เครื่องฟอกอากาศ เป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่มีการคิดค้นเพื่อช่วยกรองให้อากาศภายในบ้านและสำนักงานให้มีความสะอาด สดชื่น ปราศจากฝุ่นและเชื้อโรคที่เป็นตัวการของโรคระบบทางเดินหายใจ
ในปัจจุบันทั่วโลกและประเทศไทยกำลังเผชิญกับมลภาวะที่เป็นพิษอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะมลภาวะทางอากาศ ทั้งฝุ่น ควัน จากงานก่อสร้าง รถยนต์บนท้องถนน โรงงานอุตสาหกรรมและการเผาซากพืชจากงานเกษตรกรรม ยังไม่นับรวมในส่วนของเชื้อโรค ไวรัสและแบคทีเรียที่ล่องลอยอยู่ในอากาศที่นับวันจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ
เครื่องกรองและฟอกอากาศ (air purifiers) มีขั้นตอนทำงานอย่างไร
หลักการทำงานของเครื่องกรองและฟอกอากาศคือ การดูดอากาศเข้าไปในเครื่องก่อนที่จะกรองอากาศให้บริสุทธิ์ด้วยกระบวนการต่าง ๆ ภายในเครื่อง ก่อนที่จะปล่อยอากาศที่ดีออกมา โดยระบบการทำงานจะแบ่งออกเป็นระบบต่าง ๆ ดังนี้
- ระบบแผ่นกรองอากาศ (air filter) เป็นตัวกรองอากาศด่านแรกก่อนที่จะปล่อยผ่านเข้าไปภายในเครื่อง โดยแผ่นกรองอากาศดังกล่าวทำหน้าที่ดักจับฝุ่น ควัน เชื้อโรคหรือสารต่าง ๆ เช่น กระดาษ ตาข่าย เส้นใยจากไฟเบอร์ ซึ่งความละเอียดในการกรองขึ้นอยู่กับประเภทของวัสดุและกระบวนการผลิตที่นำมาใช้
- ระบบพ่นอนุภาค ระบบที่ใช้ไฟฟ้าสถิตในการพ่นประจุ + และ – ออกมา เพื่อดักจับฝุ่น ละอองและเชื้อโรคต่าง ๆ โดยจะทำหน้าที่ในการปล่อยประจุออกมาจับกับฝุ่นละอองดังกล่าวให้รวมตัวกันและตกลงสู่พื้น
- Gas Air Filter นอกจากการดักจับฝุ่นละออง ไวรัส เชื้อโรคและสารต่าง ๆ แล้ว กลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จำเป็นต้องกำจัดให้หมด เพื่ออากาศที่สดชื่นอย่างแท้จริง ดังนั้น ภายในเครื่องจึงควรมี Gas Air Filter ด้วย เพื่อกรองกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ โดยการทำงานดังกล่าวจะร่วมกับสารเคมีที่มีชื่อว่า Activated Carbon หรือ ถ่านกัมมันต์ ที่มีความสามารถในการดูดซับกลิ่นออกจากอากาศ
- Ozone Generator เป็นอีกหนึ่งระบบที่ได้รับความนิยม เพราะสามารถฆ่าเชื้อไวรัสโคโรน่าและซาร์สได้ โดยโอโซนจะทำหน้าที่ในการแตกตัวออกเป็นออกซิเจนและอะตอม เข้าไปจับกับเชื้อโรคต่าง ๆ เพื่อเข้าทำลาย
- UV Light คือ การใช้ระบบแสงยูวีในการเข้าทำลายเชื้อโรคต่าง ๆ ในอากาศ
หลักในการเลือกซื้อ เครื่องฟอกอากาศ
สามารถใช้หลักการเดียวกันกับการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศได้ เพียงแต่อาจมีรายละเอียดปลีกย่อยเพิ่มเติมที่ผู้ซื้อควรพิจารณา เพื่อจะได้เครื่องกรองและทำความสะอาดอากาศที่เหมาะสมและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ขนาดของห้อง
ขนาดของห้องมีผลอย่างมากในการฟอกอากาศ เช่น การนำเอาเครื่องที่เป็นขนาดเล็กไปวางไว้ในห้องขนาดใหญ่ ก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการฟอกอากาศลดลงหรือเครื่องทำงานหนัก เพราะปริมาณอากาศในห้องมีมากกว่าความสามารถของเครื่อง
- อัตราการไหลเวียนของอากาศ (airflow)
จะต้องสัมพันธ์กัน เช่น ปริมาณอากาศที่ดูดเข้าไปจะต้องปล่อยออกมาเท่า ๆ กัน ยิ่งเครื่องใดที่มีค่า Airflow มาก ยิ่งมีประสิทธิภาพในการทำงานที่มาก
- ระบบกรองอากาศและการทำงาน
การเลือกระบบกรองอากาศและการทำงานเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะแต่ละแบรนด์ต่างก็ชูระบบที่ตนเองคิดค้นว่ามีประสิทธิภาพในการดักจับฝุ่นและเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ดังนั้นควรเลือกเครื่องที่มีระบบ HEPA Filter เป็นหลัก เพราะมีความสามารถในการดักจับและกรองฝุ่นที่มีขนาดเล็กได้ดี ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ต้องดูในส่วนของฟังก์ชันเสริมต่าง ๆ เช่น ระบบฆ่าเชื้อโรค, เซ็นเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศ, วิธีในการกำจัดกลิ่น, อัตราการไหลเวียนของอากาศ เป็นต้น
- Clean Air Delivery Rate
CADR (Clean Air Delivery Rate) คือ อัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์ต่อนาทีที่เครื่องสามารถทำได้ ยิ่งตัวเลขมากเท่าใด ยิ่งมีประสิทธิภาพในการสร้างอากาศที่บริสุทธิ์มากเท่านั้น
- เสียงของเครื่องขณะทำงาน
หากเป็นเครื่องที่สามารถกรองอากาศได้ดีแต่มีเสียงในการทำงานที่ดังมากก็ไม่เหมาะสมนำมาใช้ในบริเวณหรือห้องที่ต้องการความเงียบสงบ เช่น ห้องนอน หรือ ห้องดูหนังฟังเพลง ห้องพักผ่อน ห้องอ่านหนังสือ เป็นต้น เพราะจะมีเสียงรบกวนได้ ดังนั้นในขั้นตอนการทดสอบเครื่องก่อนซื้อ ควรทดสอบในห้องที่เงียบสนิทหรือมีเสียงดังไม่เกิน 30 เดซิเบล
- ราคาและบริการหลังการขาย
อย่ามองแค่ราคาที่ถูกเกินไป แต่ควรมองในเรื่องของการบริการหลังการขายด้วย โดยเฉพาะอะไหล่สิ้นเปลืองต่าง ๆ เช่น ไส้กรองอากาศ, ไส้กรองกลิ่น, การประหยัดพลังงาน, ศูนย์บริการ เพราะต่อให้ราคาถูกมากแค่ไหน หากมีอะไหล่ที่ราคาแพง, รออะไหล่นาน, ศูนย์บริการไม่มี ก็แทบไม่มีประโยชน์ที่จะซื้อมาใช้
แนะนำและเปรียบเทียบฟีเจอร์ของ เครื่องฟอกอากาศ 5 รุ่นน่าใช้ ปี 2022
- PHILIPS รุ่น AC1215
กรองอนุภาคได้เล็กถึง 0.003 ไมครอนด้วยแผ่นกรองแบบ NanoProtect HEPA กรอง PM2.5 ได้ 99% กรองไวรัสได้ 99.9% กรองแบคทีเรีย 99.9% CADR (ควันบุหรี่) 270 ลบ.ม./ชม. ระดับเสียง 33dB(A) ได้รับการรับรองและทดสอบโดย ECARF และ Airmid รับประกัน 2 ปี
เหมาะสำหรับห้องขนาด 20-63 ตารางเมตร
- Tefal รุ่น PT3030FO
มีกรองอากาศ 3 ชั้น ประกอบไปด้วย Pre-filter, Active Carbon filter และ Allergy+filter กรองฝุ่นและสารพิษ (PM2.5) และสารก่อภูมิแพ้ได้ถึง 99.99% อัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์ (CADR) 300 ลบ.ม/ชม. มีระบบเซนเซอร์ตรวจจับอากาศอัจฉริยะ พร้อมไฟบอกคุณภาพอากาศ
เหมาะกับห้องขนาด 120 ตารางเมตร
- Xiaomi Air Purifier 3H Global Version
เป็นเครื่องกรองอากาศจากประเทศจีนที่มีกรองอากาศถึง 3 ชั้น ได้แก่ PET Pre-Filter, HEPA-Filter และ Carbon-Filter สามารถกรองฝุ่น PM2.5 ได้มากถึง 99.99 % รองรับการใช้งานผ่านแอปพลิเคชันมือถือ
เหมาะกับห้องขนาด 45 ตารางเมตร
- Sharp รุ่น FP-F30TA
แม้จะมีขนาดเครื่องเล็กแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ เหมาะกับคอนโดขนาดเล็ก มาพร้อมฟังก์ชันที่ครบครัน มีระบบกรองฝุ่น HEPA กรองฝุ่นขนาดเล็กได้ถึง 0.3 ไมครอน ได้มากถึง 99.97 % พร้อมระบบพลาสม่าคลัสเตอร์ที่ช่วยพ่นอนุภาคช่วยดักจับและฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ รับประกัน 1 ปี
เหมาะสำหรับห้องขนาด 21 ตารางเมตร
- Smart Air รุ่น The Sqair
เป็นเครื่องขนาดเล็กที่คุณภาพไม่เล็กตาม มีความสวยหรูด้วยฐานไม้บีชแท้จากยุโรป มีประสิทธิภาพในการฟอกอากาศ 315 ลูกบาศก์เมตร/ชม. มีพัดลม 3 ระดับ ใช้แผ่นกรองระบบ HEPA สามารถกรองฝุ่นและเชื้อโรคได้ 0.3 ไมครอน เสียงเงียบ 13 เดซิเบล ดังสุดเพียง 52 เดซิเบล ขึ้นอยู่กับระดับของพัดลมที่ใช้งาน มีอัตราการฟอกอากาศ 65-180-315 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง ตามระดับของเบอร์พัดลม
เหมาะสำหรับห้องขนาด 40 ตารางเมตร
ประโยชน์ของการใช้เครื่องฟอกช่วยให้อากาศสะอาดขึ้น
- ช่วยให้ปอดได้รับอากาศที่บริสุทธิ์
คงจะดีไม่น้อยเมื่อกลับถึงบ้านแล้วได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์ได้อย่างเต็มปอด เพื่อให้ปอดมีความแข็งแรงหลังจากต้องผจญกับหมอกควันและมลพิษจากภายนอก
- ลดอาการภูมิแพ้
โรคภูมิแพ้เป็นหนึ่งในโรคที่คนไทยเป็นมากที่สุดโรคหนึ่ง ซึ่งการที่ได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์ก็จะช่วยบรรเทาให้โรคดังกล่าวทุเลาลงได้และหายใจได้สะดวกขึ้น
- ป้องกันเชื้อโรคในอากาศ
ด้วยระบบการกรองดักจับฝุ่นทั้งเชื้อไวรัสและแบคทีเรียที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้เจ้าของบ้านลดการติดเชื้อหรืออาการป่วยจากเชื้อโรคในอากาศได้
หากคุณกำลังมองหา เครื่องฟอกอากาศ ที่มีประสิทธิภาพ อย่ามองเพียงแค่ราคาเพียงอย่างเดียว แต่ควรดูในเรื่องของการรับประกัน การบริการหลังการขายและราคาอะไหล่ เช่น ไส้กรองต่าง ๆ ว่ามีราคาสมเหตุผลหรือไม่ เพราะต่อให้ได้เครื่องฟอกราคาถูกแต่อะไหล่ราคาแพงและไม่มีบริการหลังการขาย ก็จะทำให้ไม่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป
ที่มาข้อมูล: bwellairpurifier , kapook , thanop
Comments 1