หลายคนรู้สึกตรงกันว่างานทำความสะอาดบ้านเป็นเรื่องยุ่งยากและทำแต่ละครั้งก็เหนื่อย แต่วันนี้ภาพการทำความสะอาดแบบเดิม ๆ จะเปลี่ยนไป เมื่อคุณได้พบกับ เครื่องดูดฝุ่น ดี ๆ ที่เรากำลังจะนำมาให้คุณเลือกกัน ส่วนจะเป็นอะไร และมีแบบไหนให้เลือกบ้างนั้น เรามีข้อมูลดี ๆ และเป็นสาระประโยชน์มาพร้อมแล้ว มาดูรายละเอียดไปพร้อมกัน
เครื่องดูดฝุ่น มีกี่ประเภท เพื่อให้เลือกซื้อได้อย่างถูกต้อง
การแบ่งประเภทอุปกรณ์สำหรับงานดูดฝุ่นในบ้าน ขึ้นอยู่กับว่าแบ่งตามลักษณะใด โดยหากแบ่งตามวิธีเก็บฝุ่น จะแบ่งเป็นแบบถุงเก็บฝุ่น กล่องเก็บฝุ่น และการอัดเก็บฝุ่นแบบไซโคลน โดยแบบไซโคลนจะทำความสะอาดถังเก็บฝุ่นได้ง่ายกว่า เพราะฝุ่นถูกอัดเป็นก้อนทำให้เทออกได้ง่าย แต่ในวันนี้เราจะแบ่งลักษณะเครื่องตามการใช้งานซึ่งแบ่งได้เป็น 3 แบบ ดังนี้
1. แบบมีสาย
นี่คือรูปแบบเครื่องที่พบได้ทั่วไป มีให้เลือกทั้งแบบถุงเก็บฝุ่นและกล่องเก็บฝุ่น จุดเด่นคือกำลังดูดสูงเพราะต่อปลั๊กกับสายไฟฟ้าในบ้าน ทำให้สามารถผลิตเครื่องที่มีกำลังไฟค่อนข้างสูงได้ ยิ่งมีกำลังสูงก็เท่ากับว่ามอเตอร์มีกำลังสูงขึ้น ทำให้แรงดูดสูงขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ส่วนจัดเก็บฝุ่นยังมีความจุมากตามขนาดเครื่อง ทำให้ใช้งานกับพื้นที่กว้างได้โดยไม่ต้องถอดถุงเก็บฝุ่นบ่อย ๆ
2. แบบไร้สาย
โดดเด่นด้วยขนาดที่เล็กกะทัดรัด และแยกออกได้เป็นแบบมือถือหรือแบบด้ามจับ โดยเครื่องประเภทนี้จะใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ แต่เวลาชาร์จต่อครั้งจะค่อนข้างนานเมื่อเทียบกับระยะเวลาที่ใช้งานได้ เช่น เครื่องที่ใช้ได้ 60 นาที จะต้องใช้เวลาชาร์จไฟต่อครั้งประมาณ 5 ชั่วโมง
3. หุ่นยนต์ดูดฝุ่น
นี่คือนวัตกรรมล่าสุดของงานทำความสะอาด โดยมาพร้อมกับจุดเด่นคือสามารถทำความสะอาดได้ด้วยตัวเอง หลายรุ่นมีเซ็นเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวาง บางรุ่นมีแอปพลิเคชันควบคุมเพื่อกำหนดพื้นที่ทำความสะอาด และหลายรุ่นทำได้ทั้งดูดฝุ่นและถูพื้น อย่างไรก็ตาม ราคาก็สูงกว่าสองประเภทแรกตามไปด้วย
เลือกซื้ออย่างไรให้เหมาะกับการทำความสะอาดและดูดฝุ่น ที่บ้าน ต้องพิจารณาอะไรบ้าง
พื้นที่ซึ่งต้องการนำเครื่องไปใช้
หากคุณต้องการเครื่องสำหรับดูดฝุ่นที่ใช้งานได้ดีกับบ้านที่อยู่อาศัย ก็ต้องเลือกแบบมีสาย เพราะแบบไร้สายจะใช้งานได้ในเวลาจำกัด เช่น หากเป็นบ้านสองชั้น มีหลายห้อง การเลือกแบบไร้สายอาจทำความสะอาดได้แค่ส่วนใดส่วนหนึ่งของบ้านเท่านั้น แต่หากเป็นคอนโดหรืออพาร์ทเม้นท์ การเลือกแบบไร้สายก็ถือว่าตอบโจทย์ เพราะใช้พื้นที่จัดเก็บน้อย และเวลาเพียง 30-45 นาทีก็เพียงพอต่อการดูดฝุ่นหนึ่งครั้ง
พิจารณาฟีเจอร์ที่ต้องการและหัวดูดฝุ่นที่มีให้เลือก
ฟีเจอร์ในที่นี้คือระบบกรองอากาศ เราขอแนะนำให้เลือกเครื่องที่มีตัวกรองแบบ HEPA เพราะจะช่วยดักจับฝุ่นขนาดเล็ก ซึ่งจะช่วยป้องกันอาการภูมิแพ้ได้ นอกจากนี้บางเครื่องยังมีฟีเจอร์ปรับแรงดูดได้หลายระดับ ส่วนหัวดูดฝุ่น ควรเลือกเครื่องที่มีมาให้หลายประเภทตามการใช้งาน เช่น หัวแปรง หัวดูดพรม และหัวดูดแบบปากแคบเพื่อดูดฝุ่นในจุดที่เข้าถึงยาก
เลือกตามงบประมาณ
ราคาเครื่องมีตั้งแต่ระดับหลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่น แต่เครื่องที่มีคุณภาพดี ควรอยู่ในระดับราคาหลักพันขึ้นไป ซึ่งหากคุณตั้งงบไว้ไม่เกิน 5000 บาท โอกาสเลือกเครื่องก็มีได้หลายรูปแบบ เลือกได้ทั้งแบบมีสายและไร้สาย แต่อาจยังเลือกหุ่นยนต์ดูดฝุ่นไม่ได้
รวม 7 เครื่องดูดฝุ่น ในงบไม่เกิน 5000 บาท
หมายเหตุ: ราคาแต่ละรุ่นอ้างอิงจากราคาใน Lazada ณ วันที่ 30 ต.ค. 65
1. Alectric 2V
นี่อาจไม่ใช่แบรนด์ที่หลายคนคุ้นเคย แต่ก็เป็นหนึ่งในแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน ตัวเครื่องมาพร้อมกับถุงเก็บฝุ่นความจุ 1.8 ลิตร กำลังไฟ 1200 วัตต์ และสายไฟยาว 4 เมตร รวมถึงหัวดูดพื้นและหัวดูดเพื่อเข้าถึงซอกแคบซึ่งยากต่อการทำความสะอาด
2. Imarflex VC-935
ตัวเครื่องมาพร้อมกับหัวดูดฝุ่นสองแบบคือ หัวดูดพื้นและหัวดูดซอกแคบ มีความทนทานเพราะผลิตจากพลาสติก ABS มาพร้อมกับสายไฟยาว 3 เมตร และมีระบบเก็บสายไฟอัตโนมัติ มีปุ่มหมุนปรับระดับแรงดูด ใช้กำลังไฟ 1600 วัตต์ ตัวเครื่องมาพร้อมถังเก็บฝุ่นความจุถึง 2 ลิตร เหมาะอย่างยิ่งกับบ้านขนาดใหญ่
3. Sanshiro VC-888
หากใครมองหาเครื่องที่ทำงานได้อย่างหลากหลาย ต้องถูกใจรุ่นนี้ เพราะทำได้ทั้งดูดฝุ่น ดูดน้ำ และเป่าลม ถังเก็บฝุ่นความจุถึง 23 ลิตร (เก็บทั้งฝุ่นและน้ำ) มาพร้อมกับหัวดูดที่หลากหลายทั้งหัวดูดพื้น หัวแปรงปรับระดับได้ หัวดูดพรมและมุ้งลวด และหัวดูดน้ำ ตัวเครื่องตัดการทำงานทันทีเมื่อฝุ่นและของเหลวเต็มถังเก็บ นี่คือเครื่องที่ราคาสบายกระเป๋า แต่ประโยชน์เกินราคาไปมาก
4. Electrolux Z1230CB
Electrolux คือหนึ่งในแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน และสำหรับเครื่องรุ่นนี้ มาพร้อมกับกล่องเก็บฝุ่นขนาดหนึ่งลิตร ถอดออกมาทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย กำลังไฟ 1600 วัตต์ ตัดการทำงานอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัยเมื่อมอเตอร์ทำงานหนักเกินไป
5. Airbot Stick Vacuum Cyclone Boost
ใครที่มองหาเครื่องรุ่นไร้สายราคาเข้าถึงได้ ต้องรุ่นนี้เลย ตัวเครื่องมาพร้อมกับหัวดูดให้เลือกใช้งานอย่างหลากหลาย พร้อมอุปกรณ์เสริมที่สามารถซื้อเพิ่มได้ ปรับระดับแรงดูดได้สองระดับ ทำงานด้วยความแรงต่ำได้สูงสุด 45 นาที ดูดฝุ่นด้วยพลังสูงได้ต่อเนื่อง 15-20 นาที และใช้เวลาชาร์จต่อครั้งประมาณ 4 ชั่วโมง
6. Xiaomi Mi Wireless Vacuum Cleaner Lite
รุ่นนี้จาก Xiaomi เป็นแบบไร้สาย ปรับแรงดูดได้สองระดับ มาพร้อมกับหัวแปรงให้เลือกเปลี่ยนถึง 3 หัว ทำงานได้ต่อเนื่องสูงสุด 45 นาที และใช้เวลาชาร์จต่อครั้ง 5 ชั่วโมง โดยปกติรุ่นนี้ราคาเต็มจะอยู่ที่ 5000 บาท แต่ในหลาย ๆ โอกาสจะมีการลดราคาลงมา จึงเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ
7. Electrolux EC41-2DB
ปิดท้ายกับอีกหนึ่งรุ่นจาก Electrolux มาพร้อมกับแรงดูดพลังสูงเพื่อทุกการทำความสะอาด กำลังไฟ 2000 วัตต์ และถังเก็บฝุ่นขนาดใหญ่ 1.8 ลิตร โดดเด่นด้วยระบบกรองฝุ่น 4 ขั้นตอน และพลังไซโคลนอัดฝุ่นเพื่อง่ายต่อการทำความสะอาดถังเก็บฝุ่น ราคาเต็มไม่ถึงห้าพันบาท แต่หลายครั้งก็มีการลดราคาลง เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจเช่นกัน
ก่อนหน้านี้งานทำความสะอาดอาจจะดูเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่หากมีตัวช่วยเป็น อุปกรณ์ดูดฝุ่น รุ่นใดรุ่นหนึ่งที่เราแนะนำไปข้างต้น งานทำความสะอาดจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นได้อย่างแน่นอน หลายรุ่นมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่โดดเด่น เช่น ดูดน้ำได้ รวมถึงมีรุ่นแบบไร้สายให้เลือก ต้องมีอย่างน้อยหนึ่งรุ่นที่ถูกใจคุณแน่นอน ด้วยการลงทุนครั้งเดียวไม่ถึงห้าพันบาท แต่ความสะดวกสบายขนาดนี้ ถือว่าคุ้มค่าและเหมาะกับทุกบ้าน
Comments 1