หากพูดถึงสมาร์ทโฟนราคาต่ำกว่าหมื่น ผู้ใช้งานมือถือคงนึกถึง Huawei, Oppo หรือ Vivo แน่นอน เพราะด้วยการเปิดตัวเป็นเวลานาน ทำให้หลายคนติดหู แต่ล่าสุด โทรศัพท์ realme น้องใหม่จากสัญชาติจีน ที่เปิดตัวเมื่อราว 4 ปีก่อน หรือ ปี 2561 นี้เอง ก็รุกตลาดสมาร์ทโฟนชุดใหญ่ ด้วยการเปิดตัวรุ่นซีรีส์ที่เน้นจุดเด่นด้านราคาประหยัด ฟีเจอร์จัดเต็ม และแบตเตอรี่ทนทานไม่แพ้เจ้าตลาดที่เปิดตัวก่อนหน้ามานานแล้ว ดังนั้นเราจึงจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับสมาร์ทโฟนเรียลมีให้มากขึ้นกัน
แนะนำ 5 โทรศัพท์ realme ฟีเจอร์เด่น น่าซื้อใช้
- realme narzo 50a Prime
โทรศัพท์มือถือ realme เครื่องเล็กบางเฉียบ 8.1 มม. แต่คุณภาพจัดเต็มด้วยหน้าจอ 6.6 นิ้ว ความละเอียดสูงถึง 2408×1080 พิกเซล รองรับการเล่นเกมกราฟิกสูง ใช้งานแบตเตอรี่อึดด้วยความจุขนาด 5,000 mAh จัดว่าคงทนอย่างมาก เพราะถ้าฟังเพลงเพียงอย่างเดียว ไม่เปิดแอปพลิเคชันอื่นร่วมด้วย สมาร์ทโฟนสามารถทำงานได้สูงสุดถึง 85 ชั่วโมง
ตัวกล้องมาพร้อมกับความพิเศษตรงที่ใช้งานกล้อง 3 ตัว ได้แก่ กล้องหลักขนาด 50 MP, เลนส์มาโคร และเลนส์ B&W ทำให้การถ่ายรูปมีความคมชัด นอกจากนี้ realme narzo 50 a Prime ใช้ชิปเซตชนิด Unisoc T612 ที่เน้นคุณสมบัติในด้านประหยัดพลังงาน และฟีเจอร์ด้านในยังมีระบบพิเศษช่วยในการประหยัดแบตเตอรี่สูง ที่เรียกว่า “Ultra Saving Mode” ซึ่งช่วยให้มือถือทำงานต่อได้ แม้เหลือพลังงานเพียง 5%
- realme narzo 50i Prime
ฟีเจอร์โดยรวมคล้ายกับ Narzo 50a Prime แต่ narzo 50i Prime ใช้ระบบชิปเซต Unisoc Octa-Core ความเร็ว 1.8 GHz และเพิ่มประสิทธิภาพในการอัปเกรดหน่วยความจำภายนอกได้สูงสุดถึง 1TB ระบบปฏิบัติการใช้รูปแบบ Realme UI GO บนระบบปฏิบัติการ Android 11
- realme 9 Pro+
สมาร์ทโฟนขนาด 6.4 นิ้ว Ram 8 GB/ ROM 256 GB อัตรารีเฟรชเรท 90 Hz หน้าจอใช้ชนิด Super AMOLED เหมือนกับมือถือรุ่นเรือธงจาก Samsung ส่วนสเปกกล้องหน้ามีขนาด 16 MP, กล้องหลัก 8 MP+ กล้อง Ultrawide 8 MP+ กล้อง Depth 2 MP ด้านชิปเซตใช้ชนิด MediaTek Dimensity 920 ความเร็ว 2.5 GHz ที่เน้นประสิทธิภาพด้านประหยัดพลังงานเป็นหลัก ส่วนการเล่นเกมนั้นไวกว่าเดิมถึง 9% ด้วย GPU Mali-G68
นอกจากนี้ realme 9 Pro+ ยังเพิ่มฟีเจอร์อื่นเข้ามาด้วย ไม่ว่าจะเป็น ใส่เซ็นเซอร์อ่านลายนิ้วมือที่ช่วยวัดค่าชีพจรเอาไว้, ระบบกันสั่น Opitical Image Stabilization ซึ่งช่วยให้ถ่ายรูปได้นิ่งขึ้น และใช้เซนเซอร์ถ่ายรูปจาก Sony อย่าง IMX766 ที่ทำให้แสงคมชัด รับภาพได้หลายมิติมากยิ่งขึ้น
- realme GT 5G
หน้าจอขนาด 6.43 นิ้ว ใช้จอชนิด Super Amoled 1080×2400 พิกเซล อัตรารีเฟรชเรท 120 Hz มาพร้อมกับชิปเซตชนิด Qualcomm Snapdragon 888 Octa Core ความเร็ว 2.42 GH ซึ่งจัดเป็นกลุ่มชิปเกรดพรีเมี่ยม ครบเครื่องด้าน CPU, เกมมิ่ง และความอึดคงทนของแบตเตอรี่ โดยรุ่นนี้ได้ออกแบบมาให้เล่นเกม FPS เฟรมเรตสูงเกิน 100 ได้
ส่วนหน่วยความจำของเครื่องมีให้เลือก 2 รูปแบบ คือ 8/12 GB และ ROM ขนาด 128/256 GB ตามลำดับ นอกจากนี้ตัวกล้องสเปกสูง โดยมีขนาดกล้องหลักเท่ากับ 64 MP + กล้องอัลตร้าไวด์ 8 MP และกล้องมาโคร 2 MP ส่วนกล้องเซลฟี่ก็ไม่น้อยหน้า มีขนาดถึง 16 MP
- realme GT 2 Pro
สมาร์ทโฟน Realme รุ่นนี้ จัดว่าครบเครื่องทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นชิปเซตที่ใช้รุ่น Snapdragon 8 Gen 1 ความเร็ว 3.0 เหมือนกับมือถือแบรนด์ดังค่ายอื่น ไม่ว่าจะเป็น Samsung Galaxy S22, Asus ROG Phone ซึ่งชิปรุ่นนี้โดดเด่นด้านเกมมิ่งอย่างมาก
และเพื่อรองรับการเล่นเกมเต็มพิกัด GT 2 Pro จึงได้ออกแบบให้ RAM มีขนาดอยู่ที่ 12 GB มาพร้อมกับ ROM จัดเก็บได้ถึง 256 GB ส่วนด้านการถ่ายรูปก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน เริ่มต้นที่กล้องหน้าขนาด 32 MP กล้องหลัก 50 MP+ กล้องอัลตร้าไวด์ 50 MP+ กล้องอัลตร้ามาโคร 2 MP
เลือกใช้งาน โทรศัพท์มือถือ realme รุ่นไหนดี
โทรศัพท์ realme จุดเด่นอยู่ตรงที่แบตเตอรี่มีความอึด รุ่นทั่วไปให้ความจุแบตเตอรี่ถึง 5,000 mAh ทำให้ระยะเวลาการใช้งานส่วนมากเกิน 24 ชั่วโมงขึ้นไป และฟังก์ชันพื้นฐานอย่างการถ่ายรูป ก็สามารถทำงานได้ดีเยี่ยม ซึ่งหากต้องการใช้งานพื้นฐานอย่างการเล่นโซเชียลมีเดีย พูดคุยโทรศัพท์ หรือแชทกับเพื่อน ๆ เราแนะนำให้ใช้ realme narzo 50a และ 50i Prime
ส่วนถ้าต้องการใช้ฟีเจอร์เล่นเกมควบคู่ไปด้วย แนะนำการเลือกใช้งาน realme GT 5G และ realme GT 2 Pro เพราะชิปเซตมีประสิทธิภาพในการเล่นเกมสูงกว่ารุ่นอื่น แถมอัตราการรีเฟรชเรตอยู่ที่ 120 Hz โดยอัตรารีเฟรชเรตระดับนี้เหมาะสมมากสำหรับเล่นเกมออนไลน์เช่น ROV, LOL WR, PUBG เป็นต้น
และหากใครที่อยากได้โทรศัพท์มือถือ realme รุ่นที่ครบเครื่อง ตอบโจทย์ทุกอย่าง และมีฟีเจอร์เสริมเยอะ แนะนำเป็น realme 9 Pro+
ระบบปฏิบัติการของ โทรศัพท์ realme คืออะไร
แม้ระบบปฏิบัติการ (OS) ของสมาร์ทโฟนจะมีอยู่ 2 แบบ ได้แก่ iOS และ Android และอย่างที่ทุกคนทราบดีว่า iOS นั้นเป็นของค่าย Apple ทำให้ค่ายอื่นไม่สามารถนำ iOS ไปดัดแปลงได้ ทำให้ระบบ OS Android ซึ่งเจ้าของคือ Google กลายเป็นที่ใช้งานกับมือถือหลายยี่ห้อ และเมื่อมีแบรนด์จำนวนมากนำไปใช้ แต่ละยี่ห้อจึงต้องพัฒนาเอกลักษณ์ของตนเองบน User Interface ที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้ผู้ใช้งานแยกแยะได้ง่าย ๆ ว่าแบบนี้ ๆ คือ มือถือ Redmi, Xiaomi หรือ realme ดังนั้นผู้พัฒนาจึงได้สร้าง UI ครอบทับกับระบบ OS Android เช่น การครอบทับของ realme UI GO เป็นเพียงการสร้างเอกลักษณ์สำหรับมือถือ realme เท่านั้น ส่วนความปลอดภัย ยังคงเหมือนกับ Android ต้นแบบเหมือนเดิมทุกประการ
นอกจากจุดเด่นสมาร์ทโฟนเรียลมีที่มีราคาประหยัดแล้ว ความคงทนต่อการใช้งานยังคงมากอีกด้วย สังเกตได้จากชิปเซตเน้นการประหยัดพลังงานโดยเฉพาะ ช่วยให้ใช้งานได้เป็นระยะเวลานานมากขึ้น ส่วนรุ่นเรือธงก็ไม่ได้น้อยหน้า ครบเครื่องทุกด้าน แถมสเปกกล้องก็เทพอีก ดังนั้นมือถือสัญชาติจีนรุ่นนี้จัดเป็นสมาร์ทโฟนคุณภาพดีอีกรุ่นหนึ่งที่ไม่ควรพลาด
ที่มาข้อมูล: realme , smartphonetabletthai