หากพูดถึงเรื่องการมูเตลูขอพรความรักไอเทมเด็ดที่ทุกคนต้องรู้จักเลยก็คือ ด้ายแดง เครื่องรางที่ช่วยเสริมดวงความรัก ในบทความนี้เราจึงจะขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ เทพเจ้าเย่ว์เหล่า หรือผู้เฒ่าจันทรา เทพเจ้าด้ายแดงที่ผู้คนต่างนิยมมาขอพรให้พบเจอเนื้อคู่และสมหวังในความรัก
ตำนานเทพเจ้าเย่ว์เหล่า
เทพเจ้าเย่ว์เหล่าเป็นเทพชราที่ทำหน้าที่นำพาให้คนสองคนมารักกัน ตามตำนานเชื่อว่าเทพเจ้าเย่ว์เหล่าจะมีสมุดบันทึกคู่บุพเพสันนิวาสและเชือกวิเศษสีแดงหรือด้ายแดง โดยจะผูกเชือกไว้ที่ข้อมือของคนที่เป็นคู่กันแม้ว่าคนคู่นั้นจะอยู่ไกลกันแสนไกลเพียงใดหรือมีชนชั้นฐานันดรใดก็ย่อมจะได้มาพบและครองรักกันในที่สุด ดังคำกล่าวในสุภาษิตจีนว่า “ห่างกันพันลี้แสนไกล บุพเพเชื่อมไว้ด้วยด้ายแดง”
ตำนานการไหว้เทพเจ้าเย่ว์เหล่าหรือผู้เฒ่าจันทรานั้นมาจากเมื่อครั้งสมัยราชวงศ์ถังมีเรื่องเล่ากันว่า มีบัณฑิตหนุ่มชื่อว่า เหวยกู่ ได้บังเอิญมาพบกับผู้เฒ่าคนหนึ่งที่ถือตำราหน้าตาประหลาดอยู่ เขาจึงเข้าไปถามไถ่ว่าเป็นตำราอะไร ซึ่งผู้เฒ่าผู้นี้ก็คือเทพเจ้าเย่ว์เหล่าหรือผู้เฒ่าจันทรานั่นเอง ผู้เฒ่าจันทราได้บอกกับเขาว่าตำราเล่มนี้คือบันทึกคู่บุพเพสันนิวาส แม้เหวยกู่จะไม่เชื่อแต่ก็อยากรู้ว่าเนื้อคู่ในอนาคตของตัวเองเป็นใคร
ผู้เฒ่าจันทราจึงได้พาเหวยกู่ไปพบกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่มีหน้าตามอมแมม ผู้เฒ่าจันทราได้บอกกับเหวยกู่ว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นคือเนื้อคู่ของเขา เมื่อบัณฑิตหนุ่มรู้ดังนั้นก็รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากจึงสั่งให้ทหารรับใช้ไปสังหารเด็กน้อยผู้นั้น วันเวลาผ่านไปเหวยกู่สอบเป็นจอหงวนได้และแต่งงานกับบุตรสาวของขุนนางใหญ่โต
หลังจากอยู่กินกันสักระยะหนึ่งเขาได้สังเกตเห็นรอยแผลเป็นเหนือคิ้วของภรรยา จึงสอบถามภรรยาจนได้รู้ความจริงว่าภรรยาของเขาก็คือเด็กผู้หญิงที่เขาสั่งให้ทหารรับใช้ไปทำร้าย เขาจึงเล่าเรื่องราวของผู้เฒ่าจันทราให้ภรรยาฟังและได้ทำการขอขมาภรรยา หลังจากเหตุการณ์นี้จึงทำให้เขาเชื่อว่าสิ่งที่ผู้เฒ่าจันทราได้พูดไว้เป็นเรื่องจริง
หลังจากนั้นตำนานของผู้เฒ่าจันทราก็ถูกเล่าขานกันสืบมาอีกหลายรูปแบบ แต่หลัก ๆ เลยก็คือเป็นเทพผู้ทำหน้าที่ผูกด้ายแดงเพื่อนำพาให้คนมารักกัน ส่วนเทพเจ้าเย่ว์เหล่าหรือผู้เฒ่าจันทราเป็นใครนั้นตามตำนานเล่าขานกันว่า มีสามีภรรยาอยู่คู่หนึ่งที่รักกันมาก แต่ภรรยากลับมาด่วนตายจากไปก่อน เมื่อครั้งเธอมีชีวิตอยู่ได้ทำความดีไว้มากจึงได้ไปเป็นพระจันทร์อยู่บนฝากฟ้า
ฝ่ายสามีตั้งสัจจะว่าจะไม่มีใครใหม่ไปตลอดชีวิตและจะผูกหัวใจไว้กับคนรักตลอดไปแม้จะอยู่ห่างไกลกันก็ตาม ต่อมาเขาได้บำเพ็ญตบะจนได้กลายเป็นเซียนแล้วขึ้นไปอยู่กับคนรักบนดวงจันทร์ ซึ่งเขาได้รับมอบหมายหน้าที่ให้นำรายชื่อคนที่ไม่มีคู่มาจับคู่กันโดยการนำด้ายแดงไปผูกเพื่อให้นำพาคนทั้งคู่มาพบรักกัน และนี่จึงเป็นที่มาของชื่อ ผู้เฒ่าจันทรา และด้ายแดงแห่งรัก
การไหว้ขอพร เทพเจ้าเย่ว์เหล่า
การไหว้ขอพรเทพเจ้าเย่ว์เหล่าจะทำการไหว้กันในวันไหว้พระจันทร์ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติจีน ในปี พ.ศ. 2566 ตรงกับวันศุกร์ ที่ 29 กันยายน สำหรับสถานที่ไปไหว้ขอพรเทพเจ้าเย่ว์เหล่าหรือผู้เฒ่าจันทรานั้นที่ดัง ๆ เลยก็จะมีวัดหลงซานที่ไต้หวัน และวัดหวังต้าเซียนที่ฮ่องกง
สำหรับวิธีการขอพรนั้นนอกจากจุดธูปไหว้ตามปกติแล้ว ยังมีขั้นตอนสำคัญที่เรียกว่าการผูกด้ายแดงด้วย เริ่มจากนำนิ้วนางแต่ละข้างประกบนิ้วโป้งแล้วนำมือมาแนบชิดกันพร้อมกับประสานสลับนิ้วก้อยทั้งสองข้างเข้าไปยึดติดกันไว้ จากนั้นคีบด้ายแดงไว้ที่นิ้วชี้กับนิ้วกลางของมือทั้งสองข้าง ตั้งจิตตั้งสมาธิให้ดี แล้วท่องคาถาดังนี้
“โอมจันทรา ศศิประภา นะมะฮา นะโม ไท้อิม ผู่สัก ม่อ ฮ่อ สัก”
จากนั้นอธิษฐานต่อด้ายแดงดังนี้ “ข้าพเจ้าชื่อ…ขอกราบสักการบูชาแด่องค์เทพเย่ว์เหล่า ผู้เฒ่าจันทรา องค์ไท้อิม จันทราเทพ จันทราเทวี ผู้ให้แสงสว่างในยามราตรี ผู้ประทานความสุขสงบร่มเย็นมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ ผู้ประทานความรักที่ยั่งยืน ตราบใดแสงจันทร์สาดส่องในยามราตรี ตราบนั้นหัวใจของข้าพเจ้าเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักชั่วฟ้าดินสลาย” จากนั้นแจ้งความประสงค์เรื่องที่ขอ แล้วคำนับ 3 ครั้ง
แอบกระซิบคนโสดให้ขอด้ายแดงไปผูกคนที่มีบุพเพสันนิวาสร่วมกันและขอให้พบเจอกันโดยเร็ว ยิ่งระบุระยะเวลาไว้ชัดเจนด้วยจะยิ่งดี ส่วนคนที่มีคนคุยหรือมีคนที่ชอบอาจจะระบุชื่อของเขาคนนั้นไปด้วยเลย ว่าขอให้เราและเขาได้มาเป็นคนรักกัน สำหรับคนที่มีคู่แล้วสามารถขอพรให้รักนั้นยืนยาวจนถึงขั้นได้แต่งงานสร้างครอบครัวหรือครองรักกันแบบมั่นคง
หลังจากขอพรแล้วจะต้องนำด้ายแดงไปผูก หากเป็นผู้หญิงให้เดินไปกระซิบขอพรกับรูปปั้นเจ้าสาวแล้วเดินไปผูกด้ายแดงที่รูปปั้นเจ้าบ่าวพร้อมขอให้ได้พบเนื้อคู่โดยเร็วจากนั้นลูบเท้าเจ้าบ่าว 3 ครั้ง หากผู้ขอเป็นชายให้กระซิบขอพรกับรูปปั้นเจ้าบ่าวแล้วเดินไปผูกด้ายแดงที่รูปปั้นเจ้าสาวจากนั้นลูบเท้าเจ้าสาว 3 ครั้ง
นอกจากการขอพรเรื่องความรักแล้วยังขอพร เทพเจ้าเย่ว์เหล่า ในเรื่องอื่น ๆ ได้อีกด้วย เช่น ขอความอุดมสมบูรณ์ ความมั่งคั่ง และโชคลาภ พร้อมกับพกด้ายแดงเป็นเครื่องรางหรือสวมเป็นกำไลเพื่อเสริมดวงได้ ทั้งนี้ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเรื่องของความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณอย่างมีสติ
ที่มาข้อมูล: Thairath, Komchadluek, Uncledeng , The Thaiger