ปัจจุบันต้องยอมรับว่าการขายของออนไลน์ได้กลายเป็นอาชีพยอดฮิต เนื่องจากเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้กว้างต่อให้อยู่คนละจังหวัดก็ขายของได้ ไม่มีต้นทุนค่าเช่าที่ และที่สำคัญทำได้โดยไม่ต้องออกจากงานประจำ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนจำนวนมากหันมาขายของออนไลน์กันมากขึ้น แต่หนึ่งในปัญหาสำคัญที่ทำให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ปวดหัวมากที่สุดคือ การส่งพัสดุสินค้า เพราะนอกจากต้องเลือกผู้ให้บริการที่มีคุณภาพแล้วยังต้องให้ความสำคัญกับบรรจุภัณฑ์อย่าง กล่องพัสดุ อีกด้วย
ขายของออนไลน์ต้องรู้ กล่องพัสดุมีกี่แบบ
กล่องสำหรับส่งพัสดุเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ขาดไม่ได้ เพราะตามข้อกำหนดของผู้ให้บริการขนส่งพัสดุ ผู้ขายต้องนำส่งสินค้าใส่ในกล่องและปิดผนึกให้เรียบร้อย แต่นอกจากนั้นควรเลือกกล่องที่มีความแข็งแรงทนทานเหมาะกับสินค้า ส่วนกล่องไปรษณีย์ที่กำลังได้รับความนิยมจะมีกี่แบบนั้น มาดูกันเลย
- กล่องพัสดุแบบฝาชน สำหรับแบบแรกคือ กล่องพัสดุแบบฝาชน เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการส่งสินค้า เพราะเป็นรูปแบบที่เปิดปิดง่ายและต้นทุนต่ำ แต่กล่องรูปแบบนี้มีข้อเสียคือต้องเสียเวลาติดเทปพลาสติกปิดบริเวณฝากล่องเมื่อต้องแพ็กสินค้าส่ง หากปิดฝาไม่ดีก็อาจทำให้สินค้าหลุดออกจากกล่องได้รับความเสียหายได้
- กล่องพัสดุแบบฝาเสียบ แบบที่สองคือ กล่องพัสดุแบบฝาเสียบ เป็นรูปแบบที่กำลังได้รับความนิยมในการขนส่งระยะไกล เพราะด้วยรูปทรงกล่องที่มีความสวยงาม แข็งแรงทนทาน และตัวฝาปิดได้สนิทมากขึ้น กล่องรูปแบบนี้มีข้อเสียคือยังคงต้องใช้เทปพลาสติกปิดบริเวณที่เสียบฝา แต่ใช้น้อยกว่ากล่องแบบฝาชน
- กล่องพัสดุแบบหูช้าง แบบสุดท้ายคือ กล่องพัสดุแบบหูช้าง ซึ่งเดิมกล่องรูปแบบนี้นิยมใช้กับกล่องของขวัญพรีเมียม แต่ปัจจุบันถูกนำมาใช้ออกแบบเป็นกล่องไปรษณีย์ด้วย เพราะกล่องประเภทนี้มีคุณสมบัติครบทั้งความแข็งแรง รูปลักษณ์ที่สวยงาม และด้วยรูปลักษณ์ของกล่องที่มีการเสียบฝาแบบสองครั้ง ทำให้ปิดสนิทมากขึ้นโดยใช้เทปพลาสติกน้อยลง แต่กล่องรูปแบบนี้มีข้อเสียคือมีราคาสูงกว่ากล่องไปรษณีย์แบบอื่น
ขายของออนไลน์ต้องรู้ กล่องพัสดุมีกี่ขนาด
นอกจากรูปแบบของ กล่องพัสดุ ที่ต้องให้ความสำคัญแล้ว อีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามคือการเลือกขนาดของกล่องไปรษณีย์ให้เหมาะสมกับสินค้า สำหรับขนาดกล่องไปรษณีย์ตามมาตรฐานมีทั้งสิ้น 20 ขนาด ได้แก่
- ขนาดกล่องไปรษณีย์ เบอร์ 00 ขนาดกว้าง 9.8 ยาว 14 สูง 6 เซนติเมตร
- ขนาดกล่องไปรษณีย์ เบอร์ 0 ขนาดกว้าง 11 ยาว 17 สูง 6 เซนติเมตร
- ขนาดกล่องไปรษณีย์ เบอร์ 0+4 ขนาดกว้าง 11 ยาว 17 สูง 10 เซนติเมตร
- ขนาดกล่องไปรษณีย์ เบอร์ AA ขนาดกว้าง 13 ยาว 17 สูง 7 เซนติเมตร
- ขนาดกล่องไปรษณีย์ เบอร์ A ขนาดกว้าง 14 ยาว 20 สูง 6 เซนติเมตร
- ขนาดกล่องไปรษณีย์ เบอร์ 2A ขนาดกว้าง 14 ยาว 20 สูง 12 เซนติเมตร
- ขนาดกล่องไปรษณีย์ เบอร์ B ขนาดกว้าง 17 ยาว 25 สูง 9 เซนติเมตร
- ขนาดกล่องไปรษณีย์ เบอร์ 2B ขนาดกว้าง 17 ยาว 25 สูง 18 เซนติเมตร
- ขนาดกล่องไปรษณีย์ เบอร์ B+7 ขนาดกว้าง 17 ยาว 25 สูง 16 เซนติเมตร
- ขนาดกล่องไปรษณีย์ เบอร์ C ขนาดกว้าง 20 ยาว 30 สูง 11 เซนติเมตร
- ขนาดกล่องไปรษณีย์ เบอร์ C+9 ขนาดกว้าง 20 ยาว 30 สูง 20 เซนติเมตร
- ขนาดกล่องไปรษณีย์ เบอร์ CD ขนาดกว้าง 15 ยาว 15 สูง 15 เซนติเมตร
- ขนาดกล่องไปรษณีย์ เบอร์ D ขนาดกว้าง 22 ยาว 35 สูง 14 เซนติเมตร
- ขนาดกล่องไปรษณีย์ เบอร์ D+11 ขนาดกว้าง 22 ยาว 35 สูง 25 เซนติเมตร
- ขนาดกล่องไปรษณีย์ เบอร์ E ขนาดกว้าง 24 ยาว 40 สูง 17 เซนติเมตร
- ขนาดกล่องไปรษณีย์ เบอร์ 2F ขนาดกว้าง 31 ยาว 30 สูง 13 เซนติเมตร
- ขนาดกล่องไปรษณีย์ เบอร์ F ขนาดกว้าง 30 ยาว 45 สูง 20 เซนติเมตร
- ขนาดกล่องไปรษณีย์ เบอร์ G ขนาดกว้าง 31ยาว 36 สูง 26 เซนติเมตร
- ขนาดกล่องไปรษณีย์ เบอร์ H ขนาดกว้าง 40 ยาว 45 สูง 34 เซนติเมตร
- ขนาดกล่องไปรษณีย์ เบอร์ I ขนาดกว้าง 45 ยาว 55 สูง 40 เซนติเมตร
เสริมภาพลักษณ์ของร้านด้วยกล่องพัสดุที่เหมาะสม
แน่นอนว่าเหตุผลหลัก ๆ ที่ควรเลือก กล่องส่งพัสดุ ให้เหมาะสมกับขนาดและน้ำหนักของสินค้านั้นหนีไม่พ้นเรื่องความปลอดภัย เพราะกล่องไปรษณีย์ที่เล็กเกินไปอาจเกิดความเสียหายในระหว่างขนส่งไปยังมือลูกค้าปลายทาง แต่ถ้าใช้กล่องไปรษณีย์ที่มีขนาดใหญ่เกินไปจะส่งผลให้เหลือช่องว่างภายในกล่อง ทำให้สินค้าที่อยู่ด้านในเคลื่อนที่ไปมาในระหว่างขนส่งเพิ่มโอกาสเกิดความเสียหายจากการกระแทกมากขึ้น อย่างไรก็ตามนอกจากเรื่องความปลอดภัยแล้ว ยังมีข้อดีอีกหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น
- ประหยัดค่าบริการ การคิดค่าบริการขนส่งไปรษณีย์โดยปกติจะคิดค่าบริการแบบชั่งน้ำหนักและวัดจากขนาดของกล่อง ด้วยเหตุนี้การเลือกกล่องไปรษณีย์ที่มีขนาดพอดีไม่ใหญ่เกินไป จะช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการส่งมากขึ้น อีกทั้งยังไม่สิ้นเปลืองบับเบิ้ลกันกระแทกในการห่อสินค้าด้วย
- ภาพลักษณ์ของร้าน ปัญหากล่องบุบ กล่องแตก กล่องฉีกขาด ย่อมเป็นสิ่งที่พ่อค้าแม่ค้าไม่อยากให้เกิดมากที่สุด ซึ่งถึงแม้ว่าไม่สามารถควบคุมการทำงานของพนักงานขนส่งของผู้ให้บริการได้ แต่การเลือกกล่องไปรษณีย์ที่มีความแข็งแรงจะช่วยลดโอกาสเกิดความเสียหาย สินค้าถึงปลายทางอย่างปลอดภัย ทำให้ลูกค้าประทับใจและมั่นใจการทำงานของทางร้าน และที่สำคัญส่งผลให้เกิดการกลับมาซื้อซ้ำมากขึ้น
เป็นอย่างไรบ้างสำหรับข้อมูลของกล่องไปรษณีย์หรือกล่องพัสดุที่เรานำมาฝาก ซึ่งจะเห็นได้ว่ากล่องที่ใช้ส่งสินค้านั้นมีหลายแบบและหลายขนาดให้เลือกใช้ เพราะฉะนั้นจึงต้องเลือกกล่องและใส่ใจกับการแพ็กการห่อเป็นพิเศษ เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้สินค้าถึงปลายทางอย่างปลอดภัย ถูกใจทั้งลูกค้าและคนขาย
ที่มาข้อมูล: boxme , pickaboxpack , unionpresspackaging , hongthaipackaging , zortout , ofm