หากคุณกำลังมองหากล้องสำหรับเดินทางไกล ผจญภัยเข้าป่า หรือล่องแก่งกลางน้ำตก การเลือกใช้งานกล้องดิจิทัลธรรมดา ไม่ตอบโจทย์การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติแน่นอน เพราะกล้องดิจิทัลมีน้ำหนักมาก ไม่เหมาะกับการพกพาเข้าไปในสถานที่ดังกล่าว แถมการกันน้ำ กันกระแทกก็น้อยกว่ามาก ด้วยเหตุนี้เอง Action Camera จึงได้รับความนิยมกับสไตล์ท่องเที่ยวแนวผจญภัย ดังนั้นมาดูกันดีกว่าว่า กล้องแอ็คชั่น แตกต่างกับกล้องดิจิทัลรุ่นอื่น ๆ อย่างไรบ้าง
กล้องแอ็คชั่นคืออะไร แตกต่างกับกล้องดิจิทัลทั่วไปอย่างไร
กล้องแอ็คชั่น จุดเด่นคือ ขนาดเล็กกะทัดรัด ใช้งานได้ทุกกิจกรรมไม่ว่าจะเป็นถ่ายรูปใต้น้ำ, ปีนเขา หรือแม้แต่กระโดดร่ม เพราะตัวกล้องกันน้ำได้ดีเยี่ยม คงทนสูง ตกแล้วยังใช้งานต่อได้สบาย ๆ ที่สำคัญ Action Camera ใช้งานสะดวกมาก สามารถติดไว้ตรงส่วนใดของร่างกายผู้ใช้งานก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนอก หัว หรือบริเวณแขน ทำให้เห็นมุมภาพแปลกใหม่ที่กล้องดิจิทัลทำไม่ได้
อีกทั้ง Action Camera มีประสิทธิภาพในการกันสั่นสูง การถ่ายวิดีโอระหว่างกิจกรรมโลดโผนจึงนิ่ง เห็นภาพชัดเจน เปรียบเสมือนถ่ายหนังแอ็คชั่นอยู่ และราคาของกล้องรุ่นดังกล่าวต่ำกว่ากล้องดิจิทัลทั่วไป เนื่องจากไม่เน้นเทคนิคถ่ายรูปให้สวยงามเหมือนกับมือโปรมากนัก นอกจากนี้ Action Camera ยังไม่เพียงแต่เป็นกล้องถ่ายรูปสำหรับกิจกรรมโลดโผนเท่านั้น แต่ยังมีคุณสมบัติใช้งานคู่กับรถยนต์โดยติดตั้งเป็นกล้องหน้ารถ ด้วยประโยชน์การใช้งานเหล่านี้จึงทำให้เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวนั่นเอง
แนะนำ กล้องแอ็คชั่น คุณภาพสูง สเปกเยี่ยม
- GoPro Hero 9 Black
หากพูดถึง กล้องแอ็คชั่น คุณภาพสูง แบรนด์ GoPro จัดว่าการันตีคุณภาพมาอย่างยาวนาน ซึ่ง GoPro Hero 9 มาพร้อมกับวิดีโอความละเอียด 5K 30 Fps กันน้ำลึกถึง 10 เมตร จอด้านหน้าแสดงผลกว้าง 1.4 นิ้ว จอหลังขนาด 2 นิ้ว โดยหน้าจอทั้ง 2 ด้าน เป็นระบบทัชสกรีน
ส่วนซอฟต์แวร์ใช้ระบบกันภาพสั่นไหว Hypersmooth 3.0, รองรับการสั่งการด้วยเสียง GPS Telemetry, ฟังก์ชัน Super Mode ช่วยตั้งค่าให้กล้องทำงานตามสภาพแวดล้อมที่ต้องการ และหากต้องการตัดต่อ GoPro ได้ออกแบบแอปพลิเคชันรองรับการโอนถ่าย+ตัดต่ออย่างง่ายดายอีกด้วย
- DJI OSMO ACTION 3
Action Camera มุมกล้องกว้าง 155 องศา ด้านหน้าและด้านหลังเป็นจอทัชสกรีนสี ความคมชัดระดับ 1080p240 รองรับเทคโนโลยี Fast Charging และการสั่งการด้วยเสียงระยะไกล ขนาดเซ็นเซอร์รับภาพอยู่ที่ 1/1.7 นิ้ว นอกจากนี้ตัวกล้องยังออกแบบมาให้กันตกน้ำลึก แถมเลนส์ป้องกันกระจกกล้องแตกมาให้อีกด้วย
- Insta 360 ONE RS
Action Camera ที่ประกอบด้วยเลนส์ 2 ชนิด ได้แก่ เลนส์เพิ่มระดับ 4 K และเลนส์ 360 องศา 5.7 K เลนส์ทั้ง 2 ชนิดนี้ช่วยเก็บรายละเอียดภาพในวิดีโออย่างดีเยี่ยม ตัวกล้องป้องกันการตกน้ำได้สูงสุด 5 เมตร มาพร้อมกับเทคโนโลยี Flowstate Stabilization ทำให้ป้องกันภาพสั่นไหว
รองรับการถ่ายภาพได้คมชัด ไม่กระตุก และไม้เซลฟี่ที่ให้มายังมีคุณสมบัติ “ล่องหน” ระหว่างถ่ายวิดีโอ จึงเหมือนกับว่ามีใครบางคนกำลังบันทึกภาพให้ ทั้งที่คุณบันทึกภาพด้วยไม้เซลฟี่อยู่คนเดียวนั่นเอง
- Aston Bike camera
กล้องติดหน้ารถมอเตอร์ไซค์ แม้ขนาดกะทัดรัด 2 นิ้ว แต่สเปกโดยรวมจัดว่าไม่แพ้ Action Camera หลายรุ่น เริ่มต้นที่ความคมชัดของ Aston Cam อยู่ที่ 1080 Full HD มุมมองบันทึกภาพกว้าง 120 องศา รองรับการดูไฟล์วิดีโอบันทึกภาพแบบเรียลไทม์และย้อนหลังผ่านสมาร์ทโฟน แถมอัปโหลดวิดีโอบันทึกเหตุการณ์ลง Social Media ได้ง่าย ๆ
นอกจากนี้ยังใช้งานเทคโนโลยี WDR อันมีคุณสมบัติปรับแสงไฟอัตโนมัติ หมดห่วงเวลาขับขี่ตอนกลางคืนแล้วจะมองภาพข้างทางไม่เห็น และถ้ากังวลว่าเมมกล้องจะเต็มเร็วเกินไป Aston Bike Cam สามารถใส่ Micro SD Card เพิ่มได้สูงสุด 128 GB เลยทีเดียว
อยากเป็นเจ้าของ กล้องแอ็คชั่น ต้องดูอะไรบ้าง
- เช็กความต้องการใช้งานของตนเป็นอันดับแรก
ปัญหาหลักของผู้ใช้งาน Action Camera เกือบทุกคนคือกังวลว่าซื้อมาแล้วอาจใช้งานได้ไม่คุ้มค่า เนื่องจากกล้องชนิดดังกล่าวเจาะผู้ใช้งานเฉพาะทางเท่านั้น เช่น นักท่องเที่ยวแนวผจญภัย โดยคนกลุ่มนี้ซื้อมาสำหรับถ่ายภาพมุมพิเศษหรือไบเกอร์ซื้อมาใช้ติดหน้ารถ
ซึ่งในความจริงแล้ว Action Camera ไม่จำเป็นต้องใช้งานสำหรับกิจกรรมเคลื่อนไหวหนัก ๆ ก็ได้ เพราะกล้องชนิดนี้มีคุณสมบัติบันทึกเหตุการณ์ทั่วไปด้วยเหมือนกัน เช่น ถ่ายรีวิวร้านอาหารแนว Vlog หรือไลฟ์สดขายของ เป็นต้น เพราะขนาดเล็ก ใช้งานง่ายกว่ากล้องดิจิทัล
และแน่นอนว่ากล้อง Action สำหรับกิจกรรมเบา ๆ สบาย ๆ ราคาย่อมถูกกว่ากล้องที่ใช้งานโลดโผน ดังนั้นหากกำลังมีไอเดียจะซื้อกล้องประเภทดังกล่าว ควรเช็กความต้องการของตนเองเสียก่อนว่าจะซื้อไปทำอะไรกันแน่ มิเช่นนั้นแล้วซื้อกล้องสเปกแพงมาแต่ใช้ถ่ายวิดีโอทั่วไป ย่อมไม่คุ้มค่า
- การกันน้ำและการกันสั่น
การตัดสินใจเลือกซื้อ Action Camera มีความแตกต่างจากกล้องดิจิทัลปกติทั่วไป กล่าวคือ กล้องดิจิทัลช่างภาพจะพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น ค่ารูรับแสง, เซ็นเซอร์รับภาพ, จุดตกโฟกัส ฯลฯ แต่สำหรับกล้องชนิดแอ็คชั่น เราไม่จำเป็นต้องดูปัจจัยมากมายขนาดนั้น สิ่งที่ต้องเช็กเพื่อเลือกซื้อสินค้ามีแค่ 2 ปัจจัย ได้แก่ 1.การกันน้ำ และ 2.การกันสั่น
เนื่องจากค่าความคมชัด จุดตกโฟกัส หรือเซ็นเซอร์รับภาพของกล้องแต่ละรุ่นนั้นมีความแตกต่างกันไม่มาก สิ่งที่แตกต่างกันจริง ๆ คือ 2 สิ่งนี้เท่านั้น โดยกล้อง Action ราคาสูง การกันน้ำจะอยู่ในระดับ IPX8 หรือกันการตกน้ำได้เกิน 30 เมตรขึ้นไป และช่วยให้ภาพไม่เบลอ คมชัด มือใหม่ถ่ายภาพแล้วออกมานิ่งเหมือนกับมือโปรถ่ายรูปเลยทีเดียว
ไม่ว่าAction Cameraจะมีความคงทน กันสั่นได้ดีแค่ไหน สิ่งสำคัญที่มองข้ามไม่ได้คือการหมั่นบำรุงรักษา เช่น ชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มก่อนการใช้งาน ไม่ชาร์จระหว่างถ่ายรูป เพราะจะทำให้ Cycle ของแบตเตอรี่สั้นลงและแบตเตอรี่เสื่อมเร็วในอนาคต และควรหมั่นใส่เคสของกล้องเป็นประจำ เพื่อป้องกันการตกหล่นกระแทกอย่างรุนแรงจนตัวกล้องพัง หากใช้งานที่สมบุกสมบัน เที่ยวลำธาร น้ำตก ควรใช้เคสกันน้ำด้วยเพื่อให้ประสิทธิภาพการกันน้ำเพิ่มขึ้น
ที่มาข้อมูล: 90seconds , youtube