เชื่อว่าหลายคนต้องเคยผ่านอาการ ร้อนใน กันมาแล้ว เป็นมากน้อยหรือเป็นบ่อยแค่ไหนก็แล้วแต่คน แต่ที่เหมือนกันคงจะเป็นความรำคาญของอาการที่ทำให้เกิดความไม่สบายหลายอย่าง ไล่ตั้งแต่เจ็บปาก มีเม็ดตุ่มพอง ทำให้ไม่อยากเปิดปากพูด พาลไปถึงกินอะไรก็ไม่อร่อย กินของร้อนของเผ็ดก็ไม่ไหว เวลาเป็นทีก็นานกว่าจะหาย ใช้เวลาเป็นสัปดาห์ แปรงฟันก็ลำบาก ทำให้ช่วงร้อนในอาจมีกลิ่นปากทั้งจากอาการอักเสบในปากเอง รวมกับแปรงฟันไม่ค่อยสะอาดอีก ถึงว่าอาการร้อนในนี่ถ้าไม่เป็นได้ก็จะดีกว่า !
สาเหตุของการเกิดร้อนใน
สำหรับใครที่สงสัยว่าแล้วอาการ ร้อนใน เกิดขึ้นจากอะไรก็ต้องบอกว่าเกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ทั้งสาเหตุทางตรงและสาเหตุทางอ้อม สาเหตุทางตรงก็อย่างเช่น เป็นแผลภายในช่องปาก กินอาหารเผ็ดร้อนหรือรสจัดจ้านเกินไป กินของมันของทอด แพ้อาหารบางชนิด ติดเชื้อในช่องปาก หรือขาดวิตามินบี 12 และธาตุเหล็ก ฯลฯ หากอยู่ดี ๆ เป็นร้อนในโดยไม่มีสาเหตุนั่นเป็นเพราะสาเหตุทางอ้อมอย่าง อดหลับอดนอนพักผ่อนไม่พอ ดื่มน้ำน้อย เครียดกังวล เป็นต้น
ร้อนในปาก อันตรายหรือไม่
อาการ ร้อนใน ที่จริงถือว่าไม่เป็นอันตรายมาก อาการส่วนใหญ่คือ เป็นแผลร้อนใน เป็นตุ่มตามจุดต่าง ๆ ในช่องปาก ขนาดใหญ่เล็กแล้วแต่อาการ สามารถรักษาและปล่อยให้หายเองได้ภายในสัปดาห์กว่า ๆ หรือไม่เกิน 10 วัน โดยวิธีรักษาอาการด้วยตนเองซึ่งก็คือการหลีกเลี่ยงจากสาเหตุที่ทำให้เกิดร้อนในนั่นเอง แต่หากมีอาการรุนแรง เช่น เจ็บมาก หรือเป็นแผลขนาดใหญ่ ลองรักษาด้วยตนเองหลายวันแล้วก็ยังไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์
12 เคล็ดลับแก้ ร้อนใน หายได้ผลชะงัด
- ดื่มน้ำ วิธีรักษาอาการร้อนในที่ง่ายและได้ผลเร็วที่สุดคือให้ดื่มน้ำให้มาก อาการร้อนในเกิดจากร่างกายมีอุณหภูมิร้อนเกินไป น้ำจะช่วยลดอุณหภูมิในร่างกายลง ปรับสมดุล แก้อาการร้อนในให้หายได้ น้ำยังช่วยให้ช่องปากชุ่มชื้น ช่วยบรรเทาอาการเจ็บแผลร้อนในได้ดีเช่นกัน หากวันแรก ๆ เจ็บแผลมากหรือเปิดปากไม่ได้ให้พยายามจิบน้ำ
- บ้วนปากด้วยน้ำเกลือ เกลือจะช่วยทำความสะอาดช่องปากและรักษาแผลร้อนในได้ดี ลดแบคทีเรียในช่องปาก ลดกลิ่นปาก สามารถบ้วนได้ 2-3 ครั้งต่อวัน หรือได้บ่อยเท่าที่ต้องการ ใช้น้ำเกลือที่ผสมเองได้ โดยอัตราส่วนเกลือ 1 ช้อนชา ต่อน้ำ 1 แก้ว
- งดอาหารรสจัด รสเผ็ดร้อน ให้หลีกเลี่ยงอาหารเผ็ดร้อนในช่วงที่เป็นร้อนใน ซุปร้อน ส้มตำ ต้มยำ รวมไปถึงอาหารที่มีฤทธิ์เผ็ดร้อนอย่าง ขิง กระเทียม
- รับประทานผักผลไม้ให้มาก ผักผลไม้มีฤทธิ์เย็นและมีวิตามินแร่ธาตุหลายอย่างที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยเลือกผักผลไม้ที่มีวิตามินบี 12 และธาตุเหล็ก เช่น ดอกแค ผักปวยเล้ง ใบบัวบก รากบัว แตงกวา ฟัก ตำลึง มะระ ชะอม สะเดา หัวไชเท้า ถั่วเขียว กระเจี๊ยบ มังคุด ส้มโอ มะเฟือง มะตูม แตงไทย เป็นต้น
- ใช้ยาป้ายแผล หากแผลค่อนข้างรุนแรงหรือมีขนาดค่อนข้างกว้างใช้ยาป้ายแผล ร้อนใน ช่วยให้อาการทุเลาเร็วขึ้น มีทั้งแบบขี้ผึ้ง เจล และครีม โดยป้ายวันละ 3-4 ครั้งต่อวัน ต่อเนื่องจนกว่าแผลจะหาย ควรใช้ยาป้ายแผลหลังอาหารหรือก่อนนอน เพื่อให้ยาได้ออกฤทธิ์กับแผลเต็มที่ ลดกิจกรรมทางปากให้น้อยลงหลังป้ายยา
- ใช้แผ่นปิดแผลในปาก สมัยนี้มีแผ่นแปะแผลในปากออกมาวางจำหน่ายสนนราคาแพงกว่ายาป้าย มีหลายยี่ห้อให้เลือกซื้อ ใช้สะดวกได้ผลดี เป็นแผ่นกลมขนาดเล็ก ด้านหนึ่งมีตัวยาไว้แปะกับแผล แนะนำให้แปะหลังอาหารหรือก่อนนอน
- ใช้น้ำยาบ้วนปาก น้ำยาบ้วนปากที่มีสารละลายของตัวยาช่วยรักษาแผลร้อนในได้เช่นกัน โดยให้บ้วนวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน ส่วนใหญ่น้ำยาบ้วนปากแก้อาการร้อนในหรือเป็นแผลในปากมักเป็นแพทย์ที่สั่งยาให้
- กินยาพาราเซตามอล หากร้อนในมากหรือมีอาการปวดแผลรุนแรง สามารถกินยาพาราเซตามอลเพื่อบรรเทาอาการปวดได้ โดยกินทุก 4-6 ชั่วโมง เมื่อมีอาการ หากอาการหายแล้วควรหยุดยา
- ใช้แปรงสีฟันขนอ่อน ช่วงเวลาที่มีอาการร้อนในเป็นแผลในปากการแปรงฟันจะค่อนข้างลำบาก ให้เลือกแปรงสีฟันขนนุ่มแปรงฟันในช่วงนี้และควรแปรงฟันแต่เบามือ รวมถึงยาสีฟันควรเลือกที่เป็นสมุนไพรมีฤทธิ์เย็น เลี่ยงยาสีฟันที่ใช้แล้วแพ้ วิธีสังเกตคือรอบปากจะแดงหรือบวม
- ดื่มน้ำสมุนไพรจีน เช่น น้ำเก๊กฮวย น้ำจับเลี้ยง น้ำหล่อฮังก๊วย ช่วยลดอาการร้อนในได้ สมุนไพรจีนมีฤทธิ์เย็น สามารถชงดื่มเป็นประจำ
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รักษาสุขภาพจิตให้ดี ผ่อนคลาย ไม่เครียดหรือเป็นกังวล อาการร้อนในจะดีขึ้นได้ในเร็ววัน
- ปรึกษาแพทย์ หากมีอาการรุนแรงหรือรักษาอาการร้อนในด้วยตัวเองด้วยวิธีข้างต้นแล้วไม่ดีขึ้น ให้ปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง อย่างถ้าแผลเกิดจากการติดเชื้อแพทย์จะสั่งยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อให้ รักษาเองที่บ้านก็อาจไม่หายขาด
อาการร้อนในแม้จะไม่เป็นอันตรายอะไร แต่ทำให้ไม่สบายตัว หงุดหงิด รำคาญ เป็นกังวล ใช้ชีวิตประจำวันไม่เหมือนเดิม ดังนั้นหากต้องการหลีกเลี่ยง ป้องกัน หรือรักษาให้หายเร็วขึ้นได้แล้วล่ะก็ควรทำด้วยวิธีข้างต้น จะได้กลับไปใช้ชีวิตประจำวันที่มีความสุขได้เหมือนเดิม
ที่มาข้อมูล: gedgoodlife , sikarin , trueid , hd , trueid , today.line , komachijp , pobpad , bing