การเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กลายเป็นเทรนด์ซึ่งทั่วโลกให้ความสำคัญ หนึ่งในนั้นคือการใช้จักรยาน ซึ่งนอกจากจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังได้ออกกำลังกายด้วย แต่ใครที่รู้สึกว่าการปั่นจักรยานระยะทางไกล ๆ เป็นเรื่องที่เหนื่อยเกินไป วันนี้เรามีทางเลือกใหม่คือจักรยานซึ่งขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (Electric Bike) หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ จักรยานไฟฟ้า หลายคนอาจรู้สึกว่าน่าสนใจ แต่ยังไม่รู้จะเลือกยังไง รุ่นไหนดี ไปหาคำตอบกันเลยครับว่าถ้าอยากเป็นเจ้าของเจ้าจักรยานไฟฟ้าสักคันต้องดูยังไง!
ระหว่างจักรยานธรรมดากับ จักรยานไฟฟ้า ควรเลือกแบบไหนดี
การจะตอบคำถามนี้ได้ จำเป็นต้องทำความเข้าใจข้อดีข้อเสียของจักรยานที่ใช้ไฟฟ้าเสียก่อน เพราะเมื่อรู้แล้ว คุณจะบอกได้ว่าจักรยานประเภทนี้เหมาะกับคุณหรือไม่ โดยข้อดีที่เห็นได้ชัดคือช่วยประหยัดแรงในการปั่น จักรยานไฟฟ้า ใช้แรงขับจากมอเตอร์ซึ่งรับพลังงานจากแบตเตอรี่ ขณะที่ยังมีกระแสไฟฟ้า คุณแทบไม่ต้องใช้แรงปั่นเลย นอกจากนี้ยังมีระบบเกียร์และตัวบิดคันเร่งเพื่อปรับความเร็ว จุดเด่นคือเมื่อไม่มีกระแสไฟฟ้า คุณยังสามารถปั่นได้แบบจักรยานปกติด้วย
อย่างไรก็ตาม จักรยานประเภทนี้มีข้อเสียเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักที่มากกว่าจักรยานธรรมดา เพราะมีน้ำหนักมอเตอร์และแผงควบคุมเข้ามาด้วย รวมถึงราคาก็แพงกว่าจักรยานธรรมดา ถ้าเทียบกับโครงสร้างและคุณสมบัติใกล้เคียงกัน นอกจากนี้เมื่อเกิดความเสียหาย ไม่ใช่ร้านซ่อมจักรยานทุกแห่งจะสามารถซ่อมได้ อีกเรื่องที่ต้องรู้คือจักรยานประเภทนี้ไม่สามารถปั่นลุยน้ำได้ เพราะน้ำจะส่งผลกับระบบมอเตอร์ ที่สำคัญคือมีค่าไฟเพิ่มเติมเนื่องจากการชาร์จแบตเตอรี่ด้วย
ถ้าอยากได้ Electric Bike ต้องเลือกจากอะไรบ้าง
• เลือกจากกำลังมอเตอร์ เพราะยิ่งกำลังมอเตอร์มาก ความเร็วก็จะยิ่งมากขึ้นตามไปด้วย สำหรับการใช้งานทั่วไป ควรเลือกที่กำลังมอเตอร์ 350 วัตต์ เนื่องจากความเร็วสูงสุดจะอยู่ที่ประมาณ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งถือว่าเพียงพอแล้ว
• ปริมาณแบตเตอรี่ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะยิ่งแบตเตอรี่มีความจุมาก ก็ยิ่งทำให้ใช้งานต่อการชาร์จหนึ่งครั้งได้ระยะทางไกลขึ้น
• ฟังก์ชันเพิ่มเติม เช่น ตะกร้าใส่ของสำหรับจักรยานที่ต้องการใช้ปั่นไปซื้อของ หรือจักรยานสามล้อเพื่อเสริมการทรงตัวสำหรับคนที่ปั่นจักรยานไม่ถนัด จักรยานพับได้เพื่อสะดวกต่อการเคลื่อนย้าย ฯลฯ
10 รุ่น จักรยานไฟฟ้า ยอดนิยม
จักรยานไฟฟ้าที่มีทั้งกระจกหลังและไฟ LED เพิ่มความสว่าง แถมมาพร้อมโชคอัพลดการกระแทก ตัวตะกร้าด้านหน้าสามารถจุของได้ ทั้งยังรองรับน้ำหนักถึง 180 กก.
Electric Bike ที่โดดเด่นในเรื่องฟังก์ชั่นจัดเต็ม ทั้งแบตเตอรี่อลูมิเนียมแบบถอดได้ มอเตอร์แม่เหล็กถาวรไร้แปรงถ่าน การลดแรงกระแทกด้านหลังแบบไฮดรอลิกสี่เท่า รวมไปถึงดิสก์เบรกคู่ที่ช่วยให้เบรกได้อย่างรวดเร็ว เพื่อความสะดวกในการจัดเก็บและพกพาติดรถไปใช้ในกิจกรรมท่องเที่ยวต่าง ๆ ขนาดกะทัดรัดเพียง 14 นิ้ว ทำความเร็วได้สูงสุด 25 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป มาพร้อมไฟหน้า-หลังเพื่อความปลอดภัย และมีที่วางโทรศัพท์ด้วย รีวิวจากผู้ใช้ส่วนใหญ่พอใจกับคุณภาพ
มีตะกร้าเก็บของขนาดใหญ่จุใจ เหมาะอย่างยิ่งกับการเป็นจักรยานเพื่องานจ่ายตลาด มอเตอร์ 350 วัตต์ ทำความเร็วได้ 40 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลาชาร์จไฟ 8 ชั่วโมง และใช้งานได้ต่อเนื่องราว 40 กิโลเมตร รวมถึงมีไฟหน้า-หลัง แค่บิดกุญแจก็สว่างทันที
มาพร้อมกับมอเตอร์ขนาด 350 วัตต์ ทำความเร็วได้สูงสุด 35 กม. นอกจากนี้ยังมีกระจกมองหลัง ไฟเลี้ยวหน้า-หลังครบชุด อย่างไรก็ตาม รุ่นนี้ใช้งานได้ต่อเนื่องเพียงประมาณ 40 กม. เท่านั้น จึงไม่เหมาะกับการปั่นในระยะทางไกล
จักรยานไฟฟ้า พับได้ขนาดเล็กกะทัดรัด (ขนาด 14 นิ้ว) ขนาดมอเตอร์ 240 วัตต์ ใช้งานได้ต่อเนื่องประมาณ 40 กม. ทำความเร็วได้สูงสุด 25 กิโลเมตร/ชั่วโมง แม้ว่าจะใช้งานได้เพียงระยะทางสั้น ๆ แต่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ราคาไม่แพงมาก
เป็นจักรยานแบบสกูตเตอร์ไฟฟ้า มอเตอร์ 350 วัตต์ มาพร้อมกับอุปกรณ์ครบครันทั้งไฟ LED หน้า-หลัง ไฟเลี้ยว และกระจกมองหลัง ใช้เวลาชาร์จ 8-10 ชั่วโมง ทำความเร็วได้สูงสุด 35 กม./ชั่วโมง ใช้งานได้ต่อเนื่องประมาณ 65 กิโลเมตร มีตะกร้าใส่ของขนาดใหญ่ กำลังขับของมอเตอร์สามารถปั่นขึ้นเนินที่มีความชัน 30 องศา ได้ ถือเป็นอีกรุ่นที่ลงตัวกับทุกการใช้งาน
จักรยานไฟฟ้า ที่ให้อุปกรณ์มาครบชุด ทั้งไฟ LED หน้า-หลัง ไฟเลี้ยว ตะกร้าใส่ของขนาดใหญ่ และกุญแจรีโมท มอเตอร์กำลังสูง 350 วัตต์ ทำความเร็วสูงสุดได้ 40 กม./ชั่วโมง สามารถขึ้นเนินที่มีความชัน 30 องศาได้ จุดเด่นของรุ่นนี้คือใช้เวลาชาร์จเร็วเพียง 6-8 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าเร็วกว่าหลายรุ่น
ยังคงเป็นอีกรุ่นที่มาพร้อมกับมอเตอร์กำลังขับ 350 วัตต์ แม้ว่าฟังก์ชันจะไม่โดดเด่นเท่ากับหลายรุ่นก่อนหน้านี้ แต่หากคุณมองหาจักรยานไฟฟ้าในราคาสบายกระเป๋า รุ่นนี้ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ
โดดเด่นด้วยการรับน้ำหนักได้สูงสุด 190 กิโลกรัม ใช้งานได้ต่อเนื่อง 40-60 กม. ต่อการชาร์จ 8-9 ชม. ทั้งยังสามารถขับขึ้นทางลาดชันได้ถึง 30 องศา มีไฟหน้าหลังเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
มาพร้อมมอเตอร์ 350 วัตต์ ทำความเร็วได้สูงสุด 40 กม./ชั่วโมง ใช้งานได้ต่อเนื่อง 40 กิโลเมตร รุ่นนี้มาพร้อมกับการรับประกันมอเตอร์หนึ่งปี และรับประกันแบตเตอรี่หกเดือน (รุ่นอื่นที่เรานำมาให้ดู ส่วนใหญ่จะรับประกันระหว่าง 3-6 เดือนเท่านั้น) มาพร้อมกับไฟ LED หน้า-หลัง ความพิเศษคือมีของแถม เช่น หมวกกันน็อคและที่สูบลม แม้ว่าจะวิ่งได้ระยะทางไม่ไกลเท่าอีกหลายรุ่น แต่ด้วยมาตรฐานของแบรนด์ ก็ถือว่าเป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจ
วิธีดูแล จักรยานไฟฟ้า
จักรยานที่ใช้ไฟฟ้า จำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษเพื่อให้ใช้งานได้นาน ทำได้โดยไม่จอดจักรยานไว้ในที่ซึ่งมีความร้อนหรือบริเวณที่น้ำท่วมขัง จอดพักจนมอเตอร์หายร้อนก่อนเริ่มชาร์จแบตเตอรี่ และไม่ควรปล่อยให้แบตเตอรี่หมด หรือเหลือน้อยเกินไป
จักรยานไฟฟ้า มีให้เลือกมากมาย รุ่นที่เรานำมาให้ดูในวันนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ซึ่งหากคุณยังไม่พบเจอรุ่นที่ถูกใจ อาจลองค้นหาดูอีกครั้งโดยใช้เทคนิคที่เรานำมาให้ในเบื้องต้นก็ได้ บางรุ่นอาจมีมอเตอร์พลังสูงกว่า 350 วัตต์ บางรุ่นแบตเตอรี่อาจมีความจุมากกว่า และอาจมีฟีเจอร์เสริมให้เลือกหลากหลาย แต่เทคนิคที่เรานำมาให้ในวันนี้ จะช่วยให้คุณพบจักรยานที่ถูกใจได้ไม่ยาก
ที่มาข้อมูล: thairath , ktc , my-best , sabaiebike