หลังจากแต่งงาน คู่รักหลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าถึงเวลาเตรียมพร้อมจะมีลูกแล้ว ดังนนั้คู่รักทั้งหลายควรทำการบ้านโดยให้ฝ่ายหญิงเช็กว่าวันไหนที่ตรงกับวันตก หรือที่เรียกกันว่าวันไข่ตกนั่นเอง เพราะช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ผู้หญิงจะมีโอกาสตั้งครรภ์สูง แต่จะเช็กได้อย่างไรและจากไหน วันนี้เราจะชวนทุกคนมาทำความรู้จัก ที่ตรวจไข่ตก ว่าใช้อย่างไร มีแบบไหนบ้าง เรามาไขข้อข้องใจไปด้วยกันเลยค่ะ
วันตกไข่ และ ที่ตรวจไข่ตก คืออะไร
วันตกไข่คือวันที่ไข่ใบสุกที่สุดหลุดออกมาจากรังไข่ไหลไปยังส่วนปลายของท่อนำไข่ ใช้เวลาประมาณรอบละ 28 – 35 วัน ถือเป็นกลไกธรรมชาติในระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิงที่เกิดขึ้นทุกเดือน หากมีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลานี้ แล้วไข่เข้าไปฝังตัวกับเยื่อบุผนังในมดลูก กลายเป็นตัวอ่อน เรียกว่าเกิดการปฏิสนธิมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น แต่ถ้าไข่ผสมไม่สำเร็จ ถัดจากนั้นอีก 14 วันก็จะมีประจำเดือนตามปกติ
หากถามว่ารู้ว่าถึงเวลาไข่ตกได้อย่างไร ขออธิบายง่าย ๆ ว่า ชุดทดสอบหรือที่ตรวจไข่ตก คือชุดทดสอบตรวจหาวันและเวลาที่ผู้หญิงมีการตกไข่ เพื่อนับวันว่าควรมีเพศสัมพันธ์กันช่วงไหนจึงจะช่วยให้ได้ตั้งครรภ์สมใจ วิธีการตรวจจะทำโดยนำปัสสาวะใส่ในถ้วยตวงและนำแถบของชุดตรวจไปจุ่มให้ชุ่ม จากนั้นจึงรอดูผล หากมีขีดขึ้นสองขีดบนแถบตรวจแสดงว่ากำลังอยู่ในระยะของการตกไข่ แต่ถ้าเส้นทดสอบจางหรือขึ้นแค่ขีดเดียว ถือว่ายังไม่มีการตกไข่เกิดขึ้น
สำหรับช่วงเวลาการนับวันไข่ตกจะอยู่ในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนประจำเดือนรอบใหม่จะมา ชุดทดสอบตรวจหาวันตกไข่ใช้ได้กับผู้หญิงที่มีรอบเดือนสม่ำเสมอทุก ๆ 28 วันเท่านั้น จึงคำนวณวันตกไข่ได้แม่นยำ โดยนับวันที่ประจำเดือนมาวันแรกเป็นวันที่ 1 ของรอบเดือน ส่วนวันไข่ตกอยู่ในช่วงวันที่ 14 – 17 ของแต่ละเดือน ควรมีเพศสัมพันธ์ก่อนวันตกไข่ 2 วัน หรือประมาณวันที่ 12 เนื่องจากอสุจิจะมีชีวิตอยู่ได้นานประมาณ 2 วันนั่นเอง
การทำงานของที่ตรวจไข่ตกนั้น มีสำหรับตรวจหาระดับฮอร์โมนลูทิไนซิง (Luteinizing hormone หรือ LH) ซึ่งปกติแล้วร่างกายสาว ๆ จะหลั่งฮอร์โมนชนิดนี้ออกมาปริมาณน้อย จนถึงช่วงเวลาก่อนไข่ตกจึงจะหลั่งฮอร์โมนเพิ่มมากขึ้น และเมื่อระดับฮอร์โมนถึงเกณฑ์ที่กำหนดก็แปลได้ว่ากำลังเข้าสู่ช่วงไข่ตกนั่นเอง โดยการตั้งครรภ์นั้นจะเกิดขึ้นได้ก่อนวันไข่ตกเท่านั้น ซึ่งก็จะมีช่วงพร้อมปฏิสนธิประมาณ 12 – 24 ชั่วโมง ที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้มีลูกมากขึ้นได้ หากพลาดไปแล้วต้องรอไปอีกนานนับเดือน แต่ถึงจะทราบวันตกไข่แล้ว เปอร์เซ็นต์แม่นยำอาจไม่ถึง 100% เนื่องจากการตกไข่เดือนละครั้งอาจไม่มีวันที่ตายตัวและคลาดเคลื่อนได้ตามสภาพร่างกายหรือความเครียดนั่นเอง
ประเภทของที่ตรวจไข่ตก และวิธีใช้
ชุดตรวจไข่ตกมีลักษณะคล้ายกับที่ตรวจครรภ์ วิธีการใช้งานก็คล้ายกัน ประกอบด้วยถ้วยตวงปัสสาวะและแถบตรวจ เวลาตรวจจะใช้ปัสสาวะหยดลงบนตลับทดสอบหรือใช้แบบจุ่ม ซึ่งแต่ละแบบหาซื้อได้สะดวกตามร้านขายยาทั่วไปได้ มีแบบไหนและใช้อย่างไรมาดูกัน
- ชุดตรวจแบบตลับหยด เวลาตรวจให้นำหลอดหยดดูดปัสสาวะหยดลงไปในตลับทดสอบ 3 – 4 หยด จุ่มไว้ 5 วินาที แล้วนำขึ้นมารอประมาณ 5 นาที จึงอ่านผล
- ชุดตรวจแบบจุ่ม เวลาตรวจใช้แท่งตรวจจุ่มด้านที่มีหัวลูกศรลงไปในถ้วยปัสสาวะให้ชุ่ม อย่าให้ปัสสาวะท่วมเกินแถบที่กำหนด ใช้เวลารอ 5 นาที แล้วอ่านผล
- ชุดตรวจแบบปัสสาวะผ่าน แท่งตรวจจะมีฝาครอบส่วนปลายมาด้วย ถอดฝาออกแล้วปัสสาวะให้โดนส่วนปลายประมาณ 7-10 วินาที รออ่านผลใช้เวลา 5 นาที
- ชุดตรวจแบบดิจิทัล ใช้งานคล้ายชุดตรวจแบบปัสสาวะผ่าน แต่จะแสดงผลเป็นดิจิทัล คือ Low ยังไม่มีการตกไข่ ส่วน High คือมีโอกาสตกไข่สูง และ Peak หมายถึงมีโอกาสตกไข่สูงสุด
ขั้นตอนการใช้งานที่ตรวจไข่ตก
- เก็บน้ำปัสสาวะลงในถ้วยตวง และใช้หลอดหยดดูดน้ำปัสสาวะปริมาณพอเหมาะ
- หยดน้ำปัสสาวะลงบนตลับทดสอบ โดยหยดประมาณ 3 – 4 หยดเท่านั้น
- วางตลับทดสอบบนพื้นราบ ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที จึงอ่านผลการทดสอบ
- หากที่ตรวจขึ้นสีเข้มสองขีด หรือเรียกว่าผลบวก แปลว่ามีโอกาสสูงมากที่ไข่กำลังจะตก
- ควรตรวจสอบหลังตื่นนอนในตอนเช้า ถ้าผลอ่านไม่ชัดเจน ให้ทำซ้ำอีกครั้งหลังจาก 48 ชั่วโมง โดยทั่วไปแล้วที่ตรวจจะให้ผลลัพธ์แม่นยำประมาณ 97 – 99%
ข้อควรรู้สำหรับว่าที่คุณแม่ก่อนใช้ ที่ตรวจไข่ตก
ก่อนที่จะเริ่มใช้งานที่ตรวจไข่ตกนั้น เรามีข้อควรรู้มาฝาก ดังนี้
- ปัจจุบันการตรวจหาวันตกไข่ทำได้ง่าย โดยการใช้ชุดทดสอบการตกไข่ที่ให้ผลค่อนข้างแม่นยำ ไม่ต้องนับวันเหมือนสมัยก่อน
- เมื่อตรวจพบช่วงเวลาวันตกไข่ของแต่ละเดือนแล้ว ให้ทดสอบปัสสาวะในช่วง 2 วันก่อนที่จะตกไข่จริงในเวลาใดก็ได้ ควรงดดื่มน้ำก่อนตรวจ 2 ชั่วโมง จึงตรวจจับฮอร์โมนได้แม่นยำ ไม่ทำให้ปัสสาวะเจือจางไปเสียก่อน
- ไม่ว่าจะเลือกที่ตรวจแบบใช้แล้วทิ้งหรือแบบดิจิทัล ผลลัพธ์ที่ได้มีความแม่นยำใกล้เคียงกัน เพื่อผลลัพธ์ที่แม่นยำจำเป็นต้องเลือกที่ตรวจที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน ไม่หมดอายุการใช้งาน จึงจะได้ผลตรวจที่ไม่คลาดเคลื่อน หากตรวจวันตกไข่แม่นยำจะช่วยให้เลือกวันที่มีเพศสัมพันธ์กันได้เหมาะสม ทำให้มีโอกาสตั้งครรภ์ง่ายขึ้น
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับข้อมูลที่เรานำมาฝากในวันนี้ ว่าที่คุณพ่อคุณแม่คนไหนที่กำลังสนใจอยากมีลูกตัวน้อย ๆ ต้องรีบไปหาซื้อกันมาตรวจแล้ว แต่สิ่งสำคัญเลยคือการเลือกซื้ออุปกรณ์ตรวจสอบการตั้งครรภ์ที่มีคุณภาพ และได้มาตรฐาน เพื่อไม่ทำให้การตรวจคราวนั้น ๆ คลาดเคลื่อนนะคะ
ที่มาข้อมูล: phyathai , enfababy , babyandmom , chiiwiidoctor