รองเท้า Loafer หนึ่งในประเภทรองเท้าที่คนรักการแต่งตัวสไตล์คลาสสิกต้องมี เพราะนี่คือรองเท้าดีไซน์อมตะ แม้ถูกคิดค้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1930 แต่ถึงอย่างนั้นกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง เมื่อมีแบรนด์ดังแบรนด์หนึ่งหยิบดีไซน์รองเท้าโลฟเฟอร์มาออกแบบใหม่จนได้รับความนิยมอย่างท่วมท้น
ทำให้หลายแบรนด์ผลิตรองเท้าดีไซน์นี้มาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็จะเห็นเหล่าแฟชั่นนิสต้านิยมเลือกรองเท้าโลฟเฟอร์เป็นรองเท้าคู่ใจ แมทช์ได้ทั้งกับวันชิล ๆ หรือแม้แต่วันทางการ โดยเฉพาะสาว ๆ ที่ดูเหมือนจะเทใจให้รองเท้าประเภทนี้ไปแบบเต็ม ๆ
ทำความรู้จัก รองเท้า Loafer สุดคลาสสิก
รองเท้าโลฟเฟอร์เป็นรองเท้าที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1930 จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นจากในอดีตชาวบ้านมักใส่รองเท้าผูกเชือกออกไปทำปศุสัตว์ ก่อนจะค่อย ๆ ดัดแปลงด้วยการเอาส่วนที่เป็นเชือกออกไปเพื่อให้สวมใส่คล่องตัวยิ่งขึ้น
โดยดีไซน์แรกคือการออกแบบรองเท้า Penny Loafer ที่ออกแบบมาให้มีช่องใส่เหรียญเพนนี เวลาใช้โทรศัพท์สาธารณะแบบหยอดเหรียญจะได้พกสะดวก จุดเด่นของรองเท้าประเภทนี้จะไม่มีเชือกและทำจากหนัง แม้ในตอนแรกเป็นรองเท้าสำหรับคุณผู้ชาย แต่ได้ถูกดัดแปลงปรับเปลี่ยนรูปแบบจนเข้ากับคุณผู้หญิงมากขึ้น
จนปัจจุบันกลายเป็นรองเท้าที่ใส่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ได้รับความนิยมในหมู่สาว ๆ ใช้งานได้บ่อยเพราะดีไซน์สุภาพปิดหน้าเท้า โดย รองเท้าโลฟเฟอร์ ยังแบ่งออกเป็นหลายทรง ได้แก่
- Penny ทรงรองเท้าโลฟเฟอร์ที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ช่วงคิดค้น จุดเด่นของรองเท้าเพนนีคือมีสายหนังคาดบริเวณช่วงหน้าเท้า ส่วนใหญ่มาพร้อมโทนสีเรียบง่าย เหมาะกับการออกงานทางการหรือแมทช์กับขาสั้นเพิ่มดีกรีความพรีเมียม หากอยากลองใส่รองเท้าโลฟเฟอร์แต่ไม่ชัวร์ว่าจะใส่ทรงไหน แนะนำให้เลือกทรงนี้เพราะคลาสสิก สาว ๆ หยิบมาใส่ได้บ่อยแน่นอน
- Horsebit ลดความทางการลงมาอีกนิดด้วยรองเท้าทรง Horsebit จุดเด่นคือตัวรองเท้าประดับด้วยโลหะ ทำให้ดีไซน์ไม่ดูเรียบจนเกินไป หากเลือกใส่ดีไซน์หนังกลับจะให้ลุคสไตล์เรโทรเพิ่มความหรูหราให้แก่ลุค แต่หากเลือกดีไซน์หนังจะทำให้ลุคดูเนี้ยบยิ่งขึ้น
- Driving แม้ชื่อรุ่นจะบอกว่าเป็นรองเท้าสำหรับขับรถแต่บอกเลยว่าทรงนี้ใส่แล้วเดินได้สะดวก บริเวณหน้าเท้าออกแบบให้กว้างขึ้น เหมาะกับวันสบาย ๆ แต่ยังคงไว้ซึ่งลุคคลาสสิก
- Tassel ออกแบบลุคให้ดูไม่ธรรมดาด้วยโลฟเฟอร์ Tassel จุดเด่นคือมีพู่ขนาดมินิประดับด้านบนรองเท้า ออกแบบลุคให้ดูมีอะไรยิ่งขึ้นแต่ยังคลาสสิกตลอดกาล
- Kiltie โลฟเฟอร์ทรงนี้จะคล้าย Tassel เอามาก ๆ เนื่องจากมีพู่เหมือนกัน แต่แตกต่างกันที่บริเวณใต้พู่จะมีแฉกอีกชั้น บางแบรนด์ออกแบบมาให้ผูกได้ ดีไซน์น่ารักแต่อมตะ หยิบมาใส่ได้บ่อยแน่นอน
- Slipper แค่ชื่อทรงก็พอคาดเดาได้แล้วว่าเป็นรองเท้าโลฟเฟอร์ที่ออกแบบมาเพื่อการสวมใส่ที่สบาย เหมาะกับการหยิบมาใส่ช่วงวันหยุด ตัวดีไซน์เรียบง่าย วัสดุที่ใช้เน้นใส่สบายและไม่ทางการมากนัก เช่น หนังกลับ ผ้ากำมะหยี่ เป็นต้น
- Espadrille จุดเด่นของทรงนี้คือมีเชือกสานบริเวณส้นรองเท้า สำหรับตัวรองเท้าทำจากผ้า รองเท้าคู่นี้จึงเหมาะกับลุควันสบาย ๆ ไม่ต้องการความเป็นทางการ
รองเท้าโลฟเฟอร์ เลือกอย่างไรให้เหมาะกับลุค
เพราะรองเท้าโลฟเฟอร์มีหลายทรงและหลายดีไซน์ เพราะฉะนั้นลองมาดูกันว่ารองเท้าแบบไหนเหมาะกับลุคอะไร เพื่อเป็นไอเดียแมทช์แบบง่าย ๆ สำหรับสาว ๆ ที่หลงใหลรองเท้าโลฟเฟอร์
- Tassel กับลุคทางการ
วันไหนที่สาว ๆ ต้องการลุคเท่แบบเป็นทางการหรือวันไหนที่อยากออกงานด้วยการใส่สูท รองเท้าโลฟเฟอร์รูปแบบที่เหมาะที่สุดคือ Tassel แนะนำให้เลือกดีไซน์ที่ทำจากหนัง เหมาะอย่างยิ่งกับการแมทช์กับชุดสูทแบบหญิงเท่หรือวันที่ใส่เดรสดีไซน์ชิค ก่อนใส่อย่าลืมทำความสะอาดหนังให้สะอาด เพื่อเพิ่มลุคสุดเนี้ยบ
- เพิ่มความสบายด้วย Driving
วันไหนที่อยากออกแบบลุคให้เป็นWorking Womanแต่ก็ไม่ต้องการความเป็นทางการมากนัก แนะนำให้เลือกใส่ Driving ที่แม้จะชิลกว่า Tassel แต่ยังคงไว้ซึ่งความดูดี สวมใส่สบาย นอกจากแมทช์ในวันทำงานได้แล้วหลายคนยังนิยมใส่ไปเที่ยวเพราะดีไซน์รองเท้าไม่ทางการมากนัก
- Espadrille กับวันชิล ๆ
ตัวเลือกที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับวันที่ต้องแต่งตัวชิล ๆ หรือที่ไม่เน้นความทางการเลยสักนิด เพราะทรงนี้มักออกแบบด้วยหนังกลับและผ้ากำมะหยี่ ทำให้ดูไม่ทางการเท่ารองเท้าหนัง ดีไซน์พื้นรองเท้าแบบสานยังช่วยเพิ่มดีกรีความชิล แมทช์กับกางเกงขาสั้นเป็นอะไรที่ลงตัวสุด ๆ หรือแมทช์กับเดรสตัวสั้นก็ยังได้
จะเห็นว่ารองเท้าโลฟเฟอร์นั้นเอาอยู่ทั้งสำหรับลุควันชิล ๆ และวันที่ต้องการความเป็นทางการ อีกทั้งยังใส่ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่เพื่อการใช้งานยาวนานอย่าลืมดูแลรักษารองเท้าเสมอ โดยเฉพาะหากเป็นรองเท้าหนังที่ควรจัดเก็บในอุณหภูมิไม่ร้อนเกินไป ห่างไกลแสงแดด และเช็ดทำความสะอาดด้วยครีมทำความสะอาดรองเท้าหนังโดยเฉพาะ
หากเป็นรองเท้าโลฟเฟอร์หนังกลับให้ทำความสะอาดด้วยแปรงที่ออกแบบมาเพื่อหนังชนิดนี้โดยเฉพาะ เพียงเท่านี้ก็มีรองเท้าไว้ใช้งานได้แบบยาว ๆ แถมรองเท้ายังดูใหม่เสมอ
ที่มาข้อมูล: Beautyhunter , GQThailand