รวมทริค ตั้งชื่อร้านมงคล เสริมความปัง

อย่างที่เจ้าของกิจการทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วว่าการตั้งชื่อร้านนอกจากต้องตั้งให้มีความหมายดี กระชับอ่านง่าย และบ่งบอกถึงสินค้าหรือบริการ เพื่อให้ลูกค้าจดจำง่ายและนึกถึงร้านของตัวเองก่อนร้านของคู่แข่งแล้ว ความเป็นมงคลก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะถึงแม้บางคนจะมองเป็นเรื่องงมงาย แต่เชื่อเถอะว่าการ ตั้งชื่อร้านมงคล จะช่วยให้รู้สึกมั่นใจขึ้นในทุกวันที่เปิดร้าน 

วิธี ตั้งชื่อร้านมงคล ที่เจ้าของกิจการใหม่ต้องรู้

สำหรับคนที่กำลังวางแผนทำธุรกิจใหม่ยังไม่มีชื่อร้านอย่างเป็นทางการ แต่อยากได้ชื่อร้านความหมายดี ๆ มีความเป็นมงคลเพื่อเสริมความปังให้กับกิจการของตัวเอง วันนี้เรามีวิธีตั้ง ชื่อร้านมงคล มาฝาก รับรองไม่ยากอย่างที่คิดแน่นอน

• ตั้งชื่อให้สอดคล้องกับดวงของเจ้าของธุรกิจ

เจ้าของก็เหมือนหัวเรือใหญ่ของธุรกิจมีหน้าที่ตัดสินใจและลงนามทุกอย่างภายในองค์กร ทำให้ตามความเชื่อดวงชะตาของเจ้าของธุรกิจจึงมีผลต่อดวงชะตาของธุรกิจด้วย ดังนั้นเวลาตั้งชื่อร้านจึงสามารถอิงกับดวงของเจ้าของกิจการ โดยดูว่าควรใช้ตัวอักษรหรือตัวเลขใด และที่สำคัญคือตัวอักษรกาลกิณีตามวันเกิด  ซึ่งตามหลักกำหนดไว้ดังนี้ 

• คนเกิดวันอาทิตย์ไม่ควรใช้ตัวอักษร ศ ษ ส ห ฬ ฮ 
• คนเกิดวันจันทร์ไม่ควรใช้ตัวอักษร อ และสระทั้งหมด 
• คนเกิดวันอังคารไม่ควรใช้ตัวอักษร ก ข ค ฆ ง 
• คนเกิดวันพุธกลางวันไม่ควรใช้ตัวอักษร จ ฉ ช ซ ฌ ญ 
• คนเกิดวันพุธกลางคืนไม่ควรใช้ตัวอักษร บ ป ผ ฝ พ ฟ ภ ม 
• คนเกิดวันพฤหัสบดีไม่ควรใช้ตัวอักษร ด ต ถ ท ธ น 
• คนเกิดวันศุกร์ไม่ควรใช้ตัวอักษร ย ร ล ว 
• คนเกิดวันเสาร์ไม่ควรใช้ตัวอักษร ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ 

• ตั้งชื่อตามหลักเลขศาสตร์

หลักเลขศาสตร์เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน เพราะเป็นวิธีที่สามารถใช้กับการวิเคราะห์ดวงชะตาจากทะเบียนรถ ทะเบียนบ้าน ตั้งชื่อลูก และตั้งชื่อร้าน ซึ่งการคำนวณเลขนั้นก็ไม่ยากเพียงนำตัวอักษรไปเทียบกับตารางตัวเลขแล้วนำมาบวกกันได้เท่าไหร่ให้ไปเทียบกับคำทำนาย

โดยถ้าได้ตัวเลขตั้งแต่ 101 – 109 ให้ตัดศูนย์ตรงกลางออก ส่วนตัวเลขตั้งแต่ 110 ขึ้นไปให้เอาเฉพาะเลขสองตัวท้าย เช่น ผลรวม 105 จะได้เลขกำลังเท่ากับ 15 ผลรวม 135 จะได้เลขกำลังเท่ากับ 35 หรือผลรวม 158 จะได้เลขกำลังเท่ากับ 58 เป็นต้น อย่างไรก็ตามปัจจุบันเมื่อคิดชื่อได้แล้วสามารถนำไปตรวจในเว็บไซต์ที่มีบริการคำนวณเลขกำลังก็จะได้ทั้งผลรวมและคำทำนายพร้อม ๆ กันเลย

• ตั้งชื่อที่มีความหมายดี

หากเจ้าของธุรกิจคนไหนที่ไม่ใช่สายโหราศาสตร์ แต่ยังอยากได้ชื่อมงคลแนะนำว่าให้เลือกนำคำที่มีความหมายเชิงบวกหรือคำที่มีความหมายดี ๆ มาใช้ในการตั้งชื่อร้าน ซึ่งคำไทยที่นิยมใช้ ได้แก่ 

• คำว่า สุวรรณ สุพรรณ กนก พัชรี กาญจน์ มีความหมายสื่อถึงทรัพย์สินเงินทอง 
• คำว่า มหา ชนะ ชัย สถาพร ถาวร บารมี ทิพย์ ลาภ เดชา มีความหมายสื่อถึงโชคลาภ มั่นคง ความยิ่งใหญ่ และโชคลาภ 
• คำว่า รุ่งโรจน์ มั่นคง เพิ่มพูน ไพศาล พิบูลย์  สมบูรณ์ ทวี มีความหมายสื่อถึงความเจริญรุ่งเรือง  

แต่นอกจากคำไทยความหมายดี ๆ แล้วยังสามารถใช้ภาษาอังกฤษและภาษาจีนความหมายดี ๆ ได้เช่นกัน อย่างคำว่า “อลินดา (Alinda)” หมายถึงความสวยงาม คำว่า “ไอเดียล (Ideal)” หมายถึงอุดมคติ คำว่า “ดาริน (Darin)” หมายถึงดีเยี่ยม คำว่า “เฮง” หรือ “ฮง” หมายถึงความเจริญรุ่งเรือง คำว่า “จิน” หมายถึงทองคำ คำว่า “เป่า” หมายถึงล้ำค่า คำว่า “ฮก” หรือ “ฮวก” หมายถึงความเจริญงอกงาม

เรื่องต้องรู้เกี่ยวกับการตั้งชื่อร้านที่เจ้าของธุรกิจต้องระวัง

ถึงแม้ในการตั้งชื่อร้านมงคลควรเลือกชื่อที่ถูกต้องตามหลักโหราศาสตร์และมีความหมายดี แต่ถึงอย่างนั้นมีเรื่องที่ควรให้ความสำคัญและระมัดระวัง ส่วนจะมีเรื่องไหนบ้างนั้น มาดูกันเลย

• ตั้งชื่อให้ออกเสียงง่าย ตามหลักชื่อร้านหรือชื่อบริษัทควรออกเสียงง่าย สะกดง่าย เพราะหากเป็นคำที่ยากเกินไป นอกจากอาจทำให้ลูกค้าสับสนแล้ว ยังสร้างความลำบากเวลาติดต่อธุรกิจหรือหน่วยงานราชการอีกด้วย

• ตั้งชื่อสั้นกระชับ อ่านง่าย เขียนง่าย แต่ถ้ายาวเกินไปก็ไม่ดีเช่นกัน เพราะชื่อที่ยาวเกินไปจะส่งผลให้จดจำได้ยาก ด้วยเหตุนี้จึงควรตั้งชื่อให้กระชับได้ใจความหรือสื่อถึงสินค้าและบริการเพื่อให้ลูกค้าจำได้ง่ายขึ้น

• ไม่ควรตั้งชื่อซ้ำกับบริษัทอื่น สมัยก่อนถ้าตั้งชื่อร้านชื่อธุรกิจซ้ำกันแต่อยู่กันคนละสถานที่หรือจังหวัดไม่ค่อยก่อความเสียหายเท่าใดนัก แต่ในยุคที่ธุรกิจส่วนใหญ่เติบโตบนโลกโซเชียลการตั้งชื่อเหมือนหรือคล้ายกับธุรกิจอื่นมากเกินไป นอกจากทำให้ลูกค้าเข้าใจผิด สับสนแล้ว ยังอาจร้ายแรงถึงขั้นเกิดการฟ้องร้องกันได้ 

ขั้นตอนการจดทะเบียนการค้า

เมื่อได้ชื่อร้านค้ามงคลที่ต้องการแล้ว หากต้องการทำให้ถูกต้องควรจดทะเบียนนิติบุคคลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยสามารถดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้

• ตรวจสอบชื่อบริษัทที่จดทะเบียน จากเว็บไซต์ https://dbd.go.th เพื่อป้องกันการจดทะเบียนชื่อซ้ำ หากไม่ซ้ำกับบริษัทอื่นสามารถจองชื่อและยื่นจดทะเบียนได้
• ยื่นจดทะเบียนกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง  สำนักงานเขตที่ตั้งของธุรกิจ องค์การบริหารส่วนตำบลที่ตั้งของธุรกิจ หรือยื่นจดทะเบียนออนไลน์ได้ที่ www.dbd.go.th โดยเตรียมเอกสารแบบคำร้องขอจดทะเบียนพาณิชย์ (แบบ ทพ.) สำเนาบัตรประจำตัว หากเป็นนิติบุคคลต้องใช้หนังสือรับรองบริษัทหรือห้างหุ้นส่วน สำเนาทะเบียนบ้านของสถานที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่หรือสำเนาสัญญาเช่ากรณีเช่าสำนักงาน และแผนที่แสดงสถานที่ตั้ง  ซึ่งนายทะเบียนจะใช้เวลาในการตรวจสอบเอกสารขอยื่นจดทะเบียน

จะเห็นได้ว่าถึงการ ตั้งชื่อร้านมงคล นั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก่อนเคาะว่าใช้ชื่อไหนควรคำนึงเรื่องความยาว ความง่ายในการจดจำ และที่สำคัญไม่ควรซ้ำกับบริษัทอื่น เพียงเท่านี้นอกจากเฮง ๆ ปัง ๆ ทำธุรกิจอย่างมั่นใจแล้ว ยังไม่สร้างปัญหาในภายหลังอีกด้วย และอย่าลืมดูฤกษ์เปิดร้านเพื่อเสริมความเป็นมงคลอีกขั้นหนึ่ง

ที่มาข้อมูล: trueid, happysellingblog, krungthai, lineshoppingseller, fastwork