ครอบครัวไหนที่รักการทำอาหารอย่างจริงจัง คงรู้ดีว่านอกจากเตาเพื่อการทำอาหารแบบปกติซึ่งทำได้ทั้งเมนูต้ม ผัด ทอด ฯลฯ แค่นั้นคงยังไม่พอ แต่ยังควรมีเตาเพื่อการอบอาหารติดครัวเอาไว้ด้วย เพื่อความหลากหลายของการประกอบอาหารนานาชนิด และสามารถสนุกกับการทำเบเกอรีต่าง ๆ ไว้กินกันในครอบครัว เตาอบ ในยุคนี้มีให้เลือกใช้ทั้งแบบที่ใช้ไฟฟ้า (Electric Oven) และแบบใช้แก๊ส แต่ในวันนี้เราจะพาทุกคนไปเลือกซื้อเตาอบแบบใช้ไฟฟ้าที่มีขนาดพอเหมาะกับครอบครัวทั่วไป ใช้งานง่าย และไม่จำเป็นต้องต่อท่อแก๊สเพิ่มให้ยุ่งยาก
ระหว่าง เตาอบ กับ หม้ออบลมร้อน จะเลือกแบบไหนดี
นี่คือเรื่องที่หลายคนสงสัยโดยเฉพาะมือใหม่ ซึ่งคำตอบที่ง่ายที่สุดคือ หากคุณมีพื้นที่จำกัด ต้องการอุปกรณ์ครัวที่ทำได้ครอบคลุมทั้งอาหารและเบเกอรีง่าย ๆ รวมถึงต้องการอุปกรณ์ที่ดูแลทำความสะอาดง่าย ใช้งานไม่ยุ่งยาก หม้ออบลมร้อนก็เหมาะกับคุณ แต่หากชอบอบเบเกอรีที่ซับซ้อนไปอีกขั้น ไม่ว่าจะเป็นเค้ก คุกกี้ หรือขนมปังเมนูต่าง ๆ หม้ออบลมร้อนจะไม่ใช่ตัวเลือกที่เหมาะ เพราะการควบคุมอุณหภูมิและกระจายความร้อนจะทำได้ไม่ดี รวมถึงไม่สามารถทำงานต่อเนื่องได้ในเวลานานเกินไป แต่หากต้องการ เตาอบ ไฟฟ้าเพื่อการอบอาหารจะต้องแลกมาด้วยพื้นที่จัดวางซึ่งต้องใช้มากกว่า ราคาที่สูงกว่า และการทำความสะอาดก็มีขั้นตอนยุ่งยากกว่า หลายคนแก้ปัญหาด้วยการเลือกซื้ออุปกรณ์ทั้งสองตัวติดครัวไว้เพื่อตอบโจทย์งานครัวที่แตกต่างกันเสียเลย
วิธีเลือกเตาอบให้เหมาะกับการใช้งาน
เมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะหาเตาอบมาไว้ในครัวสักเครื่อง การเลือก เตาอบ ให้เหมาะสมกับการใช้งานจึงเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาร่วมด้วย เริ่มจากขนาดและฟังก์ชัน สำหรับเตาขนาดเล็กความจุไม่เกิน 20 ลิตร จะเหมาะกับการทำอาหารเมนูง่าย ๆ เช่น ปิ้งขนมปัง อุ่นอาหาร ทำคัพเค้ก ฯลฯ แต่จะมีจุดด้อยคือการควบคุมอุณหภูมิและความร้อนจะทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ส่วนเตาอบขนาดกลางความจุไม่เกิน 50 ลิตร จะทำเบเกอรีออกมาได้ดีกว่าเพราะควบคุมความร้อนได้แม่นยำ และหลายรุ่นยังมีฟังก์ชันอบลมร้อนช่วยเพิ่มความหลากหลายในการอบอาหารให้มากขึ้น
สำหรับเตาอบขนาดใหญ่ความจุ 60 – 70 ลิตรขึ้นไป หลายรุ่นมีคุณสมบัติไม่ต่างจากเตาขนาด 50 ลิตร เพียงแต่จะอบอาหารได้ต่อเนื่องมากขึ้นและทำได้ในปริมาณมากขึ้น สำหรับเตาขนาดใหญ่กว่า 70 ลิตร หลายรุ่นจะเป็นเตาแบบฝังหรือบิวท์อิน เหมาะกับการทำครัวอย่างจริงจัง รวมถึงเป็นเตาเริ่มต้นสำหรับคนที่คิดจะอบเบเกอรีขายเป็นอาชีพ
5 รุ่น เตาอบ งบไม่เกิน 5,000 บาท
1. HOMEMATE Electric Oven ความจุ 36 ลิตร รุ่น HOM-23F368
เตาอบรุ่นนี้ขนาดเล็กก็จริง แต่ฟังก์ชันการใช้งานไม่แพ้รุ่นใหญ่เลยทีเดียว มาพร้อมกับการปรับไฟบนไฟล่างและพัดลมกระจายความร้อนได้ตามใจ ทำให้คุณปรับแต่งความร้อนได้ถึง 6 รูปแบบ ลงตัวทั้งอาหารและเบเกอรี ปรับอุณหภูมิได้ระหว่าง 100 – 250 องศาเซลเซียส ตั้งเวลาอบได้สูงสุด 60 นาที อีกทั้งยังมาพร้อมของแถมต่าง ๆ ทั้งถาดอบอาหาร ตะแกรงอบ ถาดอบคุกกี้ ฯลฯ ซื้อรุ่นนี้เครื่องเดียว ถือว่าเพียงพอกับทุกเมนูสำหรับครอบครัวขนาดเล็กหรือมือใหม่ที่มองหาเตาเครื่องแรกเพื่อการอบอาหาร
2. Oxygen Electric Oven ความจุ 70 ลิตร รุ่น DN70A-R
เตารุ่นนี้มาพร้อมกับฟังก์ชันการทำอาหารได้อย่างหลากหลาย เพราะไม่ได้มีเพียงถาดและตะแกรงอบเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมแกนหมุนสำหรับย่างไก่ทั้งตัวได้อีกด้วย มาพร้อมถาดรองเศษอาหารออกแบบเป็นพิเศษ ทำความสะอาดง่าย หมดปัญหาเศษอาหารตกค้างหมักหมม ใครที่มองหาเตาซึ่งเน้นทำอาหารเป็นหลัก รุ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์มาก
3. TEFAL Electric Oven รุ่น OF4958TH ความจุ 60 ลิตร
เตาอบแบรนด์ฝรั่งเศสรุ่นนี้ถือว่ามีฟังก์ชันครบถ้วนที่สุดในงบไม่เกิน 5,000 บาท เพราะนอกจากจะปรับการทำงานระหว่างไฟบน ไฟล่าง และพัดลมระบายความร้อนได้อย่างอิสระแล้ว ยังมีฟังก์ชันละลายน้ำแข็งมาให้ด้วย จึงเท่ากับว่าทำงานได้ 7 รูปแบบ นอกจากนี้ยังเหมาะทั้งกับการอบอาหารและเบเกอรี มีทั้งถาดอบ ตะแกรงย่าง และแกนหมุนสำหรับย่างไก่ทั้งตัวมาให้ นอกจากนั้นยังเสริมความปลอดภัยด้วยกระจกทนความร้อนสองชั้น ถือว่าลงตัวกับทุกการใช้งาน
4. Otto หม้ออบลมร้อน ขนาด 12 ลิตร รุ่น CO-708
ใครที่รู้สึกว่าเตาขนาดใหญ่ทำความสะอาดยาก จะใช้แต่ละครั้งก็ดูมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ เราขอแนะนำให้ลองเป็นหม้ออบลมร้อนจาก OTTO ด้วยความจุ 12 ลิตร ปรับอุณหภูมิได้สูงสุด 250 องศาเซลเซียส มีพัดลมกระจายความร้อนช่วยให้อาหารสุกอย่างทั่วถึง ถือเป็นอุปกรณ์ครัวอเนกประสงค์ที่ทำได้ทั้งปิ้ง ย่าง ทอด อบกรอบ และอุ่นอาหาร อีกทั้งยังเคลื่อนย้ายได้อย่างสะดวก เหมาะที่จะมีติดบ้านไว้
5. TOSHIBA Electric Oven รุ่น ET-TD7080(IV)
ปิดท้ายกับเตาอบขนาดความจุ 10 ลิตร เตาอบแบรนด์เก่าแก่ของญี่ปุ่น สามารถปรับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 70 – 230 องศาเซลเซียส ปรับไฟบนไฟล่างได้ มาพร้อมกับคุณสมบัติทำความร้อนได้ภายในเวลา 5 นาที ช่วยให้คุณอุ่นอาหารได้อย่างรวดเร็วในเวลาเร่งรีบ
และทั้งหมดนี้ก็คือเตาอบจากแบรนด์คุณภาพที่ช่วยเพิ่มทางเลือกในการทำอาหารให้ได้หลากหลายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำเมนูอาหารคาวใหม่ ๆ รวมไปถึงการอบเบเกอรีอย่างจริงจัง ข้อแนะนำก็คือควรรู้ด้วยว่าต้องเลือกแบบไหนดีให้เหมาะกับการใช้งาน เพื่อความคุ้มค่าและความสนุกเมื่อซื้อมาทำอาหารแล้วนั่นเอง
เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างที่เรเชล เรย์ พิธีกรรายการอาหารทางโทรทัศน์และนักเขียนชื่อดังกล่าวไว้ว่า “Good food and a warm kitchen is what makes a house a home.” อาหารดี ๆ และครัวที่อบอุ่นคือสิ่งที่ทำบ้านให้เป็นบ้าน
Comments 2