รถเข็นเด็ก เป็นอุปกรณ์ตัวช่วยให้คุณพ่อคุณแม่พาลูกเล็กออกไปข้างนอกได้อย่างสะดวกสบาย เพราะเวลาไปไหนนอกจากจะต้องหอบหิ้วสัมภาระพะรุงพะรังแล้ว อีกมือหนึ่งของคุณพ่อคุณแม่จะต้องอุ้มลูกไปด้วย การอุ้มลูกตลอดเวลานั้นทำให้เมื่อยมากจริง ๆ ดังนั้น แม้หลายคนจะรู้สึกว่ารถเข็นเด็กไม่ใช่อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องมี แต่เชื่อเถอะว่าถ้ามีแล้วจะช่วยให้การไปไหนมาไหนคล่องตัวขึ้นมาก สะดวกสบาย ลดอาการปวดเมื่อยแขนและหลังของคุณพ่อคุณแม่ ช่วยให้ได้เก็บแรงไว้รบกับลูกน้อยต่อเวลากลับถึงบ้าน
เนื่องจากรถเข็นเด็กมีหลายแบบ อีกทั้งราคาค่อนข้างสูง ถ้าจะซื้อทั้งทีแล้วต้องใช้ให้คุ้ม เราจึงจะขอมาแนะนำรถเข็นสำหรับเด็กรุ่นยอดนิยมและวิธีการเลือกซื้อให้เหมาะกับการใช้งานเพื่อช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ตรงตามความต้องการที่แท้จริงและคุ้มค่ามากที่สุด มาติดตามกันเลย
แนะนำการเลือก รถเข็นเด็ก แบบไหนดี ก่อนซื้อให้ลูกน้อย
ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว รถเข็นเด็ก เป็นอุปกรณ์ช่วยเบาแรงเวลาเดินทางไปไหนมาไหน ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องผลัดกันอุ้มลูก ประโยชน์หลัก ๆ คือ ดูแลลูกได้ง่าย ไม่ต้องอุ้มลูกตลอดเวลา จะใช้แทนเปลให้เด็กนอนหลับได้เวลาออกไปนอกบ้าน แม้จะเป็นเด็กวัยเดินได้ แต่พอเหนื่อยและง่วงก็สามารถนอนพักในรถเข็นเด็กได้โดยไม่ต้องอุ้มไว้ตลอด
รถเข็นเด็กนั้นมีหลายแบบหลายขนาด แต่ละรุ่นจะต้องใช้งานตามอายุและน้ำหนักที่แนะนำ เพราะหากใช้รถเข็นเด็กแบบไม่เหมาะสมกับวัยอาจเกิดอุบัติเหตุจนเป็นอันตรายต่อลูกน้อยได้ คำแนะนำต่อไปนี้จะช่วยให้คุณแม่เลือกรถเข็นเด็กที่ดีที่สุดและใช้ได้นานโดยไม่ต้องเปลี่ยนใหม่
รถเข็นเด็กโดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 4 แบบ ดังนี้
- รถเข็นเด็กแบบนอน (Carriage) สามารถปรับนอนราบเป็นแนวตรงได้ 180 องศา เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 3 ปี เหมาะสำหรับการเดินทางทั่วไป เพื่อให้ลูกได้นอนพักหากเกิดง่วง
- รถเข็นเด็กแบบนั่ง (Stroller) ใช้สำหรับนั่งหรือเอนนอนได้ไม่เกิน 150 องศา โดยประมาณ เหมาะกับการใช้งานทั่วไป เช่น พาลูกออกไปเดินเล่นบริเวณใกล้บ้าน
- รถเข็นเด็กแบบเข็นเร็ว (Jogging Stroller) เหมาะสำหรับคุณพ่อคุณแม่นักวิ่ง ทำให้สามารถไปวิ่งพร้อม ๆ กับนำลูกใส่รถเข็นเด็กไปวิ่งด้วยได้
- รถเข็นเด็กแบบคาร์ซีท (Car Seat) ดัดแปลงเป็นที่นั่งนิรภัยในรถยนต์ได้ เหมาะสำหรับพ่อแม่ที่ต้องเดินทางบ่อย พ่อแม่สายท่องเที่ยว หรือเวลานำลูกไปฝากเลี้ยง
รถเข็นเด็ก รุ่นแนะนำ 3 รุ่น ที่คุ้มค่าและได้รับความนิยม
1. DODOLOVE รุ่น D5S
รถเข็นเด็กแบบพับได้ เหมาะสำหรับพ่อแม่ชอบพาลูกน้อยไปด้วยทุกที่ จุดเด่นคือความสะดวกสบาย พับเก็บได้ด้วยมือเดียว โครงสร้างแข็งแรงรับน้ำหนักได้ถึง 50 กิโลกรัม ทั้งน้ำหนักลูกและสัมภาระที่สามารถใส่ไว้ในช่องด้านล่าง เบาะนั่งปรับเอนได้ 3 ระดับ และมีเข็มขัดล็อกแน่นหนาป้องกันการตก เบาะบุผ้าระบายอากาศได้ดีทำให้ไม่ร้อนอึดอัด มีหลังคากันแดด ล้อหน้าใช้สปริงลดการสะเทือนและติดตั้งเบรกที่มีคุณภาพเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น ใช้งานคุ้มค่าตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 4 ปี น้ำหนักรถเข็น 5.7 กิโลกรัม ไม่หนักจนเกินไป
2. Fico รุ่น TR18
รถเข็นขนาดกะทัดรัด พับเก็บได้ด้วยมือเดียว ปรับเอนนอนได้มากถึง 170 องศา น้ำหนัก 6.2 กิโลกรัม ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่หนักเกินไป หากต้องเดินทางบนเครื่องบินยังสามารถนำขึ้นเครื่องได้ โครงสร้างแข็งแรง เบาะนั่งเป็นผ้าตาข่ายมีช่องระบายอากาศช่วยให้ลูกไม่ร้อน หลังคาบังแดดปรับระดับได้ มีระบบสายรัดนิรภัยแบบ 5 จุด ล็อกตัวลูกไว้ไม่ให้ตก ระบบเบรกล็อกได้ทั้ง 2 ล้อ พร้อมสปริงลดแรงกระแทกที่ล้อหน้า ทำให้เคลื่อนที่ไม่มีสะดุด
3. PARENT รุ่น ECOBIKE SET
รถเข็นพร้อมตะกร้าคาร์ซีทที่ติดตั้งรถยนต์ได้ เหมาะสำหรับเด็กตั้งแต่อายุแรกเกิด – 30 กิโลกรัม ปรับเข็นได้ทั้งทิศทางด้านหน้าและด้านหลัง เบาะปรับได้ 2 ระดับ คือ นั่งเอนนอนและนอนราบได้ ส่วนตะกร้าคาร์ซีทเหมาะสำหรับเด็กตั้งแต่อายุแรกเกิด – 13 กิโลกรัม เบาะรองนอนสามารถถอดออกซักทำความสะอาดได้ง่าย ปลอดภัยด้วยระบบเบรกตามมาตรฐานยุโรป ช่องเก็บของด้านล่างขนาดใหญ่ หลังคาคลุมเต็มที่ สามารถเปิดหลังคาโล่งได้ทั้งด้านบนและด้านหลัง
ทริคการเลือกซื้อรถเข็นแบบไหน คุ้มค่าและเหมาะกับไลฟ์สไตล์พ่อแม่มากที่สุด
จะเลือกรถเข็นสักคันที่เหมาะกับลูกน้อยต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย สิ่งแรกที่สำคัญที่สุดก็คือความปลอดภัย ต้องตรวจสภาพรถเข็นเด็กว่าโครงเหล็กมั่นคงแข็งแรง สายรัดและตัวล็อกปรับเข้าออกได้เพื่อให้รัดกระชับพอดีตัว ล้อแข็งแรงแน่นหนา เข็นได้ลื่นไหลไม่ติดหรือสะดุด เบรกและตัวล็อกล้อใช้งานได้ดี บริเวณเบาะนั่งไม่มีวัสดุที่อาจเป็นอันตรายต่อเด็ก ต่อมาต้องดูว่าปรับนั่งหรือนอนได้ระดับไหน ตรงกับความต้องการหรือไม่ ต้องสามารถรองรับขนาดตัวและน้ำหนักของลูกได้อย่างเหมาะสม ส่วนที่จับรถเข็นเด็กต้องให้มีขนาดเหมาะกับคนเข็น ซึ่งก็คือระดับประมาณเอว
ถ้าหากคุณพ่อคุณแม่เป็นคนตัวเล็กหรือมีรูปร่างสูงใหญ่ ขอแนะนำให้เลือกรถเข็นเด็กที่มีที่จับแบบปรับระดับได้เพื่อให้ใช้งานได้อย่างคล่องตัว รถเข็นเด็กแบบพับเก็บได้จะช่วยให้สะดวกมากขึ้นเวลาจัดเก็บในรถยนต์และในบ้าน ข้อสุดท้ายในกรณีที่ใช้งานรถเข็นเด็กแค่เอาไว้เข็นไปเข็นมาใกล้ ๆ อาจไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เช่น ม่านบังแดด ที่แขวนกระเป๋า หรือที่วางสัมภาระ ซึ่งทำให้ราคาแพงขึ้นไปอีก ถ้าจำเป็นต้องใช้ในภายหลังค่อยหาซื้อมาเพิ่มเป็นอุปกรณ์เสริม จะได้ไม่ต้องจ่ายแพงเพื่อซื้อของที่ไม่จำเป็น
รถเข็นเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับคุณพ่อหรือคุณแม่ที่ดูแลเลี้ยงลูกน้อยตามลำพัง ช่วยให้ไม่ต้องอุ้มลูกนาน ๆ เวลาไปไหนมาไหน ลดอาการปวดเมื่อย ไม่ต้องพะวักพะวนกับการต้องอุ้มลูกน้อยพร้อม ๆ กับหอบหิ้วสัมภาระไปด้วย ช่วยให้พาลูกไปนอกบ้านได้สะดวก เพิ่มความคล่องตัว แต่สิ่งสำคัญที่ไม่ควรลืมคือควรมองหารถเข็นที่มีฟังก์ชันตรงกับความต้องการมาใช้งาน เพื่อให้ใช้ได้อย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ที่มาข้อมูล: promotions , thairath , my-best
Comments 1