ปัจจุบัน สมาร์ทโฟนเป็นเหมือนปัจจัยที่ 5 ในชีวิตของคนเรา เพราะแทบทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวันถูกรวมไว้ในสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การทำธุรกรรมการเงิน ช้อปปิ้ง ความบันเทิง รวมถึงข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ แต่ถึงอย่างนั้นเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนก็มีความซับซ้อน ต้องใช้เวลาเรียนรู้พอสมควรกว่าจะใช้งานได้คล่อง โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่คุ้นเคยกับโทรศัพท์แบบมีปุ่มกดมากกว่าอาจจะไม่เข้าใจถึงระบบสมาร์ทโฟน ด้วยเหตุนี้ บรรดาผู้ผลิตมือถือจึงเริ่มกลับมาผลิตมือถือแบบปุ่มกดเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้ากลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งวันนี้เราก็จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ มือถือปุ่มกด ที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบันกัน เพื่อเลือกซื้อให้ผู้สูงอายุที่บ้านได้ใช้ติดต่อได้อย่างสะดวก
ข้อดีของ มือถือแบบปุ่มกด
สำหรับคนส่วนใหญ่ มือถือปุ่มกดอาจจะฟังดูล้าสมัย ใช้งานได้ไม่หลากหลายเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ แต่จริง ๆ แล้ว มันก็มีข้อดีหลายอย่างที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว แม้แต่สมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ราคาหลายหมื่นก็ยังให้ไม่ได้ ซึ่งข้อดีเหล่านี้ทำให้แม้แต่วัยรุ่นหรือคนวัยทำงานหลายคนเลือกที่จะใช้มือถือแบบปุ่มมากกว่าสมาร์ทโฟน ไม่ใช่แค่กลุ่มผู้สูงอายุเท่านั้น
- ราคาถูกกว่าสมาร์ทโฟน มือถือแบบปุ่มกดมีราคาถูกมากเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟน บางรุ่นมีราคาแค่หลักร้อยไม่ถึงพันบาท บางรุ่นที่มีฟังก์ชันครบครันมากขึ้นมีราคาเพียง 1,500 – 2,500 บาทเท่านั้น เพียงเท่านี้ก็ได้มือถือราคาประหยัดที่ใช้โทรออก-รับสายได้, ดู YouTube ได้, ฟังเพลงได้ หรือแม้แต่ดู GPS ได้ หากทำพังหรือหายก็สามารถซื้อใหม่ได้แบบไม่ต้องกังวลใจนัก
- แข็งแรงทนทาน สมาร์ทโฟนเป็นเทคโนโลยีที่มีความซับซ้อนสูง ทำให้มีความเปราะบางมาก ทำหล่นเพียงครั้งเดียวก็อาจเกิดความเสียหายได้ทันที แตกต่างจากมือถือแบบปุ่มกดที่เป็นเทคโนโลยีแบบเก่า ส่วนประกอบภายในไม่มีอะไรซับซ้อน ต่อให้ทำตกพื้น ตกระเบียง ตกน้ำ ก็ไม่พังง่าย ๆ บางรุ่นต่อให้เครื่องแตกกระจาย แค่ประกอบแบตเตอรี่กลับเข้าไปใหม่ก็ใช้งานต่อได้
- แบตเตอรี่อึดทนนาน เนื่องจากมือถือแบบปุ่มกดมีเทคโนโลยีที่ไม่ซับซ้อน ทำให้กินพลังงานน้อย ชาร์จเพียงครั้งเดียวก็ใช้งานได้ยาวนานหลายวัน หรืออาจจะถึงสัปดาห์ บางคนถึงกับจำไม่ได้ว่าชาร์จครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ ขณะที่สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ชาร์จครั้งเดียวใช้งานได้ไม่ถึงวัน
วิธีเลือก มือถือปุ่มกด สำหรับผู้สูงอายุ
มือถือแบบปุ่มกดที่วางจำหน่ายในท้องตลาดปัจจุบันมีด้วยกันหลายรุ่นหลายราคา มีฟังก์ชันเสริมต่างกันไป มีทั้งรุ่นพื้นฐานที่ใช้โทรและส่งข้อความได้อย่างเดียว, รุ่นอัปเกรดที่ใช้อินเทอร์เน็ตแบบ 3G/4G ได้ รวมถึงรุ่นที่มีกล้องถ่ายรูป การเลือกซื้อจึงควรดูให้เหมาะกับความต้องการของผู้ใช้ โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- ขนาดหน้าจอ แน่นอนว่าหนึ่งในปัญหาของผู้สูงอายุก็คือสายตาที่เริ่มแย่ลงเรื่อย ๆ ดังนั้น หน้าจอมือถือควรจะมีขนาดที่ใหญ่พอประมาณ มองเห็นได้ชัดเจน เพื่อให้ใช้งานได้สะดวก โดยหน้าจอที่เราแนะนำควรไม่ต่ำกว่า 2 – 2.5 นิ้ว และหากเป็นไปได้ควรเลือกรุ่นที่มีความละเอียดหน้าจอมากหน่อย เพื่อที่ผู้สูงอายุจะได้อ่านตัวหนังสือหรือดูภาพต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น
- ขนาดปุ่มกด ปุ่มกดควรมีขนาดที่พอดีกับนิ้ว ไม่เล็กเกินไป เพราะจะทำให้ใช้งานลำบากหรือกดผิด รวมถึงตัวอักษร, ตัวเลข และสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่สกรีนอยู่บนปุ่มกดต้องเห็นชัดเจน โดยเฉพาะปุ่มที่มีสัญลักษณ์สำคัญ ๆ เช่น ปุ่มเมนู, โทร และวางสาย ที่ต้องเด่นชัดเป็นพิเศษ เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถกดปุ่มตรงกับสิ่งที่ต้องการได้ง่ายขึ้น
- ระบบเสียง เมื่ออายุมากขึ้น นอกจากประสาทตาจะเริ่มเสื่อมแล้ว ประสาทหูก็จะเริ่มเสื่อมด้วยเช่นกัน ผู้สูงอายุบางคนจึงมีปัญหาด้านการได้ยิน เริ่มได้ยินเสียงไม่ชัด ดังนั้น จึงควรเลือกมือถือที่มีระบบเสียงดังฟังชัด มือถือบางรุ่นสามารถปรับระบบเสียงให้เป็นโหมดผู้สูงอายุโดยเฉพาะได้ ซึ่งจะทำให้ผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านการได้ยินสามารถใช้งานได้สะดวกขึ้น
แนะนำ 5 มือถือปุ่มกด สำหรับผู้สูงอายุ
สำหรับมือถือปุ่มกดที่เรานำมาแนะนำกันในวันนี้ ช่วงราคาจะไม่เกินงบห้าพันบาท ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะมีดีไซน์และฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ มากน้อยไม่เท่ากัน แต่คุณสมบัติโดยรวมถือว่าตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้กลุ่มผู้สูงอายุได้อย่างครบถ้วน ถ้าพร้อมแล้วลองไปดูกันเลยว่ามีรุ่นไหนบ้าง
1. m-horse HaHa (3G)
มือถือแบบปุ่มกดรองรับเครือข่าย 3G มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบสีขนาด 2.8 นิ้ว ปุ่มกดมีขนาดใหญ่ พิมพ์ภาษาไทย ใช้งานง่าย ให้ภาพที่คมชัด รองรับ SD Card ความจุถึง 32GB ตัวเครื่องด้านหลังติดตั้งกล้องมาให้ถึง 3 ตัว พ่วงไฟแฟลช LED พร้อมกล้องหน้า VGA แบตเตอรี่ความจุ 1,400mAh รองรับการใช้งานได้ยาวนานหลายวันโดยการชาร์จเพียงครั้งเดียว สามารถเชื่อมต่อ Bluetooth และวิทยุ FM ได้ในตัว
2. Nokia 215 (4G) 2020
ตัวมือถือมีดีไซน์แบบ Nokia คลาสสิก มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบสี ขนาด 2.4 นิ้ว ความคมชัด QVGA รองรับ SD Card ความจุสูงสุด 32GB สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi และ 4G มีแบตเตอรี่ขนาด 1,150mAh ที่สามารถสแตนด์บายได้นานหลายวัน และยังมีลำโพงติดตั้งมาให้ถึง 2 ตัว ให้เสียงดังฟังชัด แต่จะไม่มีกล้องถ่ายภาพด้านหลังและด้านหน้า โดยรวมแล้วถือเป็นมือถือที่เน้นใช้โทร ส่งข้อความ และเล่นอินเทอร์เน็ต
3. Artfone C1 + (2G)
มือถือขนาดกะทัดรัด มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบสีขนาด 1.8 นิ้ว ความละเอียด QVGA รองรับการเชื่อมต่อบนเครือข่าย 2G เท่านั้น จุดเด่นของมือถือรุ่นนี้คือ ปุ่มกดที่มีขนาดใหญ่ ตัวหนังสือต่าง ๆ มีขนาดใหญ่ชัดเจน แม้จะเป็นผู้สูงอายุที่สายตาไม่ดีก็สามารถใช้งานได้สะดวก จับถือถนัดมือ สามารถใช้โทร ส่งข้อความ ฟังเพลง และฟังวิทยุ FM ได้ และที่สำคัญคือแบตเตอรี่ให้มาที่ขนาด 1,400mAh สามารถสแตนด์บายได้นาน 10 – 12 วันเลยทีเดียว
4. Nokia 8210 (4G)
ตัวมือถือมีดีไซน์สวยงาม ให้ความรู้สึกเรียบหรู มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบสีขนาดใหญ่ถึง 2.8 นิ้ว ภาพคมชัด ตัวปุ่มกดถูกออกแบบให้อยู่ห่างกัน ช่วยให้กดได้แม่นยำขึ้น รองรับ SD Card สูงสุดถึง 32GB ติดตั้งกล้องหลังความละเอียด 0.3 ล้านพิกเซล ไม่มีกล้องหน้า รองรับเล่นอินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่าย 4G และสามารถเชื่อมต่อ Bluetooth ได้ ส่วนแบตเตอรี่ให้มาที่ขนาด 1,450mAh ที่ใช้งานได้แบบอึด ๆ หลายวันโดยการชาร์จแค่ครั้งเดียว
5. inovo I10 EE (3G/4G)
ตัวมือถือมีขนาดค่อนข้างใหญ่ มากับหน้าจอแสดงผลแบบสีขนาดถึง 2.9 นิ้ว ภาพสวยคมชัด ปุ่มกดมีขนาดใหญ่ จัดเรียงห่างกันพอประมาณ ช่วยให้กดได้แม่นยำ ตัวอักษรและตัวเลขต่าง ๆ ก็มีขนาดใหญ่ เห็นชัดเจน ด้านหลังติดตั้งกล้องขนาด 0.3 ล้านพิกเซล พ่วงไฟแฟลช LED และมีช่องลำโพงขนาดใหญ่ให้เสียงดังฟังชัด ตัวเครื่องรองรับการเล่นไฟล์เพลง MP3, MP4 รวมถึงสามารถเล่นอินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่าย 3G/4G ได้ และที่สำคัญคือมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 2,500mAh ที่ใช้งานได้ยาวนานหลายวัน
ทั้งหมดนี้คือสาระความรู้เกี่ยวกับมือถือแบบปุ่มกดที่เราตั้งใจนำมาฝากกันในวันนี้ แม้มันอาจจะดูเป็นอุปกรณ์ที่ล้าสมัยไม่ทันยุคเหมือนสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ ที่แทบจะทำได้ทุกอย่าง แต่มันก็มีจุดเด่นตรงที่มีราคาถูกและใช้งานง่าย เหมาะสำหรับให้ผู้สูงอายุหรือเด็ก ๆ พกติดตัว ถือเป็นอุปกรณ์ที่มีความคุ้มค่า ราคาไม่แพง หากทำหายหรือพังก็ไม่จำเป็นต้องเสียดายมากนัก
ที่มาข้อมูล: thaimobilecenter , amarintv , bestreview