เชื่อว่าทุกคนคงเคยมีอาการ หูอื้อ กัน เป็นอาการที่น่ารำคาญ เป็นแล้วรู้สึกกังวล อยากให้หายเร็ว ๆ เพราะมันอื้อในหูและไม่ได้ยินอะไร ปกติมักเป็นตอนนั่งบนเครื่องบินช่วงเครื่องบินขึ้นและลงหรือมีการเปลี่ยนระดับความสูง และตอนเป็นหวัดที่มีการสั่งน้ำมูกแรง ๆ จนหูอื้อ วันนี้เราจะมารู้เรื่องเกี่ยวกับหูอื้อกัน ว่าเป็นแล้วมีวิธีแก้อย่างไรบ้าง
อาการ หูอื้อ เป็นอย่างไร
อาการหูอื้อ คือ อาการที่ความสามารถในการได้ยินลดลง เหมือนมีอะไรมาขวางอยู่ในหู ทำให้ได้ยินเสียงไม่ชัด ได้ยินเสียงค่อย ความคมชัดของเสียงที่ได้ยินลดลง หรือมีเสียงอะไรอยู่ในหูตลอดเวลา เสียงหวีดเหมือนมีแมลงอยู่ในหู
อาการหูอื้อแบบฉับพลันส่วนใหญ่เราจะรู้ได้เอง เช่น เวลาขึ้นหรือลงเครื่องบิน แต่หากเป็นอาการหูอื้อแบบค่อย ๆ เป็น เราอาจไม่รู้สึกตัว เพราะอาการจะค่อย ๆ เกิด คนใกล้ชิดมักเป็นคนสังเกตความผิดปกตินี้ เช่น เรียกแล้วไม่ได้ยิน ไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ หรือต้องเปิดทีวีเสียงดังกว่าปกติ ฯลฯ
สาเหตุของอาการหูอื้อ
อาการหูอื้อ เกิดได้จากหลายสาเหตุมาก ดังนี้
- ขี้หูอุดตัน
- มีสิ่งแปลกปลอมเข้าหู
- น้ำเข้าหู
- ดื่มแอลกอฮอล์
- ผลจากการใช้ยาบางชนิด เช่น แอสไพริน ยาแก้แพ้ ยาขับปัสสาวะ ยาต้านมาลาเรีย ยาปฏิชีวนะบางชนิด และยารักษาโรคมะเร็งบางชนิด
- โรคติดเชื้อ / โรคหวัด / เจ็บคอ
- หูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลัน / หูชั้นในอักเสบเฉียบพลัน
- น้ำในหูไม่เท่ากัน
- เนื้องอกในหู
- โรคภูมิแพ้
- มะเร็งโพรงหลังจมูก / เนื้องอกในสมอง
- ภาวะเครียด ซึมเศร้า วิตกกังวล
จะเห็นว่าสาเหตุของอาการหูอื้อมีจากทั้งสาเหตุไม่รุนแรงไปจนถึงโรคที่รุนแรง ดังนั้นหากเรามีอาการหูอื้อบ่อย ๆ จนรู้สึกว่าผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ เพราะอาการหูอื้อเพียงเล็กน้อยอาจเป็นสาเหตุจากโรคที่ร้ายแรงได้ ถ้าทราบเร็วได้รับการรักษาทันท่วงทีก็มีโอกาสหายได้
วิธีรักษาอาการหูอื้อ
ข้อแนะนำสำหรับวิธีแก้อาการหูอื้อที่ดีที่สุดคือให้แก้ไขตามสาเหตุของอาการหูอื้อนั้น ดังนี้ค่ะ
- หูอื้อที่เกิดจากโรคหวัด เจ็บคอ ปกติจะหายได้เองเมื่ออาการหวัดหรือเจ็บคอหายไป ที่สำคัญคือควรรีบรักษาโรคหวัดและเจ็บคอให้หายโดยเร็ว เพื่อให้อาการหูอื้อหายไปด้วย ปฏิบัติตนในช่วงเป็นหวัดอย่างถูกวิธี เช่น ล้างจมูกบ่อย ๆ ไม่สั่งน้ำมูกแรง ๆ เป็นต้น
- หูอื้อที่เกิดจากขี้หูอุดตัน ต้องแคะขี้หูที่อุดตันออกมาแล้วอาการหูอื้อจึงจะหาย แต่ไม่ควรแคะเอง ควรไปปรึกษาแพทย์ หากมีขี้หูมากหรือขี้หูแข็ง แพทย์จะพิจารณาหยอดยาละลายขี้หูก่อนทำการแคะ
- หูอื้อที่เกิดจากการได้ยินเสียงดังมาก ๆ ต้องพบแพทย์เพื่อตรวจอาการในหูว่ามีกระทบกระเทือนอย่างไรหรือไม่ เพื่อรักษาอย่างถูกต้อง ปกติแพทย์จะใช้ยาช่วยเพิ่มเลือดในการไปเลี้ยงหูและยาปรับความดันของท่อในหู เพื่อแก้อาการหูอื้อ
วิธีแก้อาการหูอื้อด้วยตัวเอง
อย่างไรก็ตามหากมีอาการหูอื้อเฉียบพลันมีวิธีแก้ไขเบื้องต้นที่ปลอดภัยที่ทำได้ด้วยตัวเองก่อน โดยอาศัยหลักปรับความดันในช่องหู เป็นวิธีง่าย ๆ ทำได้ด้วยตัวเอง อาการหูอื้อมักหายหลังจากทำ ดังนี้ค่ะ
- อ้าปากและพยายามหาวออกมา
- เคี้ยวหมากฝรั่งหรือถ้าไม่มีหมากฝรั่ง ทำท่าเคี้ยวอย่างเดียวก็ได้ แต่ต้องเคี้ยวคำใหญ่ ๆ
- อมลูกอมที่มีลักษณะแข็ง
- ดื่มน้ำแก้วใหญ่
- กลืนน้ำลาย
- เอียงตัวให้หูข้างที่อื้อขนานกับพื้น ใช้นิ้วค่อย ๆ แตะเข้าออกที่รูหู โดยไม่ต้องแหย่นิ้วเข้าด้านใน เป็นการปรับความดันของหูข้างที่อื้อ วิธีนี้เหมาะกับหูอื้อที่เกิดหลังว่ายน้ำ
- บีบจมูกปิดปากและหายใจออกทางจมูกเบา ๆ วิธีนี้ควรทำด้วยความระมัดระวัง หายใจออกเบาที่สุด เพราะถ้าแรงจะยิ่งทำให้หูอื้อมากขึ้น
วิธีป้องกันอาการหูอื้อ
อาการหูอื้อบ่งบอกถึงความผิดปกติบางอย่างของร่างกาย อาจเป็นแบบชั่วคราว เฉียบพลัน รุนแรง หรือแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรหากเราป้องกันไม่ให้เกิดอาการ หูอื้อ ด้วยการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมบางอย่างได้ เราก็ควรทำ ดังนี้ค่ะ
- หลีกเลี่ยงสถานที่มีเสียงดังมาก หากจำเป็นต้องอยู่ต้องมีอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ที่อุดหู
- ดูแลรักษาร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ ปราศจากโรค เช่น โรคหวัด เจ็บคอ ไม่อยู่ใกล้ผู้ป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจ หากเป็นแล้วควรรีบรักษาให้หายจากโรคโดยไว รักษาอุณหภูมิร่างกายให้อบอุ่น ดื่มน้ำอุ่น ไม่อาบน้ำเย็น
- หากเป็นโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น หู คอ จมูก ควรปรึกษาแพทย์ ล้างจมูก ใช้ยาที่แพทย์สั่ง ปฏิบัติตามที่แพทย์แนะนำจนหายขาด
- สั่งน้ำมูกเบา ๆ การสั่งน้ำมูกแรงทำให้มีอาการหูอื้อได้
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่แพทย์ไม่ได้สั่ง ยาบางชนิดมีผลกับประสาทการรับเสียงในหู
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ คาเฟอีน ทำให้เลือดสูบฉีดมากเกินไป
- หากมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับหูหรือจมูก ควรปรึกษาแพทย์ ไม่ควรปล่อยไว้จนอาการกำเริบรุนแรง
การเอาใจใส่ดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงห่างไกลโรคภัยอยู่เสมอเป็นสิ่งจำเป็น เลือกทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังเป็นประจำ พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ ไม่เครียด ไม่กังวล รู้จักหาวิธีผ่อนคลาย เมื่อเป็นโรคหรือมีอาการใดแล้วก็หาสาเหตุและรีบรักษา
เมื่อหูอื้อเป็นการบ่งบอกถึงอาการผิดปกติที่ควรได้รับการแก้ไขรักษาโดยเร็ว และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาดูแลตัวเองก็เป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุด