การนอนคือการพักผ่อนที่ดีที่สุด แต่ต้องมีสภาพแวดล้อมในการนอนที่ดี และต้องมีที่นอนที่เหมาะสมและเข้ากันได้กับองค์ประกอบอื่น ๆ อีกหลายอย่าง ทั้งเรื่องของขนาดพื้นที่ห้อง จำนวนคนที่นอน และที่สำคัญก็คือเรื่องของสุขภาพผู้นอน สำหรับประเภทของที่นอนที่มีให้เลือกใช้ก็มีอยู่หลายประเภท ใครที่คิดซื้อที่นอนใหม่ ต้องอาศัยความช่างเลือกพอสมควร เพราะของใช้ชิ้นนี้ต้องอยู่กับเราไปอีกนาน
เลือกที่นอนแบบไหน ให้เหมาะกับร่างกายตัวเอง?
เรื่องของสุขภาพสำคัญกว่าอย่างอื่น การจะมีสุขภาพที่ดี ส่วนหนึ่งต้องมาจากการพักผ่อนที่มีคุณภาพ ที่นอนจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิถีพิถันในการเลือก เพราะหากเลือกสุ่ม ๆ มาอาจจะส่งผลให้สรีระร่างกายไม่เข้ากับที่นอน และทำให้เกิดอาการปวดหลังตามมาได้ ดังนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำที่นอน 3 ประเภทยอดนิยมที่ตอบโจทย์การนอนของคุณ
ที่นอนยางพารา ตัวเลือกของคนรักสุขภาพ
ที่นอนที่จัดว่ามีความสบายและเน้นในเรื่องของความเข้ากันได้กับสรีระร่างกายคนมากที่สุดก็คือ ที่นอนยางพารา เพราะมีคุณสมบัติเด่นคือไม่ยุบตัวง่าย ในขณะเดียวกันก็มีความยืดหยุ่นดีทำให้นอนสบาย คุณสมบัตินี้ได้มาจากน้ำยางพาราที่นำมาผลิตด้วยกรรมวิธีพิเศษในการอัดน้ำยางและขึ้นรูปเป็นที่นอนที่มีความหนาแน่นสูง รองรับสรีระของผู้นอนได้เป็นอย่างดี น้ำหนักของที่นอนแบบยางพาราจะกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอไปในทุกพื้นที่ของตัวที่นอน และด้วยความที่เนื้อยางไม่ยุบตัวจึงไม่ทำให้ผู้นอนปวดหลัง ราคาจะค่อนข้างสูงแต่นอนสบาย ถ้าต้องแลกกับสุขภาพที่ดีก็ถือว่าคุ้มค่า ไม่เฉพาะแต่ผู้สูงวัยเท่านั้น คนวัยทำงานสมัยนี้ก็ควรเลือกที่นอนทำจากยางพารา เพราะจะได้หมดปัญหาเรื่องปวดหลังจากการนั่งทำงานมาทั้งวัน จะมีติดอยู่เล็กน้อยตรงที่ว่า ความแน่นของเนื้อยางทำให้น้ำหนักของที่นอนค่อนข้างมาก หากมีความจำเป็นต้องย้ายที่ หรือยกขึ้นทำความสะอาดคงต้องระวังกันนิดหนึ่งอาจจะต้องหาคนมาช่วย ไม่อย่างนั้นอาจเจอปัญหาปวดหลังอยู่ดีเพราะว่าต้องมายกที่นอนหนัก ๆ นี่เอง
สามารถใช้ ที่นอนฟองน้ำ แทน ที่นอนยางพารา ได้ไหม
แต่ถ้าหากคนไม่ชอบที่นอนหนัก ๆ เพราะมีความหนักใจเวลาเปลี่ยนผ้าปูที่นอน ก็สามารถเลือกเป็นที่นอนฟองน้ำแทนได้เช่นกัน ที่นอนฟองน้ำน่าสนใจไม่แพ้ที่นอนชนิดยางพารา มีความเบามือกว่าแต่ก็ไม่ยุบตัวง่าย เพราะกรรมวิธีการผลิตที่นอนชนิดนี้ใช้เทคโนโลยีการบดปั่นเนื้อฟองน้ำก่อนจะอัดด้วยแรงดันจนแน่นเพื่อให้ที่นอนไม่ยวบยาบ ที่นอนฟองน้ำจัดว่าเป็นที่นอนที่มีความแข็งอยู่มากจึงไม่ทำให้ปวดหลังเวลานอน แต่อายุการใช้งานจะไม่นานเท่ากับที่นอนที่ทำจากยางพารา เพราะฟองน้ำประเภทนี้เมื่อใช้งานไประยะหนึ่งแล้วจะยุบตัวเร็วกว่า ดังนั้นจึงอาจจะต้องเปลี่ยนที่นอนบ่อยกว่า อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องระวังในการใช้ที่นอนฟองน้ำก็คือ อาจเกิดเชื้อราได้ง่ายถ้าเปียกน้ำเพราะฟองน้ำดูดความชื้นมาก สำหรับเรื่องของราคาที่นอนชนิดนี้มีราคาต่ำกว่าที่นอนที่ผลิตจากยางพารา จึงประหยัดงบประมาณมากกว่า
หากที่นอนวัสดุยางพาราและฟองน้ำยังแข็งเกินไป แนะนำให้เลือกใช้ที่นอนสปริง
การซื้อที่นอนสำหรับคนที่ไม่ติดเรื่องปวดหลังหรือคนวัยหนุ่มสาว มักจะชอบฟิลลิ่งของการทิ้งตัวลงนอนแบบนุ่มสบายเหมือนอยู่ในอ้อมกอดของปุยนุ่น ที่นอนแบบสปริงจะสามารถตอบโจทย์ข้อนี้ได้ดีกว่า แต่การเลือกที่นอนสปริงก็ต้องดูเพิ่มอีกด้วยว่าเป็นสปริงแบบไหน ปัจจุบันมีสปริงแบบใหม่ที่พัฒนาจากรูปแบบเดิมให้ใช้งานได้ดีขึ้น
- สปริงแบบ Bonnel เป็นแบบแรกที่นุ่มและเด้งดี ที่หลายคนบอกต่อ มีระบบการดูดซับและมีการกระจายน้ำหนักทั่วที่นอน จึงช่วยลดการกดทับบริเวณหัวไหล่และสะโพก ที่นอนมีการคืนตัวเร็วดี รองรับน้ำหนักได้มากถึง 200 กิโลกรัม
- สปริงแบบ Offset เป็นรุ่นใหม่ที่พัฒนาความแข็งแรงของตัวสปริงมากขึ้นกว่าแบบแรก ลดเสียงเบาลง แต่จะมีความแข็งไม่นุ่มเท่าเดิม
- สปริงแบบ Pocket พัฒนาไปอีกขั้นโดยใส่ถุงผ้าเพิ่มเข้าไปภายในเพื่อรองรับการทำงานของสปริงให้ยืดหยุ่นมากขึ้น จึงนุ่มกว่าเดิม และรองรับส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ดีขึ้น
ถ้าเลือกที่นอนสปริง เบาใจเรื่องน้ำหนักได้ เพราะเบากว่าที่นอนแบบยางพาราและที่นอนฟองน้ำ แต่ก็อาจจะต้องหนักใจเรื่องของสปริงที่เสียดสีและมีเสียงดัง ไม่เหมาะกับคนนอนยากเพราะทนเสียงรบกวนไม่ไหวหรือว่าต้องนอนหลายคนบนที่นอนเดียวกัน อาจจะมีปัญหาเวลาใครคนใดคนหนึ่งพลิกตัวและเกิดเสียงดังรบกวนคนข้าง ๆ
นอกจากที่นอน 3 แบบนี้แล้ว ยังมีที่นอนแบบอื่นให้เลือกคือ ที่นอนใยมะพร้าว ที่นอนนุ่น ซึ่งเป็นที่นอนแบบย้อนยุค ทำจากวัสดุธรรมชาติ สำหรับที่นอนใยมะพร้าวค่อนข้างแข็งไม่ยืดหยุ่น แต่น้ำหนักเบาเมื่อเทียบกับที่นอนชนิดยางพารา ส่วนที่นอนนุ่นดูเหมือนจะย้อนยุคยิ่งกว่า เป็นที่นอนที่นอนสบายแค่ช่วงแรก แต่เมื่อใช้ไปนาน ๆ นุ่นจะยุบตัวและจับตัวเป็นก้อนข้างใน สมัยนี้จึงหาซื้อที่นอนนุ่นค่อนข้างยากเพราะไม่ค่อยนิยมแล้ว
ของใช้ทุกชนิดมีข้อดีและข้อจำกัดเป็นธรรมดาที่นอนก็เช่นกัน สำหรับ ที่นอนยางพารา ฟองน้ำ หรือแบบสปริงต่างก็มีข้อดีและข้อจำกัดที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นควรสังเกตตัวเองก่อนเป็นอันดับแรกก่อนตัดสินใจซื้อว่าที่นอนแบบไหนที่เข้ากับเรามากที่สุด ก็จะทำให้ลดผลเสียที่ตามมาได้ เช่น อาการปวดหลัง เมื่อนอนเตียงที่นุ่มหรือแข็งเกินไป เพราะการพักผ่อนที่ดีคือการได้นอนหลับอย่างมีคุณภาพ อย่าลืมว่าการนอนหลับสำคัญต่อร่างกายของเรามากพอ ๆ กับการดูแลสุขภาพด้วยวิธีอื่น ๆ จึงต้องเลือกที่นอนให้ดี สุขภาพร่างกายของเราจึงจะดียิ่งขึ้น