนซื้อ หลายคนก็ยังเจอกับปัญหารองเท้ากัด ยังไม่รวมถึงการสั่งซื้อออนไลน์ที่ไม่สามารถลองก่อนได้ พอได้ของมาแล้วลองสวมดูถึงรู้ว่าใส่เดินแล้วไม่สบายอย่างที่คิด บางคนก็ฝืนใส่ต่อไปจนทำให้เป็นแผลที่ส้นเท้า เพราะรู้สึกเสียดายหรือคิดว่าใส่ไปเรื่อย ๆ ก็น่าจะนิ่มขึ้นและกัดน้อยลงไปเอง ในขณะที่บางคนก็จำใจยอมบอกลารองเท้าคู่สวยไปเลย เพราะทนให้ รองเท้ากัด ทุกวันไม่ไหวจริง ๆ แต่ก่อนที่ทุกคนจะตัดสินใจทิ้ง มาลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปใช้กันดูก่อน เป็นวิธีที่ช่วยให้คุณสวมรองเท้าคู่เดิม แต่รู้สึกสบายกว่าเดิมได้
รองเท้ากัดเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง?
- ขนาด รองเท้าที่มีขนาดหลวมเกินไปหรือแน่นเกินไปล้วนเป็นสาเหตุของรองเท้ากัดได้ทั้งนั้น หากคับไปรองเท้าก็จะเบียดกับผิวจนเป็นแผล หากหลวมไปก็จะมีช่องว่างและเกิดการเสียดสีทุกครั้งที่ขยับเท้า แต่หลายคนบอกว่าเวลาลองก็รู้สึกว่าพอดีแล้วนะ ทำไมใส่แล้วรองเท้ายังกัดอีก สาเหตุนั้นมาจากการที่เท้าของคนเรามีการยืดขยายระหว่างวัน ซึ่งมักจะเกิดในช่วงบ่าย ๆ ไปถึงประมาณ 4 โมงเย็น ดังนั้นจึงขอแนะนำให้ซื้อรองเท้าในช่วงนี้จะได้ขนาดที่พอดีสวมใส่แล้วรู้สึกสบายตลอดวัน เพราะหากลองรองเท้าในช่วงเช้าแล้วรู้สึกพอดี ช่วงบ่ายอาจจะรู้สึกคับเกินไปได้
- วัสดุ ขณะสวมรองเท้าเท้าของเราจะเกิดการเสียดสีกับรองเท้าอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นจึงควรเลือกวัสดุที่มีความนิ่มและสบายผิว โดยทั่วไปรองเท้าหนังมักจะทำให้เกิดปัญหา รองเท้ากัด ได้มากกว่ารองเท้าชนิดอื่น โดยเฉพาะในช่วงแรก ๆ ที่หนังยังแข็งอยู่ แต่รองเท้าผ้าใบบางคู่โดยเฉพาะที่มีขอบหนังอยู่บริเวณส้นก็มักทำให้เกิดอาการรองเท้ากัดได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นเวลาซื้อให้ลองใช้มือจับลูบไปบนขอบรองเท้าก่อน หากแข็งเกินไปไม่มีความยืดหยุ่นก็ไม่ควรซื้อ เพราะจะทำให้เกิดการเสียดสีจนเป็นแผลได้
- รูปทรง รูปทรงนั้นไม่ได้หมายถึงรูปทรงของรองเท้าเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงรูปทรงเท้าของเราด้วย เนื่องจากเท้าของแต่ละคนมีลักษณะที่แตกต่างกัน การเลือกซื้อรองเท้าจึงควรเลือกให้เหมาะกับรูปทรงเท้าของเราด้วย
แนะ 6 วิธีแก้ปัญหา รองเท้ากัด ด้วยของรอบตัว
- ทาวาสลีนที่รองเท้า
วาสลีนที่เราใช้ทาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น แก้ปากแห้ง ผิวแห้ง ก็สามารถแก้รองเท้ากัดได้ หากขอบรองเท้าหรือหนังรองเท้าด้านหลังมีความแข็งให้นำวาสลีนหรือปิโตรเลียมเจลทาลงไปให้มีความหนาสักหน่อย แล้วถู ๆ นวด ๆ ทิ้งไว้สักประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง จากนั้นใช้สำลีเช็ดออกให้หมด จะช่วยให้หนังที่แข็งนุ่มขึ้นได้
- ถูด้วยเทียนไข
ใช้เทียนไขธรรมดาที่มีขายทั่วไป แต่แนะนำว่าควรเลือกเป็นเทียนสีขาวจะดีกว่า สีจะได้ไม่ติดรองเท้า จากนั้นให้นำเทียนมาถูบริเวณด้านในของรองเท้า ตรงไหนที่กัดให้ถูวนเน้น ๆ เพื่อให้ไขเทียนเคลือบผิวบริเวณนั้น จะช่วยลดการเสียดสีเวลาสวมใส่และทำให้รองเท้านุ่มขึ้นอีกด้วย
- นวดส้นรองเท้า
วิธีนี้เหมาะมากสำหรับรองเท้าหนังเพราะมักจะนุ่มขึ้นเมื่อใส่ไปนาน ๆ แต่หากรอให้รองเท้านุ่มเองเท้าของเราก็อาจเกิดเป็นแผลไปแล้ว เพราะฉะนั้นเราสามารถย่นระยะเวลาได้ง่าย ๆ ด้วยการนวดรองเท้าเบา ๆ หรืออาจจะใช้ของแข็งมาทุบ โดยวางรองเท้าลงกับพื้นแล้วทุบจากด้านในรองเท้าจะช่วยให้หนังนิ่มขึ้นได้
- ทาน้ำมัน
นอกจากการใช้วาสลีนแล้วยังสามารถใช้น้ำมันทาขอบรองเท้าแทนได้ เช่น น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันมะกอก โดยทาลงไปบริเวณขอบรองเท้าแล้วทิ้งไว้สัก 2 – 3 วัน หากยังหลงเหลือคราบมันให้ใช้สำลีหรือผ้าแห้งเช็ดน้ำมันออกให้หมด เพียงเท่านี้หนังของรองเท้าจะนุ่มใส่ได้สบายขึ้น
- ทาแป้งฝุ่น
ส่วนใครที่รองเท้ากัดส้นแบบฉุกเฉินและยังไม่มีเวลาทำทุกข้อที่กล่าวมา ให้ใช้วิธีง่าย ๆ อย่างการทาแป้งฝุ่น โดยโรยแป้งฝุ่นที่เท้าหรือทาในรองเท้าจะช่วยทำให้ผิวสัมผัสลื่นขึ้น ลดการเสียดสีระหว่างเท้ากับรองเท้า และยังช่วยดูดซับความชื้นทำให้รองเท้าไม่เหม็นอีกด้วย แต่วิธีนี้จะช่วยแก้ปัญหาได้เพียงชั่วคราวเท่านั้นและไม่เหมาะสำหรับรองเท้าสีเข้มเพราะจะทำให้เห็นรอยเลอะเป็นสีขาวได้
- แปะแผ่นรองกันรองเท้ากัดที่ส้นเท้า
วิธีนี้ถือเป็นวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาได้ตรงจุดและแก้ได้แบบทันที แนะนำให้ซื้อแผ่นกันรองเท้ากัดติดบ้านไว้เลย ซึ่งแผ่นกันรองเท้ากัดจะมีลักษณะเป็นสติ๊กเกอร์ที่มีความนุ่มใช้แปะบริเวณส้นหรือปลายข้อรองเท้า เพื่อลดการเสียดสีระหว่างรองเท้ากับผิวหนัง จึงทำให้ใส่รองเท้าได้สบายขึ้น ป้องกันปัญหารองเท้ากัดได้เป็นอย่างดี
หวังว่าเคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยให้ทุกคนสามารถสวมใส่รองเท้าได้สบายขึ้น โดยที่ไม่ต้องโยนรองเท้าทิ้งไปเสียก่อนนะคะ แต่ทางที่ดีที่สุดแนะนำให้ป้องกันตั้งแต่แรกเลย โดยการเลือกรองเท้าที่สวมใส่สบายและขนาดพอดีไว้ก่อน เพราะถึงจะสวยถูกใจอย่างไร แต่ถ้าใส่แล้วเป็นแผลก็เดินไม่สบายอยู่ดี ซึ่งเคล็ดลับในการเลือกนอกจากจะซื้อในช่วงบ่ายที่เท้าขยายมากที่สุดแล้ว ก็อย่าลืมลองยืน เดิน ก้าวขา นั่ง เปลี่ยนอิริยาบถไปเรื่อย ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าสวมใส่สบายจริง ๆ และอาจจะพกแผ่นรองกันรองเท้ากัดเผื่อไว้เป็นตัวช่วยยามฉุกเฉิน
ที่มาข้อมูล : bigc , eucerin , promotions