อุปกรณ์สำหรับรถยนต์ที่มีประโยชน์และมีความสำคัญต่อความปลอดภัยในการขับขี่ ชนิดที่เรียกว่าขาดไม่ได้เลยอีกอย่างหนึ่งก็เห็นทีคงจะหนีไม่พ้น ที่ปัดน้ำฝน เพราะหน้าที่หลัก ๆ ของที่ปัดน้ำฝนก็คือการปัดกวาดน้ำออกจากกระจกหน้ารถในขณะที่รถกำลังวิ่ง เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นวิสัยทัศน์ได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้มากยิ่งขึ้น
แต่ในขณะเดียวกันถ้าหากที่ปัดน้ำฝนทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพก็อาจจะส่งผลต่อการขับขี่ได้เช่นกัน นอกจากนั้นที่ปัดน้ำฝนยังทำหน้าที่ปัดใบไม้ เศษดินโคลน แมลง หรือแม้แต่ปัดฝุ่นละอองต่าง ๆ ที่เกาะอยู่บนกระจกบังลมหน้าอีกด้วย เมื่อเห็นถึงความสำคัญของที่ปัดน้ำฝนแบบนี้แล้ว จึงจำเป็นอย่างมากที่เราจะต้องหมั่นตรวจเช็คสภาพให้พร้อมใช้งานได้ตลอดเสมอ หากท่านใดที่กำลังเจอกับปัญหาที่ปัดน้ำฝนมีเสียงดังหรือสะดุด ปัดกวาดน้ำฝนได้ไม่เกลี้ยงเท่าที่ควร มาดูวิธีการแก้ปัญหาที่เรานำมาฝากในวันนี้กันเลย
สาเหตุที่ ที่ปัดน้ำฝน มีเสียงดัง พร้อมวิธีแก้ไข
ส่วนใหญ่ที่ปัดน้ำฝนมักจะถูกใช้งานบ่อยโดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน จึงทำให้เจ้าของรถไม่ค่อยได้ตรวจเช็คสภาพสักเท่าไหร่ แต่พอถึงเวลาที่จะใช้งานกลับต้องเจอปัญหาทั้งเสียงดังและสะดุด อันเกิดจากยางที่ปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพ หรือเอียงไปทิศทางใดทิศทางหนึ่ง หรือเนื้อยางแข็งกระด้าง ซึ่งนอกจากจะปัดน้ำฝนได้ไม่ค่อยดีแล้วยังสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้งานอีกด้วย วิธีแก้ปัญหานั้นก็คือการเปลี่ยนยางที่ปัดน้ำฝนใหม่ แต่ถ้าในกรณีที่เพิ่งเปลี่ยนได้ไม่นานก็มีปัญหาปัดสะดุดและเสียงดังแล้ว ลองใช้วิธีถอดใบที่ปัดน้ำฝนออกจากก้าน แล้วพ่นสเปรย์ซิลิโคนลงบนยางปัดให้ทั่ว ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที จากนั้นให้ใช้ผ้าแห้งเช็ดน้ำยาซิลิโคนออกให้หมด แล้วนำไปติดตั้งเข้ากับก้านปัดน้ำฝนเช่นเดิม ก็จะช่วยเรียกคืนประสิทธิภาพการทำงานของที่ปัดน้ำฝนแล้ว
อายุการใช้งานของ ที่ปัดน้ำฝน
เราจะรู้ได้อย่างไรว่ายางของที่ปัดน้ำฝนอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนใหม่แล้ว วันนี้เราจะมาบอกให้ได้ทราบกัน
ปกติแล้วอายุในการใช้งานของยางที่ปัดน้ำฝนจะอยู่ที่ประมาณ 12 เดือน ก็จะมีอาการเสื่อมสภาพแสดงออกมาให้ผู้ขับขี่ได้รับรู้แล้ว ซึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้เสื่อมสภาพนั้นก็มาจากความร้อนของแสงแดด และเศษฝุ่นต่าง ๆ เกาะที่ยางปัดน้ำฝนจนทำให้เกิดการสึกหรอขึ้น
เราสามารถสังเกตที่ปัดน้ำฝนว่าเสื่อมสภาพ และถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนใหม่แล้วหรือยัง โดยการสังเกตด้วยตนเองจากการทำงานของที่ปัดน้ำฝน ถ้าหากมีลักษณะปัดน้ำฝนไม่สะอาด แสดงว่าเกิดจากใบปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพ หรือหลังจากปัดน้ำบนกระจกแล้วมีละอองน้ำเป็นเส้นครึ่งวงกลมหรือเป็นม่านมัวบนกระจก แสดงว่าเป็นเพราะยางปัดน้ำฝนแข็งจนกรอบแตกจนไม่สามารถรีดน้ำออกจนหมดได้ หากใบปัดน้ำฝนมีเสียงดังและสะดุด แสดงว่ามีสาเหตุมาจากยางที่ปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพ ควรเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนใหม่ทันทีเพื่อความปลอดภัยและทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดีขึ้น
วิธีดูแลใบที่ปัดน้ำฝน
หากที่ปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพแล้วแต่ยังฝืนใช้งานต่อไป จะทำให้กระจกหน้ารถเป็นรอยเสียหาย อีกทั้งยังทำให้ทัศนวิสัยในการการขับขี่แย่ลงจนอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ดังนั้นควรหมั่นดูแลตรวจเช็คอย่างสม่ำเสมอเพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานมากขึ้น ดังนี้
- ใช้ผ้าชุบน้ำแล้วบิดให้หมาด ๆ จากนั้นให้นำไปเช็ดตามแนวขอบยางที่ปัดน้ำฝนเพื่อเช็ดล้างเศษดิน เศษโคลน เศษใบไม้ และฝุ่นออกให้สะอาด
- หลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดดและไม่ควรยกก้านที่ปัดน้ำฝนขึ้น เพราะความร้อนจากแสงแดดจะส่งผลทำให้สปริงและก้านที่ปัดน้ำฝนเกิดความเสียหายได้
- ควรใช้งานที่ปัดน้ำฝนเป็นประจำ ถึงแม้จะไม่ใช่หน้าฝนก็ตาม เพื่อช่วยทำให้ยางที่ปัดน้ำฝนไม่แห้งกรอบ อันเนื่องมาจากการไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน
- ควรหมั่นตรวจเช็คหน้ายางปัดน้ำฝน ถ้าหากมีลักษณะเป็นขุยหรือแข็ง ควรเปลี่ยนใหม่
- ก่อนใช้งานที่ปัดน้ำฝน ควรตรวจเช็คกระจกรถก่อน เพราะถ้าหากมีเศษดิน เศษหิน หรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ ติดอยู่ก็อาจจะทำให้ยางที่ปัดน้ำฝนเกิดความเสียหายได้
- ถ้าหากที่ปัดน้ำฝนมีเสียงดัง หรือทำงานสะดุด ปาดคราบน้ำไม่หมด ควรเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝนใหม่ทันที
ข้อควรรู้ก่อนเปลี่ยนยางปัดน้ำฝน
รถยนต์แต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้ออาจจะมีการใช้ยางที่ปัดน้ำฝนที่มีขนาดแตกต่างกันออกไป ผู้ใช้รถจึงควรศึกษาเกี่ยวกับสเปคของที่ปัดน้ำฝนจากคู่มือรถ เพราะจะมีการระบุรุ่นหรือขนาดเอาไว้อย่างชัดเจน หรือถ้าเป็นกรณีที่ต้องการเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนแบบเร่งด่วน ก็สามารถเทียบดูรุ่นรถที่มีการระบุไว้บนกล่องสินค้าใบปัดน้ำฝนก็ได้ ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมจะต้องให้ความสำคัญเกี่ยวกับขนาดของที่ปัดน้ำฝนนั้นก็เป็นเพราะว่า
- ถ้าหากใบที่ปัดน้ำฝนมีขนาดที่เล็กเกินไปก็จะทำให้ปัดน้ำได้น้อย ส่งผลทำให้ทัศนวิสัยไม่ชัดเจน และอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
- ถ้าหากใบปัดน้ำฝนมีขนาดที่ใหญ่เกินไป นั่นก็จะทำให้เลยขอบกระจกใบปัดก็จะเกิดความเสียหายเร็ว ทำให้มีอายุการใช้งานน้อยลง
ดังนั้นการเลือก ที่ปัดน้ำฝนรถยนต์ ให้ตรงตามขนาดของรถแต่ละรุ่น จะทำให้การปัดน้ำฝนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นสภาพการจราจรและถนนหนทางข้างหน้าได้อย่างชัดเจน เป็นการช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้อีกทางหนึ่งนั่นเอง สำหรับท่านที่กำลังมองหาที่ปัดน้ำฝน สามารถเข้าเลือกชมและช้อปได้ที่ลาซาด้า ที่นี่มีที่ปัดน้ำฝนทุกรุ่น ทุกขนาดจำหน่าย
ที่มาข้อมูล: unitedhonda , tipauto , sanook , motorist , grandprix , unitedhonda