ผลไม้ไทยในฤดูร้อนนี้ต้องยกให้ ทุเรียน เป็นพระเอกด้วยความที่มีกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ รูปร่างหน้าตาก็ไม่เหมือนใครอีกด้วย และยังเป็นผลไม้ที่มีรสชาติหวานมัน แต่ต้องขอสะกิดสักนิดสำหรับผู้ที่หมายตาผลไม้ชนิดนี้ไว้ อย่าเผลอใจรับประทานมากจนเกินไป เพราะปริมาณแคลอรีและไขมันจากผลไม้ชนิดนี้สูงไม่ใช่เล่นเลย
อีกทั้งทุเรียนทั้งยังเป็นผลไม้ฤทธิ์ร้อน ร่างกายอาจสะสมความร้อนจากการรับประทานมากเกินไป ทำให้เกิดอาการร้อนใน เจ็บคอ ท้องผูก และสิ่งที่ควรระวังสำหรับการรับประทานราชาแห่งผลไม้นี้ก็คือการรับประทานคู่กับอาหารบางชนิดที่ทำให้เกิดอันตรายได้
ทุเรียน กับเครื่องดื่ม : มีอะไรบ้างที่ไม่ควรกินพร้อมกัน
อย่างแรกเลยคือกาแฟและเครื่องดื่มชูกำลัง ต้องระวังการดื่มพร้อมกับผลไม้ชนิดนี้ เพราะอาจมีผลให้เกิดอาการปวดหัว ไม่สบายตัว อึดอัด อาหารไม่ย่อย ที่แย่สุดคือเคยมีข่าวว่าคนรับประทานผลไม้นี้พร้อมกับกาแฟหรือเครื่องดื่มชูกำลังแล้วทำให้เกิดอาการหัวใจวายเฉียบพลันด้วย ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงเอาไว้นะคะ
นมห้ามนำมาจับคู่รับประทานพร้อมกันกับผลไม้กลิ่นฉุนชนิดนี้เพราะจะทำให้ร่างกายผลิตเสมหะในลำคอในปริมาณมาก ส่งผลทำให้หายใจลำบาก รู้สึกไม่สบาย นอกจากนี้บรรดาน้ำหวานต่าง ๆ เครื่องดื่มเย็นใจที่มีรสชาติหวานก็ไม่ควรดื่มในเวลาเดียวกันเพราะจะไปเพิ่มระดับน้ำตาลในร่างกายเป็นทวีคูณ
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็ห้ามรับประทานคู่กับทุเรียน หากรับประทานผลไม้ชนิดนี้ควรเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์เพราะทั้งคู่ต่างก็เป็นสิ่งที่ให้พลังงานสูง ร่างกายดูดซึมเร็ว เมื่อเข้าไปเสริมฤทธิ์กันจะยิ่งทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้น นอกจากนี้ผลไม้ดังกล่าวยังทำให้เอนไซม์ ALDH ในร่างกายซึ่งมีหน้าที่ขับแอลกอฮอล์มีปริมาณลดลง ทำให้ขับแอลกอฮอล์ออกจากร่างกายไม่เต็มที่ ในขณะที่ร่างกายอาจเกิดภาวะขาดน้ำ มีอาการเวียนศีรษะ หายใจเร็วขึ้น อาจเกิดการอาเจียนไปจนถึงกรณีที่ร้ายแรงคือหัวใจล้มเหลวได้
ทุเรียนกับอาหารคาว : สายเนื้อต้องระวัง
เนื้อวัวและเนื้อแกะเป็นอาหารต้องห้ามรับประทานพร้อม ทุเรียน เพราะสารบางอย่างในผลไม้จะไปขัดขวางการย่อยสลายโปรตีนในเนื้อ ทำให้ระบบย่อยมีปัญหา เกิดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ยิ่งไปกว่านั้นการรับประทานผลไม้ชนิดนี้พร้อมกับเนื้อวัวและเนื้อแกะจะส่งผลให้กรดอะมิโนที่ชื่อว่าไทรามีนสูงขึ้น
เนื่องจากในผลไม้มีสารกำมะถันเมื่อมารวมกันกับพลังงานในเนื้อสัตว์จะทำให้เกิดภาวะไทรามีนเป็นพิษ มีผลต่อความดันโลหิตที่จะเพิ่มสูงอย่างรวดเร็ว มีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน และยังเป็นการกระตุ้นไมเกรนให้กำเริบจากการที่ไทรามีนสูงขึ้น หลอดเลือดสมองจะมีการหดตัวในช่วงแรกและตามมาด้วยการขยายตัว เกิดการปวดศีรษะรุนแรงโดยเฉพาะผู้ที่ร่างกายมีความไวต่อไทรามีนสูง
เนื้อปูสัตว์น้ำฤทธิ์เย็นกับผลไม้ฤทธิ์ร้อนเมื่อมาเจอกันคงไม่ดีแน่ การทำงานของระบบย่อยอาหารจะผิดเพี้ยนเมื่อได้รับพลังงานที่ตรงข้ามกันในเวลาเดียวกัน ภาวะในร่างกายไม่สมดุลและเกิดอาการปวดท้อง ท้องอืด อาหารไม่ย่อย ใครที่ชอบทั้งคู่ควรจัดคิวรับประทานคนละเวลากัน
ทุเรียนกับผลไม้อื่น : อย่าให้ร้อนกับร้อนมาเจอกัน
ผลไม้ไทยส่วนใหญ่จะมีฤทธิ์ร้อน เช่น ลิ้นจี่ เงาะ ลำไย ขนุน มะม่วงสุก ห้ามรับประทานพร้อมกัน เพราะจะเป็นการเพิ่มความร้อนในร่างกายทำให้ไม่สบาย เจ็บคอ และมีปัญหาในระบบทางเดินอาหาร อีกทั้งยังมีเรื่องของปริมาณน้ำตาลจากผลไม้แต่ละชนิด ซึ่งส่วนใหญ่จะมีรสหวาน รับประทานพร้อมกันจะทำให้น้ำตาลพุ่งสูงเกินปกติ
ในความเป็นจริงร่างกายไม่ควรรับน้ำตาลเกิน 24 กรัม ต่อวัน สำหรับคนวัยหนุ่มสาว ส่วนเด็กและผู้สูงวัยไม่ควรได้รับน้ำตาลเกิน 16 กรัม ต่อวัน แต่ถ้าหากอยากรับประทานพร้อมกันจริง ๆ เพียงอย่างละคำสองคำ หรือทุเรียน 1 – 2 เม็ด แต่ถ้าสามารถหักห้ามใจได้ก็จะดีกว่า
รับประทาน ทุเรียน แค่ไหนจึงพอดี และใครที่ไม่ควรรับประทานมากไป
กรมอนามัยได้มีคำแนะนำสำหรับการรับประทานผลไม้ชนิดนี้ว่า ไม่ควรรับประทานมากกว่า 2 เม็ดขนาดกลางต่อวัน และในช่วงที่ตลาดผลไม้ยอดนิยมกำลังคึกคักไม่ควรซื้อมารับประทานทุกวัน ควรลดอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล รวมถึงอาหารมัน ๆ ลงบ้าง ความจริงอาหารเหล่านี้ก็ไม่ควรรับประทานมากอยู่แล้ว และหาเวลาออกกำลังกายให้มากขึ้น
สำหรับผู้ที่ไม่ควรรับประทานหรือรับประทานแต่น้อยคือผู้ที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไต โรคหลอดเลือดตีบ โรคไขมันในเลือดสูง อันตรายของผลไม้ที่มีน้ำตาลสูงต่อผู้เป็นโรคเบาหวานก็คือเป็นตัวซ้ำเติมปริมาณน้ำตาลในเลือดให้ยิ่งสูงขึ้น ๆ อาจสูงจนกระทั่งเกิดภาวะช็อกได้ ส่วนผู้ที่เป็นโรคความดันไม่เหมาะที่จะรับประทานผลไม้ฤทธิ์ร้อนเพราะจะยิ่งทำให้ความดันสูงขึ้น
โรคไตและโรคหลอดเลือดยิ่งน่าเป็นห่วง เนื่องจากผลไม้ชนิดนี้มีปริมาณโพแทสเซียมสูง คนที่เป็นโรคไตโดยทั่วไปแล้วจะไม่สามารถขับโพแทสเซียมออกจากร่างกายได้อย่างปกติ ถ้ามีสารตัวนี้จากผลไม้เข้าเพิ่มอีกก็จะทำให้เกิดการสะสมจนไตทำงานหนัก อีกทั้งยังอาจทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะได้อีกด้วย
ผู้ที่มีโรคไขมันในเลือดสูงก็ไม่ควรประมาทเช่นกัน ผลไม้ที่มีน้ำตาลและพลังงานสูงเช่นนี้ไม่น่าไว้วางใจเท่าไรนัก บุคคลอีกผู้หนึ่งที่กลายเป็นผู้ต้องสงสัยว่าสามารถรับประทานผลไม้ชนิดนี้ได้หรือไม่ นั่นก็คือคนท้อง ความจริงแล้วคนท้องก็รับประทานได้แต่แค่ต้องระมัดระวังเหมือนกับคนอื่น ๆ รับประทานแต่พอดี รับรองไม่มีปัญหาแน่นอน
เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ มั่นใจเลยว่าหลาย ๆ คนต้องเคยเผลอทานทุเรียนกับสิ่งเหล่านี้ไปบ้างแล้วแน่ ๆ แต่ยังไม่สายเกินไปนะคะ หลีกเลี่ยงเอาไว้ก่อนจะดีกว่า แม้ขึ้นชื่อว่าเป็นผลไม้ฟังแล้วอาจจะมีประโยชน์ แต่การรับประทานแต่พอดี ไม่มาก ไม่น้อยเกินไปจะดีที่สุด
ที่มาข้อมูล: biocian , matichonacademy , med , haamor