หลายคนรับแมวมาเลี้ยงเมื่อตัวโตแล้ว จึงไม่รู้ อายุแมว ซึ่งการไม่รู้อายะแมวสร้างปัญหาในเรื่องการเตรียมอาหารการกินตลอดจนการดูแลสุขภาพที่ไม่เหมาะสม หากอยากรู้ว่าแมวของเราอายุเท่าไรกันแน่ จะดูจากอะไรได้บ้าง มาติดตามกันเลย
ประเมิน อายุแมว จากอะไร
บ้านไหนรับเลี้ยงแมวตั้งแต่เด็ก แมวของเราอายุเท่าไรแล้วคงไม่มีปัญหา ส่วนคนที่รับแมวมาเลี้ยงโดยไม่รู้ว่าแมวอายุเท่าไรกันแน่ เราจะประเมิน อายุแมว จากอะไรได้บ้าง
- ดูอายุแมวจากฟัน
ปกติแล้วฟันแมวเป็นส่วนที่ใช้ดูอายุได้ง่ายที่สุด เมื่อตอนยังเล็ก ฟันหน้าจะเริ่มงอกออกมาก่อน ตามด้วยฟันเขี้ยวและฟันกรามน้อย เป็นจุดสังเกตอายุของแมวได้ง่าย ฟันน้ำนมงอกออกมาครบตอนอายุ 2 เดือน พอมีฟันกรามครบ 4 ซี่ แสดงว่าอายุไม่เกิน 7 เดือน เมื่ออายุครบ 6 เดือน ฟันแท้จึงขึ้นมาแทนที่ฟันน้ำนมทั้งหมดทำให้ดูอายุยากขึ้น แต่ก็ยังสังเกตได้จากสีของฟันแท้
เมื่อโตขึ้นมาหน่อย ฟันแท้ชุดแรกออกมาครบและมีสีขาวนวลชี้ได้ว่าอายุระหว่าง 6-12 เดือน พอฟันเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแสดงว่าอายุราว 1-2 ปีเท่านั้น จนกระทั่งฟันทุกซี่เริ่มมีหินปูนเกาะแสดงว่าอายุได้ 3-4 ปีแล้ว หินปูนมากเท่าไรก็แสดงว่าอายุมากขึ้น หากมีฟันหลุดหายไปบ้างแสดงว่าแมวอายุมากกว่า 10 ปี
ในกรณีที่แมวเจ็บป่วยสุขภาพไม่ดี ทำให้ฟันร่วง หรือขึ้นช้ากว่านี้ก็ได้ โดยอายุขัยของแมวเฉลี่ยอยู่ที่ 12-18 ปี หรือเทียบเท่ากับคนอายุ 88 ปี
- ดูอายุแมวจากดวงตา
สังเกตการเปลี่ยนแปลงของดวงตาแมวบอกอายุได้เหมือนกัน ลูกแมวเริ่มลืมตาเมื่ออายุประมาณ 10-14 วัน บางตัวลืมตาก่อนอายุ 10 วัน และจะลืมตาเบิกกว้างได้เมื่ออายุ 2-3 สัปดาห์ แมวอายุน้อยม่านตาสดใสเป็นประกายและไม่ขุ่นมัว ไม่มีรอยน้ำตาหรือรอยคราบเปื้อนบริเวณตา สีดวงตาตอนแรกมีสีฟ้าสว่างทุกตัว
หลังจากนั้นเมื่อแมวโตเต็มวัยช่วงอายุ 6-7 สัปดาห์ ดวงตาจะเปลี่ยนสีอย่างถาวรและเป็นสีเดิมไปตลอดทำให้ดูอายุแมว จากการเปลี่ยนสีม่านตาไม่ได้อีกแล้ว แมวเด็กมีดวงตาสดใสไปจนถึงอายุมากกว่า 5 ปี ดวงตาค่อนข้างขุ่นมัว พออายุ 7 ปีดวงตาเริ่มมีฝ้าขาวหรือเป็นต้อกระจก
- ดูอายุแมวจากขนและผิวหนัง
ขนแมวแต่ละสายพันธุ์มีความสั้นยาวไม่เท่ากัน หากจะดูอายุแมวจะเส้นขน ควรสังเกตจากความหนาของกระจุกขน โดยปกติแมวอายุไม่เกิน 1 ปีครึ่ง จะมีขนเส้นเล็กและนุ่ม พอแมวอายุมาก มีชั้นขนบางกว่าแมวเด็ก ลองสัมผัสขนแมวจะสัมผัสได้ว่าเส้นขนหนาและหยาบขึ้น เมื่อแมวอายุ 7 ปีขึ้นไป เริ่มมีขนหงอกให้เห็น และสีอ่อนซีดลงเป็นหย่อมๆ เรียกว่าสีขนไม่เสมอกัน
- ดูอายุแมว จากขนาดตัว กระดูก และกล้ามเนื้อ
ช่วงลูกแมวจนถึงอายุ 2 ปีถือว่าโตเต็มวัยแล้ว รูปร่างปราดเปรียวและมีกล้ามเนื้อเนื่องจากแมวซุกซนขยับเคลื่อนไหวร่างกายมากจึงดูแข็งแรงล่ำสัน ตัวกลมๆ น่าอุ้ม เมื่อถึงอายุ 7 ปีจะเริ่มเห็นปุ่มกระดูกตามไหล่ตามตัวชัดเจนขึ้นและมวลกล้ามเนื้อลดลงและผิวหนังหย่อนยาน
- ดูอายุแมวจากนิสัย
แมวเด็กอายุไม่เกิน 1 ปีมีนิสัยร่าเริงขี้เล่นและออกแรงมาก พออายุ 2-5 ปี ยังเล่นบ้างแต่ไม่โลดโผนมากเหมือนตอนเล็กๆ ส่วนแมวอายุ 8 ปีขึ้นไปเป็นแมวสูงอายุ ไม่ค่อยวิ่งเล่นแล้ว สายตาก็ไม่ดี เอาแต่นอนทั้งวัน บางตัวเป็นกังวล มีความกลัว บางตัวถึงขนาดแสดงความก้าวร้าวไม่อยากให้เจ้าของจับตัวบ่อยๆ
ไม่ว่าแมวจะอายุน้อยหรือมาก ล้วนต้องการการดูแลเอาใจใส่จากเจ้าของ กินดีอยู่ดีให้สุขภาพดี แข็งแรงสมวัย เมื่ออายุมากก็ควรปรับอาหารให้เหมาะสมกับอายุด้วย
เช็คเลย วิธีเทียบอายุแมวกับคน
- แมวแรกเกิด – 6 เดือน เทียบเท่ากับคนอายุ 0 – 10 ปี
- แมวอายุ 7 เดือน – 2 ปี เทียบเท่ากับคนอายุ 12 – 15 ปี
- แมวอายุ 3 – 6 ปี เทียบเท่ากับคนอายุ 28 – 40 ปี
- แมวอายุ 7 – 10 ปี เทียบเท่ากับคนอายุ 44 – 56 ปี
- แมวอายุ 11 – 14 ปี เทียบเท่ากับคนอายุ 60 – 72 ปี
- แมวอายุ 15 ปี เทียบเท่ากับคนอายุ 76 ปี
- แมวอายุ 20 ปี เทียบเท่ากับคนอายุ 96 ปี
- แมวอายุ 25 ปี เทียบเท่ากับคนอายุ 116 ปี
สัญญาณของแมวสูงวัย
เมื่อแมวอายุมากขึ้น เจ้าของควรดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ ทั้งเรื่องอาหารการกินตลอดจนการพักผ่อน แมวบางตัวเริ่มแสดงสัญญาณความชราตั้งแต่อายุ 7 ปี แต่บางตัวเริ่มมีอาการแก่ชราเมื่ออายุเกิน 10 ปี ลองสังเกตพฤติกรรมของแมวอายุมาก เช่น เชื่องช้าลง นอนหลับทั้งวัน
- แมวบางตัวเกิดที่อาการคึกคักเวลากลางคืน หรือมีอาการนอนไม่ค่อยหลับ อาจเป็นเพราะป่วยด้วยโรคไทรอยด์เป็นพิษ
- หากแมวมีอายุหลง ๆ สับสน แสดงว่าเริ่มเข้าสู่วัยทองแล้ว อาจเป็นโรคสมองเสื่อมก็ได้
- แมวอายุมากเริ่มกระโดดลำบาก ไต่ขึ้นบันไดช้าๆ เป็นเพราะโรคข้ออักเสบ เจ็บปวดจนไม่ดูแลทำความสะอาดตัวเองจนขนมีลักษณะด้านหรือมัน
- หากมีอาการเจ็บปวด ไม่อยากเล่นกับคน ปัสสาวะเล็ด อาจเกิดจากโรคไตวายก็ได้
- แมวน้ำหนักลดลงเพราะอายุมากเป็นโรคต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคไต โรคหัวใจ หากน้ำหนักขึ้นควรปรับอาหารไม่ให้แมวอ้วนเกินไปทำให้โรคข้ออักเสบเป็นหนักขึ้น
เคล็ดลับดูแลแมวให้แข็งแรงอายุยืน
แมวอายุมากมีปัญหาโรครุมเร้าและพฤติกรรมเปลี่ยนไป ทั้งขยับตัวน้อย ทำกิจกรรมน้อยลง ความอยากอาหารลดลงและน้ำหนักตัวลดลงด้วย ควรพาแมวไปพบแพทย์เช็คสุขภาพทุก 6 เดือน พร้อมกับเลือกอาหารคุณภาพสูงสำหรับแมวสูงอายุโดยเฉพาะเพื่อให้แมวแก่มีสุขภาพดี แข็งแรงและบำรุงขนสวยงาม โดยปกติแมวตัวเมียมีอายุยืนกว่าแมวตัวผู้ หากทำหมันให้แมวจะยิ่งมีอายุยืนขึ้น
แมวสุขภาพดีต้องรูปร่างสมส่วน ไม่อ้วนหรือผอมเกินไป น้ำหนักมาตรฐานของแมวไทยอยู่ที่ 3-4 กิโลกรัม เมื่ออายุมากก็จะไม่มีปัญหาเรื่องโรคกระดูก โรคข้อ และโรคหัวใจด้วย แมวอายุมากมีโรคข้ออักเสบ ควรให้แมวพักผ่อนในที่อุ่นสบาย จัดชามอาหารและกระบะทรายไว้ทุกชั้นที่แมวอยู่ และเลือกกระบะทรายแบบตื้นๆ เพื่อไม่ให้แมวต้องเคลื่อนไหวปีนป่ายมากเกินไป
โดยธรรมชาติของแมวจะรักสะอาด แต่เมื่ออายุแมวมากขึ้นจะละเลยไม่ค่อยเลียขนเท่าไร ควรแปรงขนให้แมวไม่ให้ขนพันกันและเพื่อให้ขนสะอาดมีสุขภาพดี
การเลือกอาหารการกินเป็นเรื่องสำคัญ อร่อยถูกปากอย่างเดียวไม่พอ ควรเปี่ยมด้วยสารอาหารครบถ้วน หากเราดูแลแมวให้สุขภาพดี ทั้งเรื่องอาหารการกินและไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็คสุขภาพเป็นประจำทำให้แมวมีอายุยืน
ที่มาข้อมูล: wikihow, paocathotel, iams.asia , rabbitcare