ในช่วงซัมเมอร์ที่อากาศร้อน ๆ แบบนี้ การได้ดื่มเครื่องดื่มเย็น ๆ ใส่น้ำแข็งเพื่อคลายความร้อน หรือการแช่ของสดให้อยู่ได้นานโดยไม่เสียได้ไวนั้น ทำให้ ตู้เย็น เป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลย แต่สำหรับใครที่กำลังลังเล ไม่แน่ใจว่าต้องเลือกซื้อตู้แช่เย็นแบบไหนจึงจะเหมาะกับบ้านของคุณแล้วล่ะก็ วันนี้เรามีตัวเลือกดี ๆ มาฝากกัน ถ้าพร้อมแล้วตามไปดูกันได้เลย
เลือก ตู้เย็น อย่างไรให้เข้ากับบ้านของคุณ
- เช็กค่าคิวกับความเหมาะสมต่อการใช้งาน ค่าคิว หรือปริมาณความจุของตู้แช่เย็นยิ่งค่านี้มากย่อมบ่งบอกถึงปริมาณความจุมากขึ้นตามไปด้วย ถ้าเลือกคิวของตู้มากเกินไป เช่น ใช้งานตู้แช่เย็น 20 คิว แต่สมาชิกในครอบครัวมีเพียงแค่ 1 – 2 คน ก็กลายเป็นว่าใช้งานไม่คุ้มค่า เสียค่าไฟเพิ่มมากขึ้นโดยไม่จำเป็น ซึ่งค่าคิวควรสัมพันธ์กับจำนวนสมาชิกในครอบครัว เช่น สมาชิกครอบครัว 5 คน ค่าคิวที่เหมาะสมควรอยู่ที่ประมาณ 15 คิว เป็นต้น
- ดูขนาดตู้ทำความเย็นกับพื้นที่ภายในห้อง ตู้ทำความเย็นเป็นอุปกรณ์ที่ใช้พื้นที่อย่างมาก นอกจากต้องพิจารณาถึงขนาดของตัวตู้ว่าเหมาะสมกับพื้นที่หรือไม่ ก็ยังต้องคิดต่อไปว่าหากตัดสินใจซื้อมาแล้วจะเหลือพื้นที่เว้นสำหรับประหยัดพลังงานหรือเปล่า? เนื่องจากตู้แช่เย็นจำเป็นต้องเหลือพื้นที่เว้นระยะห่างออกจากกำแพง วางติดชิดเลยไม่ได้ จากเหตุผลด้านประหยัดพลังงานและการระบายความร้อน ด้วยเหตุนี้เองถ้าบ้านมีขนาดเล็กเราแนะนำให้ใช้ตู้ทำความเย็นขนาด 5 คิว ก็เพียงพอแล้ว
5 ตู้เย็น รุ่นยอดนิยมที่น่าซื้อใช้ปี 2023
- LG รุ่น GV-B242PXGB
ตู้เย็นสองประตู ขนาด 8.6 คิว มาพร้อมกับระบบ Multi flow ช่วยให้อุณหภูมิด้านในเย็นอย่างทั่วถึง สม่ำเสมอ ทำให้ผลไม้ที่แช่อยู่บริเวณด้านข้างของตู้ยังคงความสดใหม่เอาไว้ได้นาน และตู้ทำความเย็นรุ่นนี้ยังใช้ระบบ Smart Inverter Compressor อันเปรียบเสมือนชิปควบคุมการทำงานทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ละลายน้ำแข็งอัตโนมัติทำให้ไม่มีน้ำแข็งเกาะเครื่องเหมือนตู้ทำความเย็นรุ่นเก่า และรอบการทำงานของระบบ Smart Inverter จะน้อยกว่าระบบอื่น จึงทำให้ประหยัดพลังงานมากขึ้นราว 20–30%
- Worldtech รุ่น WT-RF101
ตู้เย็นขนาดเล็ก 3.3 คิว แบบ 1 ประตู ที่ออกแบบมาพร้อมทั้งช่องแช่แข็งและช่องแช่เย็น ช่องแช่แข็งมีขนาดใหญ่จุของได้ถึง 9 ลิตร ในขณะที่ความจุช่องแช่เย็นกว้างถึง 83 ลิตร ทำงานเสียงเบาไม่รบกวนเวลาพักผ่อนด้วยคอมเพรสเซอร์คุณภาพสูง ดีไซน์ด้านในยังมีช่องเก็บผัก ผลไม้ และเครื่องดื่มต่าง ๆ ทำให้เก็บของด้วยอุณหภูมิที่เหมาะสม และได้รับการการันตีด้านประหยัดพลังงานจากฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 อีกด้วย
- Samsung รุ่น Multidoor RF48A4000M9/ST
ตู้แช่เย็นขนาด 17.2 คิว แช่ของได้สูงสุด 488 ลิตร มาพร้อมกับดีไซน์ Multidoor ทำให้ลักษณะภายนอกหรูหรา ทันสมัย และเลือกใช้ระบบความเย็น Twin Cooling Plus ทำให้ด้านบนและด้านล่างทำงานได้อย่างอิสระ ช่วยให้ควบคุมอุณหภูมิได้ดีขึ้น ภายในออกแบบระบบ No frost ป้องกันไม่ให้น้ำแข็งเกาะตู้ ผู้ใช้งานจึงทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น และสามารถรักษาความสดของอาหารด้วยโหมดเร่งความเย็นอีกด้วย
- TOSHIBA รุ่น GR-C149
ตู้เย็นความจุ 5.2 คิว ช่องแช่ขนาดใหญ่เคลื่อนย้ายเข้า-ออกง่าย ใส่น้ำดื่มขวดใหญ่ได้สบาย ๆ และชั้นวางพลาสติกมีความแข็งแรงทนทานสูง น้ำยาสร้างความเย็นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขอบยางประตูสามารถถอดทำความสะอาดออกได้ไม่ยาก หมดกังวลว่าจะมีคราบสกปรกติดอยู่
- Haier รุ่น HRF – SBS550
ตู้แช่เย็น 2 ประตู ชนิดไซด์บายไซด์ ระบบ Inverter ขนาด 19.2 คิว แช่ของได้จุใจ ออกแบบพื้นที่จัดเก็บอาหารเป็นสัดส่วนตามต้องการ มาพร้อมกับเทคโนโลยีกำจัดกลิ่นอย่าง DEO Fresh ซึ่งช่วยให้อาหารและผลไม้ยังคงความสดใหม่แม้เวลาผ่านไปหลายวันแล้วก็ตาม ที่สำคัญหากใครกังวลว่าจะมีแบคทีเรียตัวการทำให้อาหารเน่าเสียหลุดเข้าไปในตู้ ปัญหานี้จะหมดไปจากการออกแบบของ Haier ด้วยการใช้ประตูแบบเหล็กพิเศษ หนา 8 นิ้ว ที่ช่วยป้องกันแบคทีเรียได้ถึง 99.99%
บอกเทคนิค บำรุงรักษาตู้เย็นไม่ให้มีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์
- กระดาษหนังสือพิมพ์ หนังสือพิมพ์แม้ว่าปัจจุบันไม่ค่อยได้เห็นแล้วก็ตาม แต่ต้องยอมรับว่ากระดาษหนังสือพิมพ์มีประโยชน์หลากหลายจริง ๆ หนึ่งในนั้นคือช่วยดับกลิ่นคาวภายในตู้ทำความเย็นได้ ในกรณีที่คุณไม่มีเวลามานั่งทำความสะอาด เพียงแค่พรมน้ำใส่หนังสือพิมพ์แล้ววางรองตามชั้นต่าง ๆ กระดาษหนังสือพิมพ์จะช่วยดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกไป แต่อย่างไรก็ตามหากเลือกใช้วิธีนี้แก้ปัญหากลิ่นเหม็นอับ ควรหมั่นเปลี่ยนหนังสือพิมพ์เป็นประจำด้วย มิเช่นนั้นแล้วกระดาษจะยุ่ยจนดูดกลิ่นไม่ได้แล้ว
- เบคกิ้งโซดา ส่วนผสมสารพัดประโยชน์ที่นอกจากใช้ทำขนมได้แล้ว ยังสามารถลดกลิ่นเหม็นอับภายในตู้เย็นได้ เพียงแค่นำเบคกิ้งโซดาเทใส่ไว้ในตู้ทำความเย็น ที่สำคัญเบคกิ้งโซดาเทเพียงครั้งเดียวใช้งานลดกลิ่นได้นานถึง 1 ปีเต็ม เรียกได้ว่าคุ้มค่าจริง ๆ
จะเห็นได้ว่า ตู้เย็น นั้นมีสเปกโดยรวมและหน้าตาสินค้าคล้ายคลึงกัน แต่มีความแตกต่างตรงฟังก์ชันใช้งาน ยิ่งตู้แช่ราคาแพงมักมีฟังก์ชันพิเศษเพิ่มขึ้น เช่น มีประตูดิจิทัล ซึ่งสามารถสั่งการจากด้านนอกประตูด้วยระบบสัมผัส หรือตรงหน้าประตูมีคุณสมบัติกดน้ำดื่มได้ ดังนั้นจึงควรศึกษาคุณสมบัติและฟังก์ชั่นเสริมให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อทุกครั้ง เพื่อให้ได้ตู้เย็นที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณมากที่สุด
ที่มาข้อมูล: ddproperty , kapook
Comments 2