เมื่อต้องการจะไดเอทโดยการปฏิวัติอาหารการกินเสียใหม่ด้วยเมนูเฮลท์ตี้ ๆ โยเกิร์ต จะเป็นสิ่งแรกที่คนทั่วไปนึกถึง เพราะให้พลังงานต่ำ ไขมันน้อย รับประทานแล้วไม่ทำให้อ้วน ทั้งยังมีคุณค่าทางอาหารและวิตามินที่มีประโยชน์มากมาย ที่สำคัญรสชาติอร่อยและยังนำมาดัดแปลงทำเป็นเมนูได้อีกมากมายแบบไม่จำเจ แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าโยเกิร์ตสามารถนำไปทำเมนูอะไรได้บ้างนั้น วันนี้เรามีไอเดียเมนูโยเกิร์ตมาแชร์ไว้ให้เพื่อน ๆ สายเฮลท์ตี้ได้นำไปทำตามกัน
แนะนำเมนูเฮลท์ตี้ทำง่ายจาก โยเกิร์ต
- โยเกิร์ตฟรุตเบอร์รีโบลว์
เมนูนี้เป็นเฮลท์ตี้โบลว์ที่รวบรวมเอาโยเกิร์ต ธัญพืช และผลไม้นานาชนิดมามิกซ์รวมกัน ให้มีสีสันที่สวยงามน่ารับประทาน ทั้งรสชาติยังอร่อยลงตัวอีกด้วย
วัตถุดิบ
- โยเกิร์ตรสธรรมชาติหรือกรีกโยเกิร์ต
- ธัญพืช เช่น เม็ดเจีย งา อัลมอนด์ เป็นต้น
- ผลไม้รวมตามชอบ เช่นสตรอว์เบอร์รีราสป์เบอร์รี บลูเบอร์รี อะโวคาโด
- น้ำผึ้งแท้
วิธีทำ
- ตักโยเกิร์ตใส่ชาม
- นำผลไม้และธัญพืชมาวางจัดแต่งบนหน้าโยเกิร์ตให้สวยงามตามชอบ
- ราดด้วยน้ำผึ้งเพื่อตัดความเปรี้ยวเล็กน้อยเป็นอันเสร็จพร้อมรับประทาน
- สมูทตี้สตรอว์เบอร์รีโยเกิร์ต
เมนูนี้เป็นเครื่องดื่มดับร้อนปลุกความสดชื่นได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญยังทำง่าย ๆ อีกด้วย
วัตถุดิบ
- สตรอว์เบอร์รีแช่แข็ง
- โยเกิร์ตรสธรรมชาติ
- น้ำผึ้ง
วิธีทำ
- นำส่วนผสมทั้งหมดในปริมาณตามชอบใส่ลงในโถปั่น
- ปั่นส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันจนเนียนละเอียดแล้วเทใส่แก้วพร้อมดื่ม
- โยเกิร์ตบาร์
เมนูทานเล่นระหว่างวันที่ช่วยให้คุณเคี้ยวเพลินสนุกปากแต่ดีต่อสุขภาพ แคลอรีน้อย ไขมันต่ำ ไม่ทำให้อ้วน ทั้งยังช่วยรีเฟรชความสดชื่นได้อีกด้วย
วัตถุดิบ
- โยเกิร์ตรสธรรมชาติ
- กลิ่นวานิลลา
- ธัญพืชตามชอบ
- ผลไม้รวมตามฤดูกาลหรือตามชอบ
วิธีทำ
- หั่นผลไม้เป็นชิ้นเล็ก ๆ และบดธัญพืชให้พอหยาบ เตรียมไว้
- เทโยเกิร์ตผสมเข้ากับกลิ่นวานิลลาแล้วเทใส่ถาดเกลี่ยให้เรียบเป็นแผ่น
- นำเอาผลไม้และธัญพืชที่เตรียมไว้โรยให้ทั่ว
- นำถาดโยเกิร์ตเข้าไปแช่ช่องแข็งประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง ให้แข็งตัว นำมาตัดเสิร์ฟเป็นชิ้น
- น้ำสลัดโยเกิร์ต
ใครที่เบื่อความจำเจของน้ำสลัดทั่ว ๆ ไป เราอยากจะชวนคุณมาลองทำน้ำสลัดโยเกิร์ต รับรองว่าแปลกใหม่และอร่อยขึ้นกว่าที่เคย
วัตถุดิบ
- หอมแดงสับ 1 – 2 หัว
- น้ำส้มคั้น 1/2 ถ้วย
- ผิวส้มขูด 1/2 ช้อนโต๊ะ
- พาร์สลีย์สับ 1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำผึ้ง 1 – 2 ช้อนชา
- กรีกโยเกิร์ต 200 มิลลิลิตร
- เกลือป่นเล็กน้อย
- พริกไทยป่นเล็กน้อย
วิธีทำ
นำวัตถุดิบทั้งหมดใส่ลงในชามผสมแล้วคนให้เข้ากัน จะได้น้ำสลัดรสชาติอมเปรี้ยวพร้อมกับได้ความสดชื่นจากน้ำส้มคั้น สามารถนำไปรับประทานกับสลัดผลไม้หรือสลัดผักได้อย่างลงตัวมาก ๆ
- เค้กโยเกิร์ต
เมนูเค้กสำหรับสายของหวาน เมนูนี้เป็นเค้กโยเกิร์ตสูตรเนื้อนุ่มฟู เบาเหมือนปุยนุ่น เนื้อเด้ง เหมาะกับการรับประทานคู่กับชา หรือจะจับคู่กับไอศกรีมเย็น ๆ ก็เข้ากัน
วัตถุดิบ
- แป้งข้าวโพด 20 กรัม
- แป้งเค้ก 30 กรัม
- ไข่แดง 3 ฟอง
- กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
- เกลือ 1/4 ช้อนชา
- โยเกิร์ต 130 กรัม
- น้ำมันดอกทานตะวัน 1 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ขาว 3 ฟอง
- น้ำตาลทราย 60 กรัม
- น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
วิธีทำ
- เริ่มจากวอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส
- เตรียมพิมพ์อบ 1 ปอนด์ รองกระดาษไขและทาเนยให้เรียบร้อย
- นำไข่แดงมาตีจนขึ้นฟูใส่กลิ่นวานิลลา เกลือ โยเกิร์ต และน้ำมันคนให้เข้ากัน จากนั้นร่อนแป้งข้าวโพดและแป้งเค้กใส่ลงไป แล้วคนผสมให้เข้ากันพักไว้
- นำไข่ขาวและน้ำมะนาวใส่ลงในโถตีจนขึ้นฟู จากนั้นค่อย ๆ ทยอยใส่น้ำตาลทีละน้อยจนหมด
- ค่อย ๆ ตักส่วนผสมของไข่ขาวลงไปในส่วนผสมของแป้ง ใช้ไม้พายค่อย ๆ ตะล่อมให้เข้ากัน
- ตักส่วนผสมทั้งหมดลงในพิมพ์ นำเข้าเตาอบ ใช้ไฟบน-ล่าง ประมาณ 50 นาที
คุณค่าทางอาหารของโยเกิร์ต
- มีจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อลำไส้และระบบขับถ่าย ช่วยปรับสมดุลระบบขับถ่ายและสมดุลของแบคทีเรียที่ดีในลำไส้ ช่วยลดอาการท้องเสีย ลดอาการลำไส้อักเสบ และช่วยลดอาการท้องผูกได้
- โยเกิร์ตอุดมไปด้วยแคลเซียมสูง มีส่วนช่วยเสริมสร้างการทำงานของกระดูกและฟัน
- จุลินทรีย์แลคโตบาซิลัสในโยเกิร์ต ช่วยควบคุมปริมาณคอเลสเตอรอลและไขมันเลว ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ รวมถึงโรคหลอดเลือดด้วย
- โยเกิร์ตให้พลังงานต่ำ มีแคลอรีน้อย หากเป็นโยเกิร์ตรสธรรมชาติหรือกรีกโยเกิร์ตจะมีโปรตีนสูงเป็น 2 เท่าของโยเกิร์ตทั่วไป น้ำตาลต่ำ ย่อยง่าย ไม่ทำให้อ้วน
- โยเกิร์ตช่วยลดการติดเชื้อจากแบคทีเรีย หากรับประทานโยเกิร์ตเป็นประจำจะช่วยลดกลิ่นปากและอาการร้อนในปากอักเสบ เพราะจุลินทรีย์ในโยเกิร์ตจะช่วยลดการสะสมแบคทีเรียในช่องปาก และยังช่วยลดการติดเชื้อราบริเวณช่องคลอดได้อีกด้วย
เป็นอย่างไรบ้างกับไอเดียเมนูดี ๆ จาก โยเกิร์ต ที่เรานำมาฝากในวันนี้ ใครที่อดใจไม่ไหวให้รีบหาโยเกิร์ตแล้วเข้าครัวทำเมนูทั้ง 5 นี้ตามกันได้เลย รับรองเลยว่าทำง่าย ทำตามได้ชัวร์ แถมรสชาติอร่อยจนคุณจะต้องติดใจอย่างแน่นอน
ที่มาข้อมูล: skm.ssru , kapook , gourmetandcuisine