สมัยก่อนคุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่มักให้ลูกน้อยสวมนาฬิกาครั้งแรกช่วงประมาณประถมศึกษาปลายหรือช่วงประถมศึกษาชั้นปีที่ 3 ขึ้นไป เพราะนอกจากเป็นช่วงที่เด็กเริ่มดูเวลาได้ชำนาญแล้ว ในสายตาของผู้ใหญ่ยังมองว่าเป็นช่วงวัยที่เหมาะสมสำหรับการดูแลรักษาข้าวของเครื่องใช้ของตัวเองด้วย อย่างไรก็ตามด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทำให้ปัจจุบันนาฬิกาไม่ได้ทำหน้าที่บอกเวลาเท่านั้น แต่มาพร้อมฟังก์ชันมากมายที่จะช่วยให้ลูกปลอดภัยมากขึ้น ด้วยเหตุนี้คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่จึงตัดสินใจให้ลูกใส่สมาร์ทวอทช์ติดตัวตั้งแต่เริ่มเข้าโรงเรียน วันนี้เรามี นาฬิกาเด็ก ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้ลูกได้มาฝากกัน ตามมาเลย
ประโยชน์ของ นาฬิกาเด็ก ที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนควรรู้
หากพูดถึงนาฬิกาประโยชน์สำคัญคือ บอกเวลา แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่ประโยชน์เดียวที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจให้ลูกใส่ สมาร์ทวอทช์เด็ก ติดตัวอยู่ตลอดเวลาเมื่อออกนอกบ้าน ส่วนจะมีประโยชน์เรื่องไหนบ้างนั้นมาดูกันเลย
- เพิ่มความปลอดภัยให้ลูกน้อย หนึ่งในฟังก์ชันหลักที่นาฬิกาเด็กส่วนใหญ่มี คือ ฟังก์ชัน GPS Tracker เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่สามารถทราบตำแหน่งของลูกน้อยตลอดเวลา ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกน้อยมากขึ้น นอกจากนั้นบางรุ่นยังมีระบบขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน เด็ก ๆ สามารถกดส่งสัญญาณได้ทันทีที่เกิดเหตุร้าย ทำให้ได้รับการช่วยเหลือได้ทันท่วงทีลดโอกาสในการสูญเสีย
- ช่วยประเมินสุขภาพของลูกได้ง่ายขึ้น หากนาฬิกามีฟังก์ชันที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ อย่างฟังก์ชันตรวจสอบการเต้นของหัวใจ ชีพจร จำนวนก้าว และการเผาผลาญแคลอรีประจำวันของลูก จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ประเมินสุขภาพของลูกน้อยได้ง่ายขึ้น
- ลดเวลาในการจับโทรศัพท์มือถือของลูก ในนาฬิกาข้อมือดิจิทัลเกือบทุกรุ่นจะมีฟังก์ชันโทรออก รับสาย และรับข้อความได้เหมือนโทรศัพท์มือถือ เพราะการให้ลูกใส่นาฬิกาดิจิทัลนอกจากช่วยลดการใช้โทรศัพท์มือถือของลูกแล้ว ยังเป็นการลดโอกาสในการติดมือถือของลูกอีกด้วย
เลือก สมาร์ทวอทช์เด็ก อย่างไรให้เหมาะกับการใช้งาน
เนื่องด้วย นาฬิกาเด็ก ที่วางจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดมีมากมายหลายแบบ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนตัดสินใจไม่ถูกว่าเลือกนาฬิกาแบบไหนดี ดังนั้นเพื่อช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้นมีวิธีเลือกมาฝาก
- ฟังก์ชันความปลอดภัยควรมาเป็นอันดับหนึ่ง จุดประสงค์แรกที่คุณพ่อคุณแม่ให้ลูกใส่นาฬิกาก็เพื่อความปลอดภัย เพราะฉะนั้นฟังก์ชันแรกที่ต้องให้ความสำคัญคือ การเชื่อมต่อกับระบบดาวเทียม โดยควรเลือกนาฬิกาที่รองรับระบบ GPS หรือ Global Positioning System ซึ่งเป็นระบบที่มีความแม่นยำและจับสัญญาณได้ทั่วโลก
- เลือกที่มีปุ่มฉุกเฉิน SOS ปุ่มฉุกเฉินที่เชื่อมต่อกับเบอร์ของผู้ปกครองหรือเบอร์ของตำรวจเป็นอีกฟังก์ชันที่ควรมีในนาฬิกาดิจิทัลสำหรับเด็ก เพราะเมื่อเกิดเหตุร้ายขึ้นลูกน้อยสามารถกดปุ่มเพื่อขอความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว
- ระบบกันน้ำกันฝุ่น ถึงแม้ว่าเด็ก ๆ จะไม่ได้ใช้ชีวิตสมบุกสมบันเท่ากับผู้ใหญ่ แต่ก็ไม่ควรมองข้ามฟังก์ชันกันน้ำกันฝุ่น เพราะเด็กเป็นวัยเล่นสนุกแถมยังขาดความระมัดระวัง จึงอาจทำให้นาฬิกาเกิดความเสียหายจากเหงื่อและการกระแทกได้ สำหรับรหัสบ่งบอกระดับการกันน้ำกันฝุ่น แสดงด้วยสัญลักษณ์ IPXY โดย X เป็นตัวเลขระดับการกันฝุ่น เริ่มตั้งแต่ 0 – 6 แต่ถ้าแสดงสัญลักษณ์ X แปลว่าไม่มีการทดสอบ ส่วน Y เป็นตัวเลขระดับการกันน้ำ เริ่มตั้งแต่ 0 – 8
- วัสดุที่ไม่เป็นอันตรายต่อเด็ก นาฬิกาส่วนใหญ่นิยมผลิตจากยางซิลิโคน หนัง Polyurethane พลาสติก สเตนเลส และผ้า เพราะเป็นวัสดุที่มีน้ำหนักเบาและแข็งแรงทนทาน แต่หากเป็นนาฬิกาสำหรับเด็กควรเลือกใช้วัสดุปลอดภัยกับเด็กและไม่ก่อให้เกิดความระคายเคือง อย่างยางซิลิโคนเกรดอาหาร (Food Grade) หรือพลาสติกที่ปลอดสาร BPA (Polycarbonate Plastic)
จัดอันดับ 5 นาฬิกาเด็ก น่าใช้ปี 2023 น่าสนใจ
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหานาฬิกาดิจิทัลฟังก์ชันครบให้ลูกไว้ใส่เวลาไปโรงเรียนหรือไปเที่ยว วันนี้เรามี 5นาฬิกาสำหรับเด็กน่าใช้ปี 2023 มาฝาก รับประกันว่าถูกใจ
- WATCH KIDS 4 Pro จาก HUAWEI
เริ่มอันดับแรกกันด้วย WATCH KIDS 4 Pro จาก HUAWEI นาฬิกาดิจิทัลสำหรับเด็กฟังก์ชันครบ ทั้ง AI ระบุตำแหน่ง 9 ระบบ โทรเข้า รับสาย รับข้อความด้วยสัญญาณ 4G วิดีโอคอลภาพชัดระดับ HD กันน้ำระดับ 5 ATM ใส่เล่นน้ำได้ หน้าจอทัชสกรีน เซลฟี่มุมกว้าง 85 องศา ตรวจจับ UV เวลาเล่นกลางแจ้ง ชาร์จไวเต็ม 50% เพียง 20 นาที แสงสว่าง LED ตอนกลางคืน ปุ่ม SOS ฟังก์ชันตั้งค่าพื้นที่ปลอดภัยผ่านแอปพลิเคชัน HUAWEI FamCare ตัวเรือนทำจากซิลิโคน Food Grade ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง สำหรับรุ่นนี้มี 2 สี ได้แก่ สีฟ้าและสีชมพู
- Watch Phone Z1 จาก imoo
เป็นอีกรุ่นที่ไม่อยากให้คุณพ่อคุณแม่พลาด สำหรับ Watch Phone Z1 จาก imoo เพราะจุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่ความอึดของแบตเตอรี่ โดยหากไม่มีการใช้งานสามารถสแตนด์บายได้นานสูงสุดถึง 7 วัน โทรเข้า รับสาย รับข้อความด้วยสัญญาณ 4G ระบุตำแหน่งแม่นยำอ้างอิงตำแหน่งจาก Google Maps กันน้ำได้ในระดับ IPX8 สามารถใส่ล้างมือได้ไม่ต้องถอดให้เสียเวลา อีกทั้งยังเสริมความสนุกให้ลูกน้อยด้วยกล้องหน้าคมชัดกว่า 2 ล้านพิกเซล สำหรับรุ่นนี้มี 2 สี ได้แก่ สีแดงเกรปฟรุตและสีเขียว
- Smart Kid’s Smartwatch E2 จาก 360 Smart home
รุ่นต่อมาที่อยากแนะนำคือ Smart Kid’s Smartwatch E2 รุ่นนี้มีปุ่ม SOS ฉุกเฉิน โทรเข้า โทรออก พิมพ์แชต วิดีโอคอล 4G จากนาฬิกาถึงนาฬิกา หรือนาฬิกาถึงโทรศัพท์ได้ กล้องคู่ขนาด 5MP และ 2MP ระบุตำแหน่งที่อยู่แบบ Real Time Tracking หน่วยความจำ 512 M กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 สำหรับรุ่นนี้มี 2 สี ได้แก่ สีฟ้าและสีชมพู
- Q88 Smartwatch จาก Uonevic
หากกำลังมองหานาฬิกาดิจิทัลสำหรับเด็กราคาไม่แรง แต่ฟังก์ชันครบบอกเลยต้องเป็น Q88 Smartwatch จาก Uonevic เท่านั้น เพราะรุ่นนี้มีทั้งกล้องคู่หน้า-หลังความคมชัดระดับ HD ถ่ายภาพได้ 180 องศา แชตด้วยเสียงได้ ประหยัดพลังงาน ปุ่ม SOS ขอความช่วยเหลือ มีฟังก์ชันนาฬิกาปลุก เกมอัจฉริยะเสริมพัฒนาการ และระบบตรวจสอบสถานะระยะไกล สำหรับรุ่นนี้มี 3 สี ได้แก่ สีแดง สีม่วง และสีเขียว
- DF71 จาก Aolon
อันดับสุดท้ายคือ Smart Watch พร้อมฟังก์ชันหน้าจอสัมผัสจาก Aolon นาฬิกาสำหรับเด็กที่สามารถโทรด้วยเสียง วิดีโอ 4G ถ่ายภาพ ปุ่ม SOS ขอความช่วยเหลือ ระบบบันทึกเบอร์ผู้ปกครอง ระบบแจ้งเตือนแบตเตอรี่ รองรับสัญญาณ WIFI ระบบบันทึกประวัติการททำงานอัตโนมัติ และกันน้ำได้ในระดับ IP67 สำหรับรุ่นนี้มี 3 สี ได้แก่ สีดำ สีชมพู และสีฟ้า
จะเห็นได้ว่า สมาร์ทวอทช์เด็ก นั้นเป็นไอเทมที่มีประโยชน์มากสำหรับเด็กที่ขาดไม่ได้ ซึ่งนอกจากจะเพิ่มความปลอดภัยแล้ว ยังช่วยให้การติดต่อสื่อสารระหว่างคุณพ่อคุณแม่กับลูกน้อยเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น เพราะฉะนั้นหากยังไม่มีแนะนำว่าให้รีบหามาใช้ รับประกันว่าช่วยให้อุ่นใจขึ้นแน่นอน