เทคโนโลยีของกล้องถ่ายรูปนั้นมีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน หลังจากยุคกล้องฟิล์มเดินทางเข้าสู่กล้องดิจิทัล จนถึงยุคเฟื่องฟูของ กล้อง DSLR ที่นับได้ว่าเป็นยุคทองของผู้ที่ชื่นชอบกล้องถ่ายรูป และในปัจจุบันกล้องระบบดิจิทัลนั้นได้พัฒนามาถึงกล้องแบบ mirrorless ที่มีความทันสมัย มีเทคโนโลยีที่แสนสะดวกสบาย แต่ถึงอย่างนั้นกล้องแบบDSLRก็ยังคงมีผู้คนนิยมใช้งานอยู่อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน นั้นเพราะด้วยเสน่ห์และคุณสมบัติหลายประการที่โดดเด่น ทำให้ตลาดการแข่งขันของกล้องชนิดนี้ยังคงมีแบรนด์ต่าง ๆ ส่งกล้องรุ่นใหม่ออกมาให้ได้เลือกซื้อกัน
ทำความรู้จัก กล้องสะท้อนภาพเลนส์เดี่ยว หรือ กล้อง DSLR
Digital Single-lens Reflex หรือที่เรียกว่า DSLR นั้น จัดได้ว่าเป็นกล้องระบบดิจิทัลประเภทหนึ่งที่ได้รับการพัฒนามาจากกล้องฟิล์มสะท้อนภาพเลนส์เดี่ยวหรือ Single-lens Reflex (SLR) และเมื่อพัฒนามาเป็นกล้องระบบดิจิทัล จึงได้เติมคำว่า Digital เข้าไปข้างหน้า ซึ่งกล้องชนิดนี้จะมีหลักการที่ใช้กระจกสะท้อนภาพจากเลนส์กล้องไปยังปริซึมในกล้องและสะท้อนต่อมาสู่ช่องมองภาพให้เราได้เห็นก่อนที่จะกดชัตเตอร์เพื่อถ่ายภาพ โดยกล้องแบบ DSLR นั้นยังมีจอสำหรับมองภาพที่สามารถใช้งานได้ง่ายอีกด้วย
กล้องประเภท DSLR ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นจนทำให้คนเลิกใช้กล้องฟิล์มและหันมาใช้กล้องดิจิทัลกันมากขึ้น เพราะสะดวก สามารถดูภาพได้ทันที ไม่มีข้อกำหนดของจำนวนภาพที่สามารถถ่ายได้ในแต่ละครั้ง และไม่ต้องนำไปล้างอัดภาพแบบกล้องที่ใช้ฟิล์ม ภาพที่ได้เก็บเอาไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์หรือแชร์ให้ผู้อื่นได้โดยสะดวก
รวม กล้อง DSLR รุ่นน่าใช้ในปี 2022
การเลือกกล้องเพื่อมาใช้งานสักตัว จำเป็นต้องเลือกกล้องที่เหมาะสมกับการใช้งาน ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ซื้อให้ได้มากที่สุด หลายคนที่เป็นมือใหม่อาจจะสับสนเพราะในท้องตลาดนั้นมีกล้องมากมายหลายรุ่น ในบทความนี้ก็จะมารีวิว กล้อง Digital Single Lens Reflex รุ่นที่ยังคงน่าซื้อหามาใช้งานในปี 2022
1. Canon EOS 200D II
แม้ว่ากล้อง Canon EOS 200D II จะเปิดตัวมาได้สักระยะแล้ว แต่ก็ยังได้รับความนิยมในฐานะกล้องในระดับเริ่มต้นของมือใหม่ที่ใช้งานง่าย มีน้ำหนักเบาที่สุดในกล้องประเภทนี้ของ Canon โดยมีน้ำหนักของตัวกล้องอยู่ที่ราว ๆ 650 กรัม
– ประเภทของเซ็นเซอร์รับภาพ APS-C CMOS
– ความละเอียดสูงสุด 24.1 ล้านพิกเซล
– ค่าความไวแสง (ISO) 100 – 25600 (ขยายสูงสุดได้ที่ 51200)
– ระบบโฟกัสอัตโนมัติ 9 จุด
– บันทึกวิดีโอ : 4K, Full HD, HD
Canon EOS 200D II นี้ มีระบบเลือกจุดโฟกัสแบบอัตโนมัติได้ถึง 3,975 ตำแหน่ง เมื่อถ่ายภาพแบบ Live View ที่มีหน้าจอ LCD หมุนได้แบบทัชสกรีนกว้างถึง 3 นิ้ว ความละเอียดของจอภาพอยู่ที่ 1,040,000 จุด พร้อมระบบ Dual Pixel CMOS AF ที่ช่วยในการติดตามใบหน้าขนะถ่ายภาพ ฟังก์ชั่นโฟกัสจับดวงตาอัตโนมัติ (Eye Detection AF) ที่ช่วยให้ถ่ายภาพได้อย่างคมชัด ทำให้ทุกการถ่ายภาพกลายเป็นเรื่องง่าย สามารถเชื่อมต่อบลูทูธและ Wi-Fi เพื่อแชร์ภาพได้อย่างสะดวก
2. Nikon D7200
Nikon นับได้ว่าเป็นแบรนด์ผู้ผลิตกล้องที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของการเป็นกล้องระดับโปรคู่ใจช่างภาพมืออาชีพ สำหรับ Nikon รุ่น D7200 นั้นมีคุณสมบัติที่โดดเด่น ดังนี้
– เซ็นเซอร์ภาพ CMOS ให้ความละเอียดสูงสุด 24.2 ล้านพิกเซล
– ค่าความไวแสง (ISO) ปรับได้ตั้งเเต่ 100 – 25600
– เซ็นเซอร์โฟกัสอัตโนมัติ Advanced Multi-CAM 3500 II มากถึง 51 จุด
– บันทึกภาพเคลื่อนไหวที่ Full HD 1080/60p
ตัวกล้องผลิตจากวัสดุแมกนีเซียมอัลลอย ทำให้ตัวกล้องแม้ว่าจะมีขนาดใหญ่แต่ก็มีน้ำหนักเบาเพียงแค่ 765 กรัม ด้วยการออกแบบทำให้มีความแข็งแรง ป้องกันฝุ่นและละอองน้ำได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับช่างภาพที่ต้องการความทนทาน ลุยได้ทุกสถานการณ์ ระบบออโต้โฟกัสมีความแม่นยำ โดยถ่ายภาพได้ด้วยความเร็ว 6 ภาพต่อวินาที ทำให้ถ่ายภาพได้อย่างคมชัดแม้วัตถุเป้าหมายนั้นกำลังเคลื่อนไหว นอกจากนี้ยังแชร์ภาพถ่ายและวิดีโอได้ทันทีผ่านระบบ Wi-Fi
3. Pentax K-70
เอาใจสายลุยด้วยกล้องคู่ใจนักผจญภัย Pentax รุ่น K-70 ถ้าเอ่ยถึงชื่อแบรนด์ Pentax หลายคนอาจจะไม่คุ้นหู แต่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในเรื่องของกล้องถ่ายรูปแล้ว ต่างลงความเห็นความนี่คือกล้องที่น่าใช้เป็นอย่างมาก ด้วยเซ็นเซอร์ CMOS ขนาด APS-C มาพร้อมความละเอียดที่ 24.2 ล้านพิเซล โดยคุณสมบัติเด่น คือ Weather Resistant ซีลรอยต่อป้องกันน้ำและฝุ่นละอองได้เป็นอย่างดี เราจึงสามารถใช้งานได้ในทุกสภาพอากาศ ทุกสถานการณ์ โดยที่ไม่ต้องกังวลว่ากล้องจะได้รับความเสียหายจากสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายใน
Pentax K-70 ยังบันทึกภาพเคลื่อนไหวด้วยคุณภาพ Full HD 1080p 30 เฟรมต่อวินาที มี Wi-Fi ในตัว เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันได้อย่างสะดวก
4. Canon EOS 90D
DSLR Canon EOS 90D ที่สุดของความคมชัดและรวดเร็วเหมาะสำหรับมือใหม่และมืออาชีพ เป็นกล้องที่ใช้งานได้อย่างสะดวก
– เซ็นเซอร์ CMOS ขนาด APS-C + ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซล
– ระบบจับโฟกัสอัตโนมัติ 45 จุด
– ค่าความไวแสง (ISO) 100-25600
– บันทึกภาพเคลื่อนไหวได้สูงสุดที่ขนาด 4K
จุดเด่นคือสามารถถ่ายภาพวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวได้อย่างคมชัด ถ่ายได้ต่อเนื่อง 10 ภาพต่อวินาที มีระบบโฟกัสได้ถึง 5,481 ตำแหน่ง จึงเหมาะอย่างยิ่งในการถ่ายภาพในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ต้องใช้ความเร็วสูงโดยที่ระบบออโต้โฟกัสจะติดตามวัตถุไปด้วย เช่น การแข่งขันกีฬา สัตว์หรือคนที่กำลังเคลื่อนไหว การออกแบบปุ่มชัตเตอร์อยู่ในตำแหน่งที่ทำให้สามารถกดชัตเตอร์ได้ไวและชัตเตอร์มีความเร็วสูงที่ 1/16,000 วินาที ทำให้ไม่พลาดทุกช็อตสำคัญ
ทำไมกล้องสะท้อนภาพเลนส์เดี่ยว DSLR จึงยังเป็นที่นิยม
กล้อง Digital Single Lens Reflex นั้นเป็นกล้องที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน และแม้ว่าในปัจจุบันจะมีกล้องในระบบ Mirrorless ออกมา แต่ผู้ที่ชื่นชอบกล้องถ่ายรูปทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพ ก็ยังมีกล้องประเภท DSLR ไว้ใช้งาน ด้วยเหตุผลหลายประการ เช่น
- ตัวกล้องมีขนาดที่ใหญ่ การออกแบบตัวกล้องทำให้จับถนัดมือกว่ากล้องแบบ mirrorless
- มีความทนทานต่อการใช้งาน เพราะกล้องประเภท DSLR นั้นมีความแข็งแรง เพราะในบางครั้งหลายคนก็ต้องพกกล้องไปยังสถานที่ทุรกันดาร การมีกล้องที่แข็งแรงจะช่วยทำให้ลดความกังวลใจในการใช้งานลงได้
- มีช่องมองภาพ (View Finder) แม้ว่ากล้องแบบ mirrorless นั้นจะมีช่องมองภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์มาให้ แต่อย่างไรก็ตามการมองภาพผ่าน View Finder ของกล้องประเภท DSLR นั้น ให้ความเสมือนจริงมากกว่า หลายคนจึงชื่นชอบในคุณสมบัติเด่นนี้
- มีเลนส์ให้เลือกมากกว่าและมีราคาที่หลากหลาย ด้วยความที่กล้องประเภท DSLR นั้นถูกพัฒนามาอย่างยาวนานและเป็นที่นิยม ทำให้มีเลนส์ที่สามารถนำมาใช้งานร่วมกับกล้องให้เลือกใช้งานได้อย่างมากกว่า ควบคุมงบประมาณได้ดีกว่า
การเลือกซื้อกล้องถ่ายรูปสักตัว นอกจากปัจจัยในเรื่องของงบประมาณและลักษณะการใช้งานแล้ว ความชื่นชอบและหลงใหลในเสน่ห์ของ กล้อง DSLR ก็ทำให้กล้องชนิดDSLRยังคงได้รับความนิยมไปอีกยาวนาน
ที่มาข้อมูล: zoomcamera , bigcamera , tpa , fotoinfo , medium , techxcite , zoomcamera
Comments 3