เชื่อว่าคุณแม่หลังคลอดเกือบร้อยทั้งร้อยประสบกับปัญหา ท้องแตกลาย ซึ่งแน่นอนว่าสร้างความหนักใจให้อยู่ไม่น้อย ไหนจะทั้งเจ็บทั้งคัน ไหนจะรอยแตกที่เป็นแผลเป็นทิ้งไว้ วันนี้เราจะมาแนะนำเคล็ดลับสยบท้องแตกลายให้ผิวกลับมาเรียบเนียนขึ้นแบบง่าย ๆ ได้ผลเกินคาด
สาเหตุของ ท้องแตกลาย
อาการท้องแตกลายเป็นอาการที่ผิวหนังเกิดการฉีกขาดเนื่องจากผิวหนังขยายตัว ซึ่งเกิดในชั้นหนังแท้ เพราะขณะที่ตั้งครรภ์ในช่วงเดือนที่ 7 – 9 น้ำหนักจะขึ้นบวกกับหน้าท้องที่ขยายขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้ผิวหนังขยายตัวขึ้นตามไม่ทัน โครงสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิวถูกทำลาย เป็นเหตุให้เซลล์ผิวปริและเห็นเส้นเลือดที่อยู่ใต้ผิว หลังจากนั้นเส้นเลือดหดตัวกลับจึงเหลือแต่รอยริ้วแตกบนหน้าท้องที่มักจะเป็นสีแดง สีชมพู สีขาว และสีคล้ำเข้ม ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลและระยะเวลาที่ท้องแตกลาย
ข้อควรรู้ของอาการท้องแตกลายในช่วงตั้งครรภ์
- อาการท้องแตกลายในช่วงตั้งครรภ์ถือว่าเป็นเรื่องธรรมชาติที่พบขึ้นได้ไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด ยิ่งในตอนตั้งครรภ์ที่น้ำหนักเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เฉพาะบริเวณหน้าท้องเท่านั้นที่แตกลาย แต่ส่วนอื่น ๆ อย่างสะโพก ต้นแขน ต้นขา รวมไปถึงหน้าอกก็สามารถแตกลายได้เช่นกัน โดยผู้หญิงตั้งครรภ์เกือบ 90% จะมีอาการผิวหนังแตกลาย
- ปัญหาท้องแตกลายนั้น ไม่เป็นอันตรายทั้งต่อตัวคุณแม่และทารกในครรภ์ แต่จะก่อให้เกิดอาการคันยิบ ๆ ซึ่งแน่นอนว่าถ้ายิ่งเกาก็จะยิ่งทำให้ผิวแตกลายชัดเจนมากขึ้น ดังนั้นจะต้องอดใจไว้ไม่เกา และหมั่นทาครีมบำรุงสำหรับคนท้องหรือน้ำมันสกัดจากธรรมชาติเพื่อลดอาการคันและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
- ท้องแตกลายในระยะแรกบริเวณผิวที่แตกจะเป็นริ้วสีแดงคล้ำเพราะเส้นเลือดถูกยืดตัวเร็ว รอยแตกชนิดนี้จะสามารถรักษาให้ผิวกลับมาเรียบเนียนได้หากบำรุงดูแลอย่างถูกต้อง ส่วนรอยแตกลายที่เป็นริ้วสีขาวนั้นเกิดจากรอยแตกริ้วสีแดงที่ปล่อยไว้นานเข้าไม่มีการดูแลรักษาจะค่อย ๆ จางเป็นสีขาวซีด ซึ่งจะรักษาให้ผิวกลับมาเรียบเนียนได้ยากกว่า เพราะผิวหนังที่แตกเริ่มกลายเป็นรอยแผลเป็นไปแล้ว
วิธีแก้ปัญหา ท้องแตกลาย
ปัญหาท้องแตกลายในคุณแม่ตั้งครรภ์นั้นแม้ว่าดูเหมือนจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็สามารถบรรเทาอาการและชะลอให้เกิดรอยแผลน้อยที่สุด และสมานให้ผิวที่แตกลายนั้นกลับมาเรียบเนียนขึ้นได้อีกครั้ง โดยมีวิธีการป้องกันและแก้ปัญหาดังนี้
- ควบคุมน้ำหนักให้เป็นไปตามเกณฑ์
แน่นอนว่าช่วงตั้งครรภ์น้ำหนักตัวของคุณแม่จะเพิ่มขึ้นเป็นธรรมดา แต่คุณแม่ก็ต้องอย่าปล่อยให้น้ำหนักตัวเองขึ้นมากจนเกินไป ควรอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมในแต่ละช่วงอายุครรภ์ ซึ่งคุณหมอที่ฝากครรภ์จะเป็นผู้ประเมิน ส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ที่เดือนละ 2 กิโลกรัม เพื่อให้เวลาผิวหนังได้ปรับสภาพค่อย ๆ ขยายตัว รอยแตกลายก็จะลดน้อยลง
- ทาน้ำมันบำรุงผิว
น้ำมันสกัดจากธรรมชาติที่ไม่มีส่วนผสมของ Mineral oil เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันอาร์แกน น้ำมันมะกอก น้ำมันดอกทานตะวัน ฯลฯ จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นให้กับผิว ที่สำคัญยังช่วยลดอาการผิวแห้งคันได้อีกด้วย โดยสามารถใช้ทาในระหว่างตั้งครรภ์และหลังคลอด เพื่อชะลอและฟื้นฟูรอยแตกลายให้จางหาย ผิวเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ
- ครีมลดรอยแตกลาย
นอกจากการทาน้ำมันบำรุงผิวแล้วครีมบำรุงผิวขณะตั้งครรภ์ก็เป็นอีกหนึ่งไอเทมสำคัญที่จะขาดไม่ได้เลย โดยสามารถเริ่มทาได้ตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรก ๆ ของการตั้งครรภ์ ไม่จำเป็นต้องรอให้ท้องแตกลายก่อนแล้วค่อยทา แต่ต้องแน่ใจว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้ในระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรได้ แนะนำว่าควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ ซึ่งผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นพร้อมกระตุ้นการสร้างและซ่อมแซมคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ช่วยให้คอลลาเจนบริเวณผิวที่แตกฟื้นฟูและสมานตัวเอง รอยแผลรอยแตกต่าง ๆ ก็จะจางหายไป อีกทั้งยังช่วยลดอาการคันป้องกันไม่ให้เกาจนเกิดรอยแตกเพิ่มมากขึ้น
- เทคโนโลยีทางการแพทย์
รอยท้องแตกลายสามารถรักษาให้หายได้ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ไม่ว่าจะเป็นการกรอผิว การทำเลเซอร์ หรือการผ่าตัด วิธีการเหล่านี้คล้ายกับการรักษารอยแผลเป็นและความหมองคล้ำ คือจะใช้พลังงานจากเลเซอร์ไปกระตุ้นเซลล์ผิวให้สร้างคอลลาเจนหรืออีลาสตินและสร้างเซลล์ผิวใหม่ ผิวจะค่อย ๆ สมานตัวเอง รอยแตกลายจะค่อย ๆ จางหายและเรียบเนียนขึ้น ส่วนการผ่าตัดจะเป็นการตัดเอาผิวหนังส่วนที่แตกนั้นออกไป ซึ่งวิธีนี้จะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงอีกทั้งยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงตามมาได้
ปัญหาท้องแตกลายในคุณแม่ตั้งครรภ์แม้ว่าจะสร้างความกังวลใจแต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะฟื้นฟูผิวให้กลับมาเนียนเรียบดังเดิม สิ่งสำคัญเลยคือการดูแลตนเองในระหว่างตั้งครรภ์ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พยายามควบคุมอาหารไม่ตามใจปาก เพราะไม่เช่นนั้นอาจทำให้น้ำหนักตัวพุ่งจนเกิดผิวแตกได้ ยิ่งไปกว่านั้นจะทำให้เสี่ยงเกิดภาวะเบาหวานในระหว่างตั้งครรภ์ได้อีกด้วย หมั่นทาครีมบำรุงผิวเพื่อให้ผิวชุ่มชื้น เท่านี้ก็ช่วยให้กลายเป็นคุณแม่ตั้งครรภ์ที่สวยเป๊ะได้ไม่ยาก
ที่มาข้อมูล: babygiftretail , pobpad , mamaschoice , theskin , pregskin