สัญญาณกันขโมย เป็นอุปกรณ์สำคัญชนิดหนึ่งในระบบรักษาความปลอดภัย ที่ใช้สำหรับแจ้งเตือนเหตุด่วนเหตุร้ายที่กำลังเกิดขึ้นจากการบุกรุกของบุคคลที่ไม่ประสงค์ดีต่อทรัพย์สินสิ่งของภายในบ้านและที่อยู่อาศัย แม้จะมีคนอาศัยอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง ก็มิวายโดนโจรมืออาชีพเข้ามาภายในบ้านในช่วงที่คนในบ้านหลับได้ ยิ่งถ้าไม่อยู่บ้านและต้องไปธุระต่างจังหวัดนาน ๆ การติดตั้งสัญญาณเตือนจึงเป็นวิธีการแก้ไขและป้องกันที่ดีที่สุด
รูปแบบของ สัญญาณกันขโมย
ปัจจุบันสัญญาณกันขโมยมีด้วยกัน 2 รูปแบบ ได้แก่ แบบมีสายและแบบไร้สาย ซึ่งทั้ง 2 ประเภทมีจุดประสงค์ในการทำงานเหมือนกัน นั่นก็คือการแจ้งเตือนให้เจ้าของบ้านทราบถึงการบุกรุกจากบุคคลภายนอก โดยอาศัยเซนเซอร์ในการตรวจจับความเคลื่อนไหว จากนั้นค่อยส่งสัญญาณไปยังตัวรับเพื่อส่งสัญญาณแจ้งเตือนผ่านอุปกรณ์ขยายสัญญาณ ซึ่งทั้ง 2 จะมีรูปแบบการติดตั้งที่แตกต่างกันดังนี้
- สัญญาณกันขโมยประเภทใช้สาย
เป็นสัญญาณกันขโมยที่อุปกรณ์ทุกชิ้นเชื่อมต่อกันทางสายไฟหรือสายสัญญาณ ซึ่งมีการทำงานที่เสถียรภาพเนื่องจากการรับสัญญาณจะวิ่งผ่านสายไฟโดยตรง ทำให้โอกาสที่สัญญาณจะขาดหายเป็นไปได้ยาก
- ข้อดี คือราคาค่อนข้างถูก ซ่อมแซมบำรุงรักษาได้ง่าย
- ข้อจำกัด คือหากโดนตัดสายสัญญาณอาจทำให้เจ้าของบ้านไม่ได้รับเสียงเตือน ดังนั้นในการติดตั้งควรติดตั้งสายสัญญาณในมุมลับตาคน หรือเดินท่อร้อยสายที่มีความแข็งแรงเพื่อป้องกันการตัดสายสัญญาณ การเดินสายสัญญาณอาจทำให้ผนังและกำแพงบ้านไม่สวยงาม หากมีการเดินสายในกำแพงหรือบนฝ้า อาจซ่อมบำรุงได้ยาก
- สัญญาณกันขโมยประเภทไร้สาย
เป็นอุปกรณ์ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่พร้อมเทคโนโลยีไร้สาย ทำให้ติดตั้งได้ง่าย สะดวกต่อการใช้งาน สามารถผนวกร่วมกับอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ได้ง่าย เช่น กล้องวงจรปิด, ระบบตรวจจับควันไฟ เป็นต้น การส่งสัญญาณตรวจจับด้วยคลื่นวิทยุ ก่อนที่จะส่งข้อมูลไปที่กล่องรับสัญญาณเพื่อแจ้งเตือนผ่านตัวกระจายเสียง
- ข้อดี คือ ติดตั้งง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก สามารถซ่อนอุปกรณ์ตรวจจับได้ด้วยตนเอง เชื่อมต่อได้หลายจุด กระจายสัญญาณได้ทั่วทั้งบ้าน ขึ้นอยู่กับงบประมาณ
- ข้อจำกัด หากต้องติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มจะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง การรับส่งสัญญาณอาจจะไม่เสถียรเท่าแบบติดตั้งด้วยสายสัญญาณ ความเข้มของสัญญาณและการกระจายสัญญาณอาจลดลงเมื่อผ่านการใช้งานไปนาน ๆ จำเป็นต้องได้รับการตรวจเช็กอย่างสม่ำเสมอ
หลักการเลือกใช้งาน สัญญาณกันขโมย
วิธีการเลือกใช้งานสัญญาณกันขโมยและการแจ้งเตือน เพื่อเลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสม
- งบประมาณ สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงการเลือกซื้อสัญญาณแจ้งเตือนและระบบต่าง ๆ จะต้องคำนึงถึงคือ ราคาและงบประมาณ เพราะอุปกรณ์แต่ละประเภทจะมีราคาที่แตกต่างกัน รวมถึงฟังก์ชันในการแจ้งเตือน ตลอดจนจำนวนจุดที่จะติดตั้งระบบเซนเซอร์ หากเป็นบ้านที่มีพื้นที่กว้าง ประตู หน้าต่างจำนวนมาก ก็จะต้องใช้งบประมาณมากยิ่งขึ้น เท่านั้นยังไม่พอ เกี่ยวกับวิธีการแจ้งเตือน ยิ่งมีฟังก์ชันเพิ่มมากขึ้นเท่าใด ก็ยิ่งมีราคาสูงมากยิ่งขึ้น
- เซนเซอร์ตรวจจับต้องมีความแม่นยำ ก่อนการติดตั้งควรให้ร้านค้าทดสอบอุปกรณ์กันขโมยก่อนตัดสินใจซื้อ อาจเป็นเครื่อง Demo เพื่อให้มั่นใจว่าเซนเซอร์ที่ตรวจจับมีความแม่นยำมากน้อยแค่ไหน ความหน่วงของสัญญาณเมื่อตรวจพบการบุกรุก หากการตรวจจับที่ล่าช้า สัญญาณการตรวจจับได้ระยะที่ไกลหรือไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ก็จะทำให้เจ้าของบ้านและสมาชิกที่อยู่อาศัยตกอยู่ในอันตรายได้
- ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ การเลือกแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญไม่น้อย เพื่อให้มั่นใจว่าระบบดังกล่าวมีความมั่นคง ปลอดภัย สามารถแจ้งเตือนได้จริง ตลอดจนความน่าเชื่อถือ การรับประกัน เพราะหลายต่อหลายครั้งที่แบรนด์ออกใหม่ แม้จะมีราคาที่ค่อนข้างถูก แต่เมื่อเวลาผ่านไปแบรนด์ดังกล่าวอาจไม่ดำเนินกิจการต่อก็ได้
- ความเป็นมืออาชีพ ร้านค้าหรือบริษัทที่จำหน่ายจะต้องมีทีมงานที่เป็นมืออาชีพ สามารถเก็บความลับของลูกค้าได้ โดยเฉพาะทีมงานที่ติดตั้ง จะต้องไม่มีประวัติด่างพ้อยในคดีอาชญากรรม เนื่องจากการติดตั้งสัญญาณกันขโมยทีมงานช่างจะรู้เกี่ยวกับการตั้งค่าอุปกรณ์ต่าง ๆ จุดที่ติดตั้ง ถ้าหากเป็นมิจฉาชีพที่แอบแฝงมาทำงาน ก็จะทำให้เจ้าของบ้านได้รับความเสียหายได้
- ฟังก์ชันการต่อพ่วงอื่น ๆ หากเป็นไปได้ควรเลือกเครื่องตรวจจับกันขโมยที่สามารถต่อพ่วงกับอุปกรณ์ตรวจจับอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความทันสมัยและความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เช่น การพ่วงสัญญาณการตรวจจับควันไฟ, การพ่วงสัญญาณการตรวจจับความร้อนและไฟไหม้, กล้องวงจรปิด และอินเทอร์เน็ต เพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสาร แจ้งเตือนเจ้าของบ้านได้อย่างทันถ่วงที
อุปกรณ์สำคัญในระบบสัญญาณกันขโมย
สัญญาณกันขโมย ไม่เพียงแต่มีตัวเซนเซอร์และตัวรับสัญญาณเท่านั้น ยังมีอุปกรณ์หลักสำคัญที่เกี่ยวข้องอีกมาก ซึ่งจะประกอบไปด้วยอุปกรณ์อะไรบ้างไปดูกัน
เซนเซอร์ตรวจจับการบุกรุก
เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ทำหน้าที่ในการตรวจจับการบุกรุกจากบุคคลภายนอก ซึ่งตัวเซนเซอร์จะต้องมีการออกแบบในเรื่องของวิธีการตรวจจับที่เหมาะสม ตลอดจนสัญญาณที่ส่งไปตรวจจับจะต้องครอบคลุมพื้นที่ที่กำหนดได้ดี โดยลักษณะของเซนเซอร์ที่ใช้ตรวจจับมีด้วยกันหลายแบบแยกตามการตรวจจับและแม่นยำที่แตกต่างกัน
- การตรวจจับจากการเคลื่อนไหว ส่วนใหญ่จะติดตั้งบริเวณประตู หน้าต่าง หากมีการเปิดประตู หน้าต่างหรือการงัดแงะ สัญญาณจะดังขึ้นทันที
- การตรวจจับจากความร้อนในร่างกาย เป็นเซนเซอร์ที่ใช้การตรวจจับแบบอินฟราเรด ตรวจจับความร้อนในร่างกายมนุษย์ ก่อนที่จะส่งสัญญาณให้ดังขึ้น
- การตรวจจับแบบไมโครเวฟและอินฟราเรด เป็นการผสมผสานของระบบตรวจจับความร้อนด้วยอินฟราเรด ร่วมกับคลื่นไมโครเวฟในการตรวจจับการเคลื่อนไหว ที่จะช่วยให้การตรวจจับมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น
อุปกรณ์แจ้งเตือน
อุปกรณ์แจ้งเตือนมีด้วยกันหลายแบบขึ้นอยู่กับเจ้าของบ้านจะเลือกการแจ้งเตือนแบบใด
- เสียงไซเรน เป็นเสียงสัญญาณที่มีความดังตั้งแต่ 100 เดซิเบลเป็นต้นไป ให้เสียงแจ้งเตือนที่ดังมาก
- เสียงไซเรน พร้อมไฟกะพริบหรือไฟส่องสว่าง เป็นเสียงสัญญาณเตือน พร้อมฟังก์ชันไฟกะพริบหรือไฟส่องสว่างทั่วทั้งบ้าน
- เสียงไซเรนและแจ้งเตือนเจ้าของบ้านผ่านการสื่อสาร ปัจจุบันมีการพัฒนาการแจ้งเตือนของสัญญาณกันขโมยให้สามารถสื่อสารกับเจ้าของบ้านได้ แม้จะไม่อยู่บ้านก็ตาม ซึ่งจะช่วยให้เจ้าของบ้านสามารถแจ้งเหตุให้เจ้าหน้าที่ได้เข้าระงับเหตุได้ทันท่วงที
เครื่องสำรองไฟ
อุปกรณ์ทั้งหมดจะทำงานโดยสมบูรณ์ได้จะต้องปราศจากการ Drawdown หรือทำงานได้อย่างต่อเนื่องแม้ไฟฟ้าเมนหลักดับสนิท เพื่อปิดโอกาสของโจรผู้ร้ายที่อาศัยช่วงไฟฟ้าดับเข้ามาก่อเหตุ เครื่องสำรองไฟจึงมีความจำเป็นไม่น้อยที่จะทำให้ระบบสัญญาณกันขโมยทำงานได้อย่างราบรื่น
กล่องควบคุม
เป็นอุปกรณ์หลักสำคัญที่ใช้ในการประมวลผลและแปลงสัญญาณ ก่อนจะแจ้งเตือนให้เจ้าของบ้านได้รับรู้ถึงภัยที่เข้ามา ซึ่งเป็นหัวใจหลักของระบบกันขโมย ไม่ว่าจะเป็นระบบไร้สายหรือมีสายจะต้องมีกล่องควบคุมนี้
จะเห็นว่าการติดตั้งสัญญาณกันขโมยมีความสำคัญเพียงใด ในขณะที่การเลือกซื้อเพื่อใช้งานก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลการใช้งานจากหลาย ๆ แหล่ง หากเป็นไปได้ควรติดต่อเพื่อขอเข้าทดสอบระบบรุ่นที่จะซื้อจากร้านค้า เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้สินค้าที่มีคุณภาพ ตรงกับจุดประสงค์ที่จะใช้งาน และมีมาตรฐานในการติดตั้ง
ที่มาข้อมูล: minics , baania , prosecureintertech