การไหว้ ส่งเจ้าขึ้นสวรรค์ เป็นอีกหนึ่งวิธีการไหว้เจ้าที่สำคัญของชาวจีน ซึ่งในสำเนียงแต้จิ๋วเรียกวันนี้ว่า เซ้งเจี่ยที ซึ่งจะตรงกับวันที่ 24 เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติจีน ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 15 มกราคม 2566 เรามาทำความรู้จักกันดีกว่าว่าในวันนี้ตามธรรมเนียนแล้วเขาไหว้เทพเจ้าอะไรกัน ไหว้ไปทำไม แล้วมีของไหว้อะไรบ้าง ถ้าอยากรู้แล้วตามไปดูพร้อมกันได้เลย
ทำความรู้จักวันไหว้ ส่งเจ้าขึ้นสวรรค์
วันไหว้ส่งเสด็จเจ้าขึ้นสวรรค์ หรือ เซ้งเจี่ยที นั้นเป็นการไหว้เทพเจ้าครั้งสุดท้ายของปี โดยยึดตามปฏิทินจันทรคติแบบจีน เพราะจะกระทำก่อนวันตรุษจีนหรือวันขึ้นมีใหม่ (วันที่ 1 เดือน 1) ประมาณ 6 วัน ซึ่งจะตรงกับช่วงวันที่ 24 เดือน 12 แต่ถ้าปีไหนที่เดือน 12 มี 30 วัน ให้ยึดเอาวันที่ 25 เดือน 12 แทน ซึ่งหากเทียบวันตามปฏิทินสากลแล้วในปี 2566 จะตรงกับวันที่ 15 มกราคม 2566
ปัจจุบันธรรมเนียมการไหว้ส่งเจ้าขึ้นสวรรค์มีผู้ที่รู้และปฏิบัติกันน้อยลงมาก คนส่วนใหญ่มักจะรู้จักและให้ความสำคัญกับการไหว้ต้อนรับเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยในวันตรุษจีนเสียมากกว่า ซึ่งจริง ๆ แล้วการไหว้ส่งเสด็จเจ้าขึ้นสวรรค์ก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย
ทำไมต้องไหว้ ส่งเจ้าขึ้นสวรรค์
ตามธรรมเนียมจีนเชื่อว่าในหนึ่งรอบปีเทพเจ้าที่ปกปักษ์รักษาอยู่ในโลกมนุษย์จะเสด็จกลับสวรรค์ในช่วงปลายปีก่อนจะเสด็จกลับลงมาในวันตรุษจีน เป้าหมายก็คือเพื่อไปรายงานความดีความชั่วของมนุษย์ให้กับเง็กเซียนฮ่องเต้ซึ่งเป็นเจ้าแห่งสวรรค์ทราบ ซึ่งเทพเจ้าที่ทำหน้าที่นี้ก็คือเทพเจ้าเตาไฟ หรือเจากุง เพราะเป็นเทพเจ้าที่สถิตอยู่ในครัวของทุกบ้าน ใกล้ชิดกับมนุษย์ที่สุด รับรู้ความเป็นอยู่ของมนุษย์ในทุก ๆ เรื่อง ดังนั้นใน วันไหว้ส่งเสด็จเจ้าขึ้นสวรรค์ เทพเจ้าที่ไหว้ก็คือเทพเจ้าแห่งเตาไฟนั่นเอง
สาเหตุที่มีการไหว้เทพเจ้าเตาไฟหรือเจากุงนั้นเป็นเสมือนหนึ่งการติดสินบนกับเทพเจ้าเพื่อให้ท่านนำแต่สิ่งดี ๆ เรื่องดี ๆ ไปบอกแก่องค์เง็กเซียนฮ่องเต้ เพื่อให้ท่านประทานพรและความเป็นสิริมงคลตอบแทนการประพฤติดีประพฤติชอบ แต่ทั้งนี้เราสามารถไหว้ส่งเสด็จเทพเจ้าองค์อื่น ๆ นอกเหนือจากเทพเจ้าเตาไฟได้เช่นกัน เพราะถือว่าเทพเจ้าทุกพระองค์จะเสด็จกลับขึ้นสวรรค์ไปเข้าเฝ้าเง็กเซียนฮ่องเต้เช่นเดียวกัน
ก่อนวันไหว้ส่งเสด็จเจ้าขึ้นสวรรค์ชาวจีนจะทำความสะอาดบ้านเรือน ห้องครัว หิ้งพระ และศาลเจ้าให้สะอาดเอี่ยมอ่อง เพื่อขจัดสิ่งสกปรกและสิ่งไม่ดีออกจากบ้าน เตรียมตัวรับสิ่งดี ๆ ที่จะเข้ามาในช่วงตรุษจีน โดยจะมีการตระเตรียมของไหว้ เริ่มจากการเปลี่ยนกระถางธูปใหม่ จัดการเปลี่ยนอั่งติ๊วหรือแพรแดงเป็นอันใหม่ เปลี่ยนกิมฮวยหรือหางนกยูงบนกระถางธูปใหม่ นอกจากนั้นเตรียมแจกันดอกไม้ กระทงค้อซี ตั่วกิม ส้ม 5 ผล น้ำชา 5 ถ้วย น้ำเปล่า ขนมจับกิ้มหรือขนมจันอับ กระดาษเขียนชื่อเทพเจ้าเตา (เตี่ยฮกเจากุง) วางข้างเตา กระดาษรูปม้าและกระดาษรูปนก
วิธีการไหว้ส่งเสด็จเจ้าขึ้นสวรรค์
ขั้นตอนการไหว้จะกระทำที่หน้าเตาไฟ ในบริเวณบ้าน หรือกลางแจ้งหน้าบ้านก็ได้ เริ่มจากการจุดธูปไหว้เทพเจ้าทุกองค์ในบ้านที่เราบูชา เช่น เทพเจ้ากวนอู เจ้าแม่กวนอิม ฮก ลก ซิ่ว ฯลฯ รวมไปถึงเจ้าที่หรือตี่จู่เอี๊ยะ โดยจะเริ่มต้นทำพิธีในช่วงเช้าเวลา 06.00 – 12.00 น.
จากนั้นกล่าวบูชาเทพเจ้าเตาไฟหรือเตี่ยฮกเจากุง ด้วยธูป 3 ดอก พร้อมกล่าวว่า
“ข้าพเจ้าขอบูชาเทพเจ้าเตาไฟ เตี่ยฮกเจากุง ที่ได้มาสถิตสถานอยู่ในบ้านหลังนี้
ขอน้อมถวายความเคารพด้วยเครื่องสักการะอันประกอบไปด้วย (ระบุสิ่งของที่เตรียมมาถวาย)
ขอพระองค์ทรงรายงานแต่กรรมดีของทุกคนในบ้านแด่องค์เทพผู้เป็นใหญ่ในสรวงสวรรค์
ขอให้ท่านเดินทางไปกลับยังสรวงสรรค์โดยสวัสดิภาพ
เมื่อกลับมาขอทรงนำสิริมงคล (อธิษฐานขอพร)
มาสู่ข้าพเจ้าและครอบครัว ให้หมดทุกข์หมดโศก ปราศจากโรคภัย
สุขอนามัยแข็งแรงสมบูรณ์ แคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง
มั่งมีศรีสุข พบแต่ความเจริญ รุ่งเรืองในลาภ ยศ เงินทอง
ศัตรูแพ้ภัยพ่ายแก่ตนเอง ประสบกับความสิริมงคลตลอดทั้งปี
หากข้าพเจ้าทำผิดประพฤติพลาดประการใดขอท่านโปรดอภัย
ข้าพเจ้าจะประพฤติแต่กรรมดี”
หลังจากกล่าวเสร็จแล้วปักธูปบนกระถาง จากนั้นให้นำเอาเครื่องไหว้ที่เป็นกระดาษทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นกระทงค้อซี ตั่วกิม กระดาษรูปม้าและนก รวมไปถึงกระดาษเขียนชื่อเทพเจ้าเตา (เตี่ยฮกเจากุง) ไปเผาบูชาไฟถวายแด่องค์เทพแห่งเตา ส่วนของไหว้อื่น ๆ สามารถลากลับมารับประทานเพื่อความเป็นสิริมงคลในครอบครัวได้
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านคงเข้าใจการไหว้ เซ้งเจี่ยที หรือการไหว้ส่งเสด็จเจ้าขึ้นสวรรค์กันมากขึ้นแล้ว ประเพณีดูเหมือนว่าจะมีคนที่รู้น้อยลงเต็มที ครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนรุ่นใหม่ ๆ อาจไม่รู้จักกันแล้วก็มี ใครที่อยากจะสืบสานขนบธรรมเนียมและไหว้เจ้าให้ครบสูตรก็อย่าลืมเริ่มไหว้กันตั้งแต่ก่อนตรุษจีนในวันส่งเสด็จเจ้ากลับสวรรค์ยาวไปจนถึงไหว้ช่วงตรุษจีนเลย รับรองว่าเฮงปังรัว ๆ แน่นอน และอย่าลืมตระเตรียมของไหว้กันเอาไว้ด้วย
ที่มาข้อมูล : elephantpublisher , tumsrivichai , springnews
Comments 1