ภาพถ่ายสวยด้วย กล้องฟิล์ม

สมัยนี้เวลาจะถ่ายรูปแต่ละที ใคร ๆ ก็ใช้สมาร์ตโฟนยกขึ้นมาถ่ายเซลฟี่กันใช่ไหมล่ะ ? หรือเวลาเดินทางเป็นหมู่คณะมักมีใครสักคนเป็นตากล้องเตรียมพร้อมถ่ายรูปให้อยู่เสมอ ซึ่งส่วนใหญ่กล้องที่ใช้ก็มักจะเป็นกล้องดิจิทัล แต่ช่วงนี้กระแส กล้องฟิล์ม ก็กลับมาแรงอีกครั้ง เพราะภาพถ่ายที่ออกมาจะให้กลิ่นอายความคลาสสิกในสมัยก่อน ปนกับความวินเทจนิด ๆ สร้างเอกลักษณ์ให้รูปภาพเราได้มากขึ้น ดังนั้นวันนี้เราจึงมาแนะนำตัวอย่างกล้องฟิล์มกัน ถ้าพร้อมแล้วก็ตามมาเลย

ข้อแตกต่างระหว่างกล้องดิจิทัลกับ กล้องฟิล์ม ที่เห็นได้ชัด

ในด้านของการถ่ายรูปกล้องดิจิทัลไม่จำเป็นต้องใช้แผ่นฟิล์มเหมือนกับ Film Camera จึงส่งผลให้ต้นทุนการถ่ายรูปต่ำกว่าและไม่จำเป็นต้องเสียเวลาล้างรูปดังที่กล่าวไปข้างต้น การบันทึกภาพของกล้องดิจิทัลจะเก็บไว้ใน SD Card ซึ่งทำหน้าที่เป็นหน่วยความจำของกล้อง ต่างกับกล้องชนิดฟิล์มที่บันทึกภาพเก็บไว้ และมาปรับแต่งผ่านคอมพิวเตอร์ไม่ต้องล้างออกมาเพียงอย่างเดียว

อย่างไรก็ตามภาพที่ได้จากกล้องชนิดฟิล์มจัดว่ามีคุณภาพไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเก็บรายละเอียดของภาพได้ดีกว่ากล้องดิจิทัลบางรุ่น สังเกตได้จากแสงและเงาของกล้องชนิดฟิล์ม แม้เป็นเวลาหลังพระอาทิตย์ตกดินก็ยังเห็นเฉดแสงอาทิตย์ตกชัดเป็นทาง ตรงข้ามกับภาพจากกล้องดิจิทัลที่แสงจะกลมกลืนไปในทิศทางเดียวกันไม่ได้แยกออกมาเด่นชัดเท่าภาพจากแผ่นฟิล์ม แต่ปัจจุบันใคร ๆ ก็ชอบการถ่ายรูป แถมอยากได้ภาพที่ถ่ายแล้วเห็นเลย จุดนี้เองทำให้ Film Camera ตกยุคสมัยไป อย่างไรก็ดียังมีกล้องชนิดฟิล์มบางประเภทที่กลับมานิยมอยู่บ้างในปัจจุบัน ได้แก่ กล้องทอย กล้องใช้แล้วทิ้ง และ Rangefinder Film Camera

ตัวอย่างชนิด กล้องถ่ายภาพฟิล์ม ที่ได้รับความนิยม

1. กล้องทอย กล้องที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย ๆ ผู้ถ่ายรูปไม่ต้องกะระยะโฟกัส กดชัตเตอร์ถ่ายรูปได้เลย ฟิล์มที่นำมาใส่ก็เป็นแบบรุ่นเก่า ตอนเริ่มถ่ายให้กรอฟิล์มเสียก่อน ถ้าทำถูกต้องเมื่อกดชัตเตอร์จะได้ยินเสียง “แกร๊ก” หากอยากดูรูปภาพว่าถ่ายดีหรือไม่ ให้นำแผ่นฟิล์มออกไปล้างตามร้านถ่ายรูป

2. กล้องใช้แล้วทิ้ง หลักการทำงานเหมือนกับกล้องทอยทุกอย่างแต่ใช้งานง่ายกว่า แค่แกะห่อออกมาก็เริ่มต้นกดชัตเตอร์ง่าย ๆ ไม่ต้องใส่แผ่นฟิล์มเข้าไปให้ยุ่งยาก เพราะเจ้ากล้องใช้แล้วทิ้งมีฟิล์มติดมาในตัวแล้ว ซึ่งจำนวนฟิล์มนั้นมีจำกัด สูงสุดไม่เกิน 36 แผ่น ยกเว้นบางรุ่นที่ให้เราใส่ฟิล์มใหม่เข้าไปได้ ด้วยการใช้งานที่จำกัดนี้เองทำให้ผู้ถ่ายรูปต้องแม่นเรื่องค่าแสงพอสมควรจึงจะได้ภาพที่ถูกใจมากที่สุด

3. Rangefinder Film Camera กล้องฟิล์มอีกชนิดที่มาพร้อมกับความพิเศษจากการปรับระยะโฟกัสได้ ซึ่งถ้าเป็นกล้องรุ่นเก่า ๆ หากต้องการจะปรับระยะโฟกัสจำเป็นต้องขยับตัวเข้ามาหรือถอยห่างจากระยะวัตถุ เพราะไม่มีฟังก์ชันปรับระยะของกล้องที่ชัดเจน ทำให้ Rangefinder ได้รับความนิยมสำหรับช่างภาพในสมัยก่อนเป็นอย่างมาก แถมมีคุณสมบัติถอดเปลี่ยนเลนส์ตามที่ต้องการได้ด้วย ในขณะที่กล้องทอยและกล้องใช้แล้วทิ้ง เลนส์เป็นอย่างไรก็อยู่อย่างนั้น เนื่องจากปรับเปลี่ยนเลนส์ไม่ได้ ทำให้ภาพที่ออกมาจะถูกใจหรือไม่ ย่อมต้องวัดดวงตอนล้างรูปออกมาแล้วอย่างเดียว เราจึงมักเห็นคนใช้งานกล้องทอยถ่ายวัตถุเลยระยะเฟรมอยู่บ่อย ๆ (ตกขอบเฟรม) แต่ด้วยความสามารถในการถอดเปลี่ยนเลนส์ออกของ Rangefinder นี้เอง จึงทำให้มีราคาค่อนข้างสูงพอสมควรและช่วยลดโอกาสถ่ายพลาดได้อย่างดีเยี่ยม

แนะนำ กล้องฟิล์ม น่าสนใจ สายภาพฟิล์มไม่ควรพลาด

1. Kodak i60

กล้องฟิล์มที่มาพร้อมดีไซน์และสีสันสุดน่ารัก คือ สีม่วงและสีเหลือง ใช้งานไม่ยุ่งยาก น้ำหนักเบาพกพาได้สะดวก สามารถใช้งานซ้ำได้ รองรับขนาดฟิล์ม 35 มม. ความเร็วชัตเตอร์อยู่ที่ 1/125s ทั้งยังสามารถยกเล็งแล้วถ่ายได้เลย เพราะถ้าระยะตั้งแต่ 1 เมตรขึ้นไป เจ้ากล้องตัวนี้จะปรับโฟกัสให้คมชัด เหมาะกับการถ่ายภาพไม่ว่าจะเป็นภาพวิวทิวทัศน์ ภาพหมู่ร่วมกันกับเหล่าเพื่อนฝูง หรืองานครีเอทแบบครึ่งเฟรม รับรองเลยว่าใช้งานคุ้มค่า และยังถ่ายได้ทั้งกลางวันและกลางคืน

2. AgfaPhoto Reusable Photo Camera

เป็นกล้องที่มีคุณสมบัติถอด-เปลี่ยนฟิล์มใหม่ขนาด 35 มม. มาพร้อมกับคุณสมบัติในการทำงานร่วมกันกับฟิล์มสีเนกาทีฟและฟิล์มขาวดำ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายรูปในช่วงเวลากลางวัน เพราะความยาวโฟกัสเลนส์คงที่ ส่วนเวลากลางคืนจะให้ประสิทธิภาพในการถ่ายรูปน้อยกว่า แต่ตัวกล้องมาพร้อมกับความสามารถในการรองรับแผ่นฟิล์มค่า ISO อยู่ในระดับสูงตั้งแต่ 200/400/800 ประกอบกับแสงแฟลชจากหน้ากล้อง ทำให้ช่วยถ่ายรูปในเวลากลางคืนได้ดีพอสมควร 

3. AgfaPhoto LeBox Ocean

ยังคงอยู่กันที่ AgfaPhoto ซึ่งรุ่นนี้ก็เป็นกล้องใช้แล้วทิ้งเช่นเดียวกัน แต่ความพิเศษของกล้องฟิล์มตัวนี้คือสามารถกันน้ำได้ เหมาะสำหรับใครที่รักการแอดเวนเจอร์ ชื่นชอบการดำน้ำดูปะการังใต้ทะเล สามารถพกกล้องรุ่นนี้ไปถ่ายรูปสวย ๆ ใต้น้ำกันได้เลย รับรองว่าภาพที่ออกมาต้องน่าทึ่งสุด ๆ กับฟิล์มสี Agfa Vista 400 สามารถถ่ายได้สูงสุดถึง 27 ภาพ และ ISO อยู่ที่ 400 เรียกได้ว่าใครไปทะเลห้ามพลาดเด็ดขาด!

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับตัวอย่างกล้องถ่ายภาพแบบฟิล์มที่เรานำมาฝากกันวันนี้ แต่ถ้าใครที่ยังเลือกไม่ได้ เรามีคำแนะนำก็คือการเลือกฟิล์มนั้น ค่า ISO เป็นสิ่งที่ช่วยบ่งบอกว่าคุณควรเลือกแผ่นฟิล์มแบบใด เนื่องจากค่า ISO เป็นตัวที่บ่งบอกถึงความสามารถด้านความไวแสง ยิ่งค่ามากเท่าไร ย่อมบ่งบอกถึงการถ่ายรูปในที่มืดซึ่งสูงกว่าเท่านั้น เช่น ISO 200 มีคุณสมบัติถ่ายรูปในที่มืดดีกว่า ISO 100 เป็นต้น ดังนั้นถ้าเลือก Film Camera ดี ๆ ได้แล้ว อย่าลืมดูค่า ISO ของแผ่นฟิล์มด้วยล่ะ เพื่อช่วยให้ภาพถ่ายในเวลากลางคืนเป็นอีกหนึ่งภาพที่น่าประทับใจ

ที่มาข้อมูล: fav-agoodtime , beartai , artificialgrassliquidators