สเปรย์ดับกลิ่น ที่ใช้ภายในบ้านเป็นสิ่งที่หลายคนมักมองข้าม เพราะคิดว่าไม่ได้มีความจำเป็นต้องมีไว้ติดบ้าน บางคนก็มองว่าเป็นของฟุ่มเฟือย ทั้งที่ความจริงแล้ว เจ้าสเปรย์ปรับกลิ่นนี่แหละที่เป็นตัวช่วยชั้นดีในการสร้างบรรยากาศที่สดชื่น น่าอยู่ ให้กับห้องต่าง ๆ ภายในบ้าน สามารถช่วยดับกลิ่นอับ กลิ่นอาหาร กลิ่นควัน รวมถึงช่วยลดการสะสมของเชื้อโรคต่าง ๆ ได้อีกด้วย สเปรย์ที่วางขายอยู่ตามท้องตลาดปัจจุบันก็มีมากมายหลายรูปแบบให้เลือกซื้อ ดังนั้นก่อนที่จะหยิบสินค้าใส่ตะกร้า วันนี้เราก็มีวิธีเลือกสเปรย์ปรับกลิ่นให้เหมาะกับการใช้งานของแต่ละคนมาฝากกัน
สเปรย์ดับกลิ่น มีให้เลือกกี่แบบ?
สเปรย์ดับกลิ่นที่วางขายอยู่ในท้องตลาดส่วนใหญ่มีด้วยกัน 3 แบบ ได้แก่ แบบหัวฉีดสเปรย์, แบบตั้งโต๊ะ และแบบเสียบปลั๊ก โดยทุกแบบมีจุดประสงค์เดียวกันคือปรับกลิ่นภายในบ้าน สร้างบรรยากาศที่สดชื่น น่าอยู่ ให้กับคนในบ้าน มีความแตกต่างด้านวิธีการใช้งานเพียงเล็กน้อย ดังต่อไปนี้
- แบบหัวฉีดสเปรย์ เป็นแบบที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากช่วยให้อากาศในห้องหอมได้อย่างรวดเร็ว สามารถใช้ได้ทุกพื้นที่ภายในบ้าน เหมาะกับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาทำความสะอาดบ้านมากนัก ข้อดีคือกลิ่นหอมจะฟุ้งกระจายอย่างรวดเร็ว ฉีดปุ๊บก็หอมปั๊บ แต่ข้อเสียคือกลิ่นหอมจะอยู่ได้ไม่นาน ต้องคอยฉีดเรื่อย ๆ
- แบบตั้งโต๊ะ เป็นแบบที่ได้รับความนิยมมากอีกแบบหนึ่ง เนื่องจากใช้งานง่าย เพียงแค่ตั้งไว้บนโต๊ะ กลิ่นหอมก็จะฟุ้งกระจายไปทั่วห้อง ข้อดีคือ ให้กลิ่นหอมที่ยาวนาน แถมการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่สวยงามยังนำมาใช้เป็นของประดับห้องไปในตัวได้ด้วย แต่ข้อเสียคือ ต้องใช้เวลาสักพักกว่ากลิ่นหอมจะฟุ้งกระจายไปทั่วห้อง ตั้งปุ๊บแล้วไม่ได้หอมทันที
- แบบเสียบปลั๊ก เป็นผลิตภัณฑ์ที่รวมข้อดีของทั้งสองแบบแรกเข้าไว้ด้วยกัน เพียงแค่เสียบปลั๊ก ตัวเครื่องก็จะคอยพ่นละอองสเปรย์ออกมาเรื่อย ๆ สามารถมอบความหอมได้ยาวนาน บางรุ่นยังสามารถตั้งเวลาทำงานได้อีกด้วย ข้อดีคือสามารถเปลี่ยนตัวรีฟิลได้เรื่อย ๆ แต่ข้อเสียคือมีราคาค่อนข้างสูง และหาซื้อยากกว่าสองแบบแรก
วิธีเลือก สเปรย์ดับกลิ่น ให้เหมาะกับบ้าน
อย่างที่บอกว่า สเปรย์ดับกลิ่น ที่มีอยู่ในท้องตลาดมีมากมายหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละแบบ หรือแต่ละกลิ่นก็ให้บรรยากาศที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกซื้อจึงควรพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ โดยอิงกับความต้องการของผู้ใช้เป็นสำคัญ ปัจจัยที่ควรพิจารณา มีดังต่อไปนี้
- เลือกตามวัตถุประสงค์การใช้งาน สเปรย์ปรับกลิ่นในปัจจุบันสามารถแบ่งตามวัตถุประสงค์การใช้งานได้เป็น 2 ประเภท คือ สเปรย์ลดกลิ่นจะเน้นการลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในห้อง ลดการสะสมของเชื้อโรค เหมาะสำหรับผู้แพ้น้ำหอม และสเปรย์เพิ่มความสดชื่นจะเน้นการปรับกลิ่นภายในห้องทันทีที่ฉีด ส่วนใหญ่มีส่วนผสมของน้ำหอม และไม่เน้นการจำกัดเชื้อโรค
- เลือกจากกลิ่นของสเปรย์ สเปรย์ปรับกลิ่นมีทั้งประเภทที่มีกลิ่นหอมเข้ม และกลิ่นหอมจาง ๆ การเลือกซื้อจึงควรคำนึงถึงขนาดของห้องที่ต้องการนำไปใช้งาน หากเป็นห้องขนาดเล็ก อากาศถ่ายเทไม่ดีนัก ควรเลือกสเปรย์ที่กลิ่นไม่แรงมาก ไม่อย่างนั้นกลิ่นหอมอาจกลายเป็นกลิ่นฉุนได้ แต่หากเป็นห้องขนาดใหญ่ อากาศถ่ายเทสะดวก ก็ควรเลือกสเปรย์ที่มีกลิ่นหอมเด่นชัดเพื่อให้กลิ่นหอมกระจายไปทั่วทั้งห้อง
- เลือกตามประเภทของหัวฉีดสเปรย์ หัวฉีดสเปรย์ปรับกลิ่นจะมีด้วยกัน 2 แบบ คือ หัวฉีดแบบอัดแก๊ส(เหมือนกระป๋องสเปรย์ฉีดผม) และหัวฉีดแบบธรรมดาที่ไม่อัดแก๊ส(เหมือนกับน้ำยารีดผ้าหรือน้ำยาเช็ดกระจก) โดยหัวฉีดแบบอัดแก๊สมีข้อดีคือทำให้ละอองสเปรย์กระจายได้อย่างทั่วถึงทุกพื้นที่ในห้อง แต่ข้อเสียคือหากเก็บไม่ดี เก็บไม่พ้นแสงแดด อาจเกิดอันตรายได้ ส่วนหัวฉีดแบบธรรมดามีข้อดีคือใช้งานได้ปลอดภัยกว่า อีกทั้งเมื่อใช้หมดยังนำไปรีไซเคิลได้ แต่ข้อเสียคือละอองสเปรย์จะไม่ฟุ้งกระจาย ทำให้ต้องฉีดหลายครั้ง
- เลือกจากปริมาณ สเปรย์ปรับกลิ่นทั้งแบบสเปรย์และแบบตั้งโต๊ะจะมีปริมาณและคำแนะนำการใช้งานระบุเอาไว้ ซึ่งตรงนี้ผู้ใช้จะรู้ได้ว่ามีระยะการใช้นานเท่าไหร่ ยกตัวอย่าง สเปรย์แบบตั้งโต๊ะ และแบบเสียบปลั๊ก ระยะการใช้งานยาวนานประมาณ 1 – 2 เดือน ส่วนแบบหัวฉีดสเปรย์ อันนี้จะขึ้นอยู่กับความถี่ที่ใช้
แนะนำ 5 สเปรย์ดับกลิ่น ช่วยปรับอากาศในบ้าน
สำหรับสเปรย์ดับกลิ่นที่เรานำมาแนะนำกันในวันนี้มีด้วยกัน 5 รุ่นจาก 5 แบรนด์ดัง ซึ่งทุกรุ่นผ่านการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมที่น่าเชื่อถือ ปลอดภัยต่อการใช้งาน หากใช้งานอย่างถูกวิธีก็จะไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของคนในบ้านอย่างแน่นอน ส่วนจะมีผลิตภัณฑ์ตัวใดบ้าง ไปติดตามกันเลย
1. R-FRESH Jasmine
สเปรย์ปรับอากาศกลิ่นมะลิ ขนาด 280 มิลลิลิตร แบบแพ็ค 2 ชิ้น มาพร้อมคุณสมบัติ 3 in 1 ที่ช่วยปรับอากาศให้สดชื่นจากกลิ่นหอมของมะลิ, ช่วยลดกลิ่นอับที่ไม่พึงปรารถนา เช่น กลิ่นอับจากเสื้อผ้า และยังคงความหอมสดชื่นได้ยาวนาน เพียงแค่เขย่าแล้วฉีดตรงกลางห้อง เหมาะสำหรับใช้งานในห้องนอน, ห้องน้ำ, ห้องนั่งเล่น, ห้องครัว , ในรถยนต์ เป็นต้น
2. Daily Fresh Back 2 Nature (Tropical Orient)
สเปรย์ปรับอากาศกลิ่นส้ม ขนาด 300 มิลลิลิตร ช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ เพิ่มความสดชื่นให้อากาศ มีส่วนผสมของน้ำหอมที่เป็นสารสกัดน้ำมันหอมระเหย ให้กลิ่นหอมจากธรรมชาติ ตัวหัวสเปรย์ถูกออกแบบให้พ่นละอองฝอยแบบละเอียดเพื่อการดักจับกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ทั่วทั้งห้อง เหมาะสำหรับเติมความสดชื่นภายในห้องต่าง ๆ ได้อย่างยาวนาน
3. Glade Aerosol Spray Air Freshener Sakura
สเปรย์ปรับอากาศกลิ่นซากุระ ขนาด 320 มิลลิลิตร ช่วยกำจัดกลิ่นอับและเติมอากาศสดชื่นภายในบ้าน ผสมด้วยกลิ่นหอมจาง ๆ ของดอกไม้หลากชนิดทั้งดอกไฮเดรนเยีย, มะลิ, พีโอนี, ไวโอเล็ต และกุหลาบ เพิ่มความสงบด้วยกลิ่นอ่อน ๆ ของแป้งผสานกลิ่นไม้แซนดัลที่สร้างบรรยากาศอบอุ่น ช่วยปรับอากาศให้สดชื่น มีชีวิตชีชวา ละอองสเปรย์มีขนาดเล็ก ทำให้ดักจับกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ได้ดี เหมาะสำหรับฉีดพ่นในห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องนอน และพื้นที่มุมอับต่าง ๆ ภายในบ้าน
4. Oasis Natural Air Freshener
สเปรย์ปรับอากาศกลิ่นดอกไม้นานาชาติ ขนาด 320 มิลลิลิตร มีส่วนผสมของน้ำหอมเข้มข้นจากสารสกัดธรรมชาติ (Natural Extract) ช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เพิ่มความหอมสดชื่นได้อย่างรวดเร็วเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์จึงไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผู้ที่ผิวแพ้ง่าย ละอองสเปรย์มีขนาดเล็ก กระจายความหอมได้อย่างทั่วถึง เหมาะสำหรับใช้ในห้องนั่งเล่น สำนักงาน
5. Ambi Pur Air
สเปรย์ปรับอากาศกลิ่นลาเวนเดอร์และวานิลลา ขนาด 275 มิลลิลิตร มีส่วนผสมของหัวน้ำหอมเข้มข้น ช่วยขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ทั้งกลิ่นอับ กลิ่นชื้น และยังช่วยดักจับเชื้อแบคทีเรียในอากาศ ให้กลิ่นหอมละมุน ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ที่สำคัญคือไม่มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายหรือก่อให้เกิดสารพิษตกค้าง
กลิ่นหอม ๆ ของ สเปรย์ดับกลิ่น นอกจากจะช่วยให้รู้สึกสดชื่นผ่อนคลายแล้ว ยังช่วยอากาศภายในบ้านสะอาดขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อสุขภาพของทุกคนในบ้าน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องไม่ลืมทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมอ เพราะสิ่งสกปรกหมักหมมคือแหล่งกำเนิดของกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ นั่นเอง
ที่มาข้อมูล: top10 , proreview , pasttimelief , my-best