หลายคนอาจจะคิดว่า หวี ยี่ห้อไหนก็เหมือนกัน มีหน้าที่ช่วยให้เส้นผมไม่พันกัน และช่วยให้ผมไม่ยุ่ง แต่จริง ๆ แล้ว แปรงหวีผม เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ต้องให้ความสำคัญในการเลือก เพราะแต่ละยี่ห้อทำจากวัสดุและเทคโนโลยีที่แตกต่างกันไปซึ่งมีผลต่อเส้นผมของแต่ละคนที่มีลักษณะแตกต่างกัน การเลือกหวีให้เหมาะกับสภาพเส้นผมของตัวเองสามารถช่วยให้ผมของเราดูดีขึ้นได้ วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันวิธีการใช้แปรงหวีผมที่ถูกต้อง พร้อมแนะนำยี่ห้อที่ควรมีติดบ้านไว้
วิธีการใช้ หวี ที่ถูกต้อง
ใครที่มีปัญหาหวีผมแล้วผมร่วงเป็นจำนวนมาก อาจเป็นเพราะหวีที่ใช้ไม่เหมาะสมกับสภาพเส้นผมของเรา ทำให้หวียาก ยิ่งออกแรงมาก ก็เสี่ยงต่อการทำให้ผมขาดหลุดร่วง และนี่คือวิธีการใช้หวีที่ถูกต้อง
- เลือกหวีให้เหมาะกับสภาพผม ใครที่มีผมหยักศกควรเลือกใช้แปรงหวีที่มีซี่ห่างหรือแปรงผมที่มีขนาดใหญ่ หากใช้แปรงซี่ถี่ในการสางผมที่พันกันจะทำให้หวียากและผมหลุดร่วงออกมามากขึ้น
- ไม่ใช้แปรงหวีผมที่แหลมคมเกินไป แปรงหวีผมที่มีขนแปรงแหลมคมเกินไปอาจทำให้ผิวหนังระคายเคือง โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับหนังศีรษะ ขนแปรงที่แหลมคมอาจทำให้หนังศีรษะเป็นแผลและติดเชื้อได้
- หวีผมไล่ตั้งแต่ปลายผมขึ้นมา หลายคนมักจะเริ่มหวีผมตั้งแต่โคนผมลงมาปลายผม ซึ่งจะยิ่งทำให้ผมพันกันมากขึ้น วิธีที่ถูกต้องคือแปรงผมไล่ตั้งแต่ปลายผมขึ้นมาอย่างทะนุถนอมด้วยน้ำหนักมือที่พอดี ซึ่งจะช่วยลดการขาดร่วงได้
- ทำความสะอาดแปรงหวีผมเป็นประจำ แปรงหวีผมเป็นไอเทมที่เราใช้ทุกวัน แน่นอนว่าจะต้องมีคราบสกปรกตกค้างแน่นอน จึงควรทำความสะอาดด้วยสบู่หรือแชมพูสูตรอ่อนโยนและตากให้แห้งอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้งเพื่อลดการสะสมของแบคทีเรียและสิ่งสกปรก
5 อันดับ แปรงหวีผม ที่น่าลองใช้
- WET BRUSH รุ่น PRO FLEX DRY OMBRE
แปรงหวีผมที่ช่วงนี้กระแสมาแรงมาก ชาวผมร่วง ผมพันต้องมี ตัวหวีถูกออกแบบเป็นทรงรีและมีช่องให้ลมร้อนจากไดร์เป่าถูกเส้นผม สามารถใช้ขณะที่ผมเปียกได้ นอกจากจะทำให้ผมแห้งเร็วแล้ว ยังมาพร้อมเทคโนโลยีขนแปรง Heatflex ที่ได้รับการรับรองว่าสามารถสางผมที่พันได้เป็นอย่างดี ซึ่งช่วยถนอมเส้นผมและรากผมด้วย สาว ๆ คนไหนที่มีปัญหาผมพันกันจนสางไม่ได้ ไม่ว่าจะผมเส้นเล็กหรือผมเส้นหนา บอกเลยว่าต้องซื้อมาลองใช้ให้ได้ รับรองว่าหมดปัญหาผมขาดหลุดร่วงแน่นอน
- AVEDA paddle brush
หวีด้ามไม้จากแบรนด์ Aveda บอกเลยว่าฮอตฮิตมาก เพราะเหล่าคนดังและช่างผมมืออาชีพนิยมใช้กัน ซี่แปรงถูกออกแบบมาค่อนข้างยาวเพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ถือว่าเป็นการนวดศีรษะไปในตัวและช่วยบำรุงหนังศีรษะ ใครที่มีสภาพผมแห้งเสียและพันกัน การใช้หวีธรรมดานอกจากจะสางผมยากแล้ว ยังทำให้ผมขาดร่วงเยอะมากอีกด้วย หากเปลี่ยนมาใช้แบรนด์นี้จะรู้สึกได้เลยว่าสางผมง่ายขึ้น ลดการขาดร่วง ทำให้หนังศีรษะและรากผมแข็งแรงขึ้น
- TANGLE TEEZER COMPACT STYLER
แปรงหวีผมดีไซน์สุดชิคที่เหมาะแก่การพกพา รูปทรงเหลี่ยมมน ๆ เข้ากับอุ้งมือ จับถนัดแถมน่ารักไม่เหมือนใครแน่นอน นอกจากนี้ยังมีสีสันให้เลือกมากมายที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Two-Tired Teeth ขนแปรง 2 ชั้น ชั้นแรกขนแปรงยาวช่วยให้ผมไม่พันกัน ส่วนขนแปรงสั้นช่วยให้ผมเรียบไม่ชี้ฟู สามารถสางผมได้ตั้งแต่โคนจรดปลายผมได้แบบไม่สะดุดและทำให้ผมดูเงาสลวย
- YAO Moving Circle Boar Brush
อีกหนึ่งแบรนด์ยอดฮิตจากประเทศเกาหลีที่ใครได้เห็นก็อดใจไม่ไหวต้องซื้อมาลองบ้าง แปรงขนหมูป่าที่ถูกออกแบบมาเหมาะกับทุกสภาพผม แปรงหัวทรงกลมขนาดใหญ่ โครงสร้างยืดหยุ่นสามารถปรับรูปไปตามศีรษะขณะที่สางผม ดีไซน์มีช่องว่างบนหัวแปรงสามารถใช้ควบคู่กับไดร์เป่าผม ทำให้ผมแห้งเร็วขึ้น ขนหมูป่ามีคุณสมบัติทนความร้อน สามารถดูดฝุ่นและสิ่งสกปรกออกจากเส้นผมได้ ลดการเกิดไฟฟ้าสถิตย์ ทำให้ผมไม่ชี้ฟูและช่วยบำรุงเส้นผมจากรากสู่ปลายผม สำหรับใครที่มีปัญหาผมลีบแบน รุ่นนี้ถูกออกแบบมาช่วยเพิ่มวอลุ่ม ทำให้ผมดูมีน้ำหนักอีกด้วย
- Goody รุ่น Smooth Blends
แบรนด์นี้นำเข้าจากประเทศอเมริกา ขนแปรงทำจากขนหมูป่าผสมไนลอน ใครที่มีปัญหาผมแห้งเปราะบาง เราขอแนะนำตัวนี้เลยเพราะขนหมูป่าช่วยกระจายน้ำมันบนหนังศีรษะให้ไปทั่วเส้นผม ทำให้ผมเงางามขึ้น และทะนุถนอมเส้นผมที่เปราะบาง ลดการชี้ฟูของเส้นผม ใครได้ลองใช้แล้วผมหลุดร่วงน้อยกว่าหวีทั่วไปจนไม่อยากกลับไปใช้หวีทั่วไปแน่นอน
เป็นอย่างไรกันบ้างกับแปรงหวีผมที่เราแนะนำ หวี แต่ละยี่ห้อก็มีฟังก์ชันที่ต่างกันออกไป บอกเลยว่าคุ้มค่าคุ้มราคามากเพื่อแลกกับสุขภาพของเส้นผมที่เงาสลวยและหนังศีรษะที่สุขภาพดีขึ้น
ที่มาข้อมูล: allthingshair , hairsmithclinic