หากคุณใช้อุปกรณ์ของ Apple ไม่ว่าจะเป็น iPhone หรือ iPad สิ่งหนึ่งที่เราเชื่อว่าคุณคงขาดไม่ได้คือหูฟัง แม้ว่าหูฟังแบบมีสายจะราคาถูกกว่า แต่ด้วยความสะดวกในการใช้งาน หูฟังไร้สายหรือ True Wireless จึงเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่ง Apple ได้ผลิตหูฟังไร้สายของตัวเองออกมาในชื่อ Airpods โดยเปิดตัวครั้งแรกกับรุ่น 1st Generation เมื่อปี 2016 และในปัจจุบัน (กุมภาพันธ์ 2023) มีหูฟังไร้สายที่เปิดขายใน Apple Store อยู่ 4 รุ่น คือ 2nd Generation, 3rd Generation, Pro 2nd Generation และรุ่น Max แน่นอนว่าทั้ง 4 รุ่น มีราคาต่างกัน แต่ในการเลือกว่ารุ่นไหนเหมาะกับคุณ จำเป็นต้องเทียบให้เห็นชัดว่าแต่ละรุ่นต่างกันอย่างไรในแง่ของฟีเจอร์ต่าง ๆ ซึ่งเราจะมาให้คำตอบทั้งหมดนี้กับคุณครับ รวมถึงสรุปให้แบบเข้าใจง่ายว่าคุณน่าจะเหมาะกับหูฟังรุ่นไหน
เปรียบเทียบให้ชัด Airpods แต่ละรุ่นเหมือนต่างกันอย่างไร
สำหรับใครที่กำลังลังเลว่าจะเลือกซื้อแอร์พอตรุ่นไหนดี เราจะมาเปรียบเทียบให้เห็นว่า Airpods 2nd Generation, 3rd Generation, Pro (1st Generation) และรุ่น Max มีความเหมือนและต่างกันอย่างไร ซึ่งแม้ว่ารุ่น Pro 1st Generation จะหยุดการวางจำหน่ายบน Apple Store แล้ว แต่รุ่นนี้ยังพอหาซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์อื่น ๆ เราจึงควรนำมาเปรียบเทียบ เพราะมันจะทำให้คุณรู้ว่าควรมองหารุ่นนี้หรือเลือกรุ่นที่ใหม่กว่านี้ดี
หากพูดถึงดีไซน์สิ่งที่ทั้งรุ่น 2nd และ 3rd มีเหมือนกันคือดีไซน์แบบ Earbuds (แบบสวมลงบนหู) เป็นรูปแบบคลาสสิกของหูฟังที่ทุกคนคุ้นเคย ความต่างคือก้านไมค์ซึ่งรุ่น 3rd จะสั้นกว่า ส่วนรุ่น Pro จะเป็นดีไซน์แบบ In-Ear (แบบใส่เข้าไปในหู) ทำให้เก็บรายละเอียดชิ้นดนตรีและเวทีเสียงได้อย่างชัดเจน ส่วน แอร์พอต Max จะเป็นหูฟังแบบครอบหู สิ่งที่ทุกรุ่นทำได้เหมือนกันคือรองรับการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน SIRI และต่อไปนี้คือการเทียบความต่างของสี่รุ่นนี้ให้เห็นภาพชัดเจน
- รุ่น Pro และรุ่น Max มีความพิเศษคือระบบตัดเสียงรบกวนหรือ ANC (Axtive Noise Canceling) และมี Transparency Mode (โหมดรับฟังเสียงภายนอก)
- รุ่น Pro มีระบบระบายอากาศรักษาแรงดันซึ่งรุ่นอื่นจะไม่มี เพราะหูฟังทั้งแบบ Earbuds และแบบครอบหูไม่จำเป็นต้องมีระบบนี้
- รุ่น 3rd และรุ่น Pro มีฟีเจอร์ Adaptive EQ ซึ่งเกิดจากการเพิ่มไมโครโฟนด้านในเข้ามาอีกหนึ่งตัว นอกเหนือจากไมโครโฟนคู่ซึ่งมีให้มาตั้งแต่รุ่น 2nd
- รุ่น Max มี Dynamic Driver ชนิดพิเศษ และไมโครโฟนมากที่สุดถึง 9 ตัว โดย 8 ตัวใช้กับระบบ ANC และ 2 ตัวในจำนวนนี้ทำงานร่วมกับไมโครโฟนพิเศษอีกหนึ่งตัวเพื่อตรวจจับการพูด ทำให้มีไมค์รับเสียงถึง 3 ตัว
- หากพูดถึงระบบเสียง ทั้งรุ่น 3rd, Pro และ Max มีเทคโนโลยี Special Audio และ Head Tracking นี่คือระบบเสียงที่ปรับตามการเคลื่อนไหวของศีรษะ ทำให้การดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกมมีความสมจริงมากขึ้น
- ทั้งรุ่น 3rd และรุ่น Pro กันน้ำกันเหงื่อระดับ iPX4 ต่างจากรุ่น 2nd และรุ่น Max ที่ไม่มีมาตรฐานการกันน้ำ
- รุ่น 3rd และรุ่น Pro มีเซนเซอร์ตรวจจับแรงกดเพิ่มเติมจากเซ็นเซอร์อื่น ๆ ที่มีมาตั้งแต่รุ่น 2nd ทำให้สองรุ่นนี้รองรับการสั่งงานที่หลากหลายมากขึ้น
- มีเพียงรุ่น 2nd เท่านั้นที่ใช้สายชาร์จแบบ USB-A ส่วนอีกสามรุ่นที่เหลือใช้สายชาร์จ USB-C และรองรับ Wireless Charging ด้วย
Airpods Pro (2nd Generation) เหนือกว่ารุ่นแรกอย่างไร
แน่นอนครับว่าเมื่อมีการเปิดตัวรุ่นใหม่ ต้องมีอะไรบางอย่างที่เหนือกว่ารุ่นก่อนหน้า และหากพูดถึงแอร์พอตรุ่น Pro จาก Apple ขณะนี้มีเพียงรุ่น Pro (2nd Generation) เท่านั้นที่วางจำหน่ายอยู่ โดยสิ่งที่ปรับจากรุ่นแรกคือใช้ชิป H2 แบตเตอรี่ใช้งานได้นานขึ้นต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งเรื่องแบตเตอรี่ถือเป็นจุดด้อยของรุ่น Pro (1st Generation)
ส่วนอื่นที่ปรับจากรุ่นแรกคือการจับเสียงพูดให้เป็นธรรมชาติมากขึ้น ระบบตัดเสียงรบกวนหรือ ANC ทำได้ดีขึ้น โดยมีประสิทธิภาพมากกว่ารุ่นแรกถึงสองเท่า นอกจากนี้ยังอัปเกรดจากรุ่นแรกด้วยการเชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.3 (จากเดิมที่เป็น Bluetooth 5.0)
เปิด 6 เช็กลิสต์ ใครเหมาะกับ แอร์พอต รุ่นไหน
- หากต้องการหูฟังแบบ True Wireless ของ Apple ในราคาประหยัดที่สุด ตัวเลือกที่เหมาะกับคุณคือรุ่น 2nd Generation เท่านั้น
- หากคุณไม่ต้องการระบบตัดเสียงรบกวน เลือกรุ่น 3rd ถือว่าคุ้มค่าที่สุดเพราะมีฟีเจอร์ต่าง ๆ ครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น Adaptive EQ, Special Audio ฯลฯ
- หากมองหาหูฟังเพื่อการออกกำลังกาย ส่วนสำคัญคือมาตรฐานการกันน้ำ ซึ่งรุ่น 3rd และรุ่น Pro คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ เพราะกันน้ำกันเหงื่อระดับ IPX4
- หากต้องการหูฟังที่ใส่สบายที่สุด ใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนาน และราคาไม่ใช่ปัญหาสำหรับคุณ รวมถึงคุณชอบดีไซน์หูฟังแบบครอบหูต้องรุ่น Max เท่านั้น
- หากต้องการหูฟังที่โดดเด่นเรื่องแบตเตอรี่ ถ้าไม่นับรุ่น Max ที่แบตเตอรี่ใช้ได้นานกว่ารุ่นอื่นอยู่แล้ว ตัวเลือกที่เหมาะกับคุณคือ Pro (2nd Generation) และรุ่น 3rd Generation
- หากต้องการคุณสมบัติตัดเสียงรบกวน รุ่นที่คุ้มที่สุดคือ Pro (2nd Generation) ทั้งในแง่ราคา แบตเตอรี่เพื่อการใช้งานต่อเนื่องยาวนาน และฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้า
ครบถ้วนแล้วกับความแตกต่างของหูฟังไร้สายจาก Apple แต่ละรุ่น คุณคงรู้แล้วว่าจะเลือกแอร์พอตรุ่นไหนดีให้เหมาะกับการใช้งานและตรงใจคุณมากที่สุด อย่างไรก็ตามหูฟังแบบ True Wireless มีหลากหลายแบรนด์ให้คุณเลือก หากต้องการมองหาหูฟังรุ่นอื่น คลิกเข้าไปเลือกได้เลยที่ลาซาด้ารับรองว่าได้หูฟังที่ถูกใจพร้อมกับโปรโมชั่นดี ๆ ให้คุณซื้อได้ในราคาที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน
ที่มาข้อมูล: apple , theverge , zdnet , iphonemod , droidsans , thethaiger