สำหรับนักศึกษาและวัยทำงาน การเป็นเจ้าของ iPad สักเครื่องย่อมช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นไม่น้อย เพราะไอแพดสามารถประยุกต์ใช้งานได้หลากหลาย เช่น เชื่อมต่อกับคีย์บอร์ดจะกลายเป็นโน้ตบุ๊กขนาดกะทัดรัดที่พกพาได้สะดวก แถมยังมีปากกาไอแพดที่ช่วยให้ขีดเขียน วาดรูป และจดบันทึกการประชุมได้ง่าย ๆ เรียกได้ว่าซื้อiPadเพียงเครื่องเดียวสามารถตอบโจทย์ทุกการทำงาน ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ iPad Mini ให้มากขึ้น พร้อมเปรียบเทียบสเปกรุ่นก่อนหน้า รับรองกว่าตอบโจทย์ไม่แพ้ไอแพดรุ่นอื่น ๆ เลย
เปรียบเทียบความแตกต่าง iPad Mini แต่ละรุ่น
- ไอแพดมินิ 3 เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 ขนาดหน้าจอ 7.9 นิ้ว ความละเอียด 1536 x 2048 พิกเซล กล้องหลัก 5 MP, กล้องหน้า 1.2 MP, RAM 1 GB, ROM 16 GB ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 8 และชิปเซ็ตรูปแบบ Apple A 7 Dual Core ซึ่งเป็นชิปรุ่นเดียวกับ iPhone 5S และไอแพดมินิ 2 ด้านความเร็วจึงอาจไม่ถูกใจสายเกมมิ่งมากนัก เพราะเกมมือถือในปัจจุบันต้องการชิปเซ็ตที่สเปกแรงกว่านี้
- ไอแพดมินิ 4 ไอแพดมินิ 4 ได้รับการอัปเกรดมาจากไอแพดมินิ 3 มาพอสมควร โดยเฉพาะหน้าจอขนาด 7.9 นิ้วที่มีความละเอียด 2048 x 1536 พิกเซล กล้องหลัก 8 MP, กล้องหน้า 1.2 MP, หน่วยความจำประกอบไปด้วย RAM 2 GB และ ROM 16 GB ส่วนระบบปฏิบัติการเป็นรูปแบบ IOS 9 ชิปเซ็ต คือ Apple A8 Dual Core ซึ่งประมวลผลได้เร็วกว่า Apple A7 ราว 25%, ภาพกราฟิกทำงานดีขึ้นประมาณ 45 – 50% และเมื่อพิจารณาสเปกของกล้องถ่ายรูป จะพบว่าไอแพดมินิ 4 ถ่ายรูปดีกว่าไอแพดมินิ 3 แถมความจุของตัวเครื่องยังมากกว่าอีกด้วย
- ไอแพดมินิ 5 สำหรับการพัฒนาระหว่างไอแพดมินิ 3 กับไอแพดมินิ 4 ถือว่ายังอยู่ในระดับเพียงเล็กน้อย แต่เมื่อมาพิจารณาถึงการอัปเกรดจากไอแพดมินิ 4 ไปไอแพดมินิ 5 เรียกได้ว่าคนละเรื่องเลยทีเดียว เพราะแค่ชิปเซ็ตก็จัดให้ถึงระดับ A12 Bionic ที่เทียบเท่ากับชิปของ iPhone Xs ส่วนขนาดเครื่องอยู่ที่ 7.9 นิ้ว เท่ากับ 2 รุ่นก่อนหน้า ความละเอียดของหน้าจออยู่ที่ 2048 x 1536 พิกเซล กล้องหลัก 8 MP, กล้องหน้า 7 MP, ROM 64 GB และ RAM 3 GB ใช้ระบบปฏิบัติการ IOS 13 จึงสรุปได้ว่าไอแพดมินิ 5 ยังรองรับการทำงานของแอปพลิเคชันในปัจจุบันได้อย่างดีเยี่ยม
แนะนำ iPad Mini 6 ใหม่ล่าสุด มีรุ่นไหนบ้าง?
หากสนใจ iPad Mini รุ่นล่าสุด มีข้อมูลเกี่ยวกับรุ่นดังกล่าวดังนี้
iPad Mini Wi-Fi 6 เปิดตัวครั้งแรกในวันที่ 14 กันยายน 2021 ประกอบด้วย 4 รุ่น ได้แก่
- ไอแพดมินิ 6 รุ่น Wi-Fi 64 GB
- ไอแพดมินิ 6 รุ่น Wi-Fi 256 GB
- ไอแพดมินิ 6 รุ่น Wi-Fi+Cellular 64 GB
- ไอแพดมินิ 6 รุ่น Wi-Fi + Cellular 256 GB
ไอแพดมินิ 6 มีขนาดเท่ากับ 8.3 นิ้ว หน้าจอ LED ความละเอียด 2266×1488 พิกเซล RAM 8 GB ใช้ชิปเซ็ต A15 Bionic
กล้องหลักขนาด 12 MP ความกว้างของรูรับแสงอยู่ที่ f/1.8 กล้องหน้า 12 MP รูรับแสง f/2.4 และระบบประมวลผลกลาง (CPU) เป็นแบบ 6 Core, GPU 5 core, Neutral Engine 16 core
โดยรวมสเปกของไอแพดมินิ 6 ระหว่างรุ่น Wi-Fi กับ Wi-Fi+Cellular ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ตามนี้
- Cellular น้ำหนักจะมากกว่าและไม่มีข้อจำกัดด้านการใช้งานสัญญาณอินเทอร์เน็ต
- Wi-Fi ต้องใช้งานควบคู่กับ Wi-Fi ภายนอกเท่านั้น ถ้าสถานที่เราอยู่ไม่มีสัญญาณ Wi-Fi ก็ไม่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้เลย
จุดเด่น ไอแพดมินิ 6 ทำไมจึงน่าซื้อ!
ในด้านของการอัปเกรดใหญ่ ปฏิเสธไม่ได้ว่า iPad Mini 6 เพิ่มประสิทธิภาพมาจากไอแพดมินิ 5 พอสมควร ทั้งกล้องหน้า – กล้องหลัง แถมชิปเซ็ต A15 Bionic ที่มีประสิทธิภาพน้อง ๆ PC 1 เครื่องเลย ทำให้เล่นเกมรุ่นใหม่ได้อย่างลื่นไหล หมดปัญหาเกมค้าง นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งาน Apple Pencil รุ่นที่ 2 ซึ่งแตกต่างจากไอแพดมินิรุ่นก่อนที่ใช้งานได้เพียง Apple Pencil รุ่นที่ 1
- Apple Pencil Generation 2 หากถามว่า Apple Pencil รุ่นที่ 2 ทำให้ไอแพดมินิ 6 พิเศษขึ้นอย่างไร? ต้องบอกเลยว่าช่วยให้ผู้ใช้งานได้ภาพละเอียดมากกว่าเดิม จากคุณสมบัติแยกแยะแรงกดแม่นยำของ Apple Pencil นอกจากนี้ระบบการชาร์จแบตเตอรี่แบบใหม่ของ Apple Pencil รุ่นที่ 2 เพียงแค่นำไปติดกับแถบด้านข้างของไอแพดมินิไฟก็เข้าแล้ว ไม่ต้องเสียบสายชาร์จให้เสียเวลา และด้วยขนาดเล็กกะทัดรัดของไอแพดมินิ 6 ที่ขนาดพอดีมือ จึงช่วยให้ผู้ใช้งานพกพาได้อย่างสะดวกระหว่างการชาร์จไฟ
- แบตอึดใช้งานได้นาน เคยมีการทดสอบแบตเตอรี่ขนาด 5078 mAh ของไอแพดมินิ 6 แล้วพบว่า สามารถใช้งานได้นานถึง 10 ชั่วโมง 43 นาที สำหรับการเล่นอินเทอร์เน็ตทั่วไป ในขณะที่การรับชมวิดีโอจะใช้งานได้สูงสุด 10 ชั่วโมง
- ช่องชาร์จ USB-C อย่างที่เหล่าสาวกทราบดีว่าช่องชาร์จของค่ายแอปเปิ้ล แต่เดิมเป็นแบบ Lighting แต่ไอแพดมินิ 6 ได้มีการอัปเกรดเป็นพอร์ต USB-C เวอร์ชั่น 3.1 ต้องบอกเลยว่าดีกว่าพอร์ต Lighting อย่างมาก เพราะสามารถถ่ายโอนข้อมูลด้วยความเร็วสูงสุด 5 GB ภายใน 1 วินาที และยังรองรับการใช้งานคู่กับ Devices อื่น ๆ ที่ใช้หัวชาร์จประเภท USB-C อีกด้วย
- WIFI 6 เทคโนโลยี WIFI 6 เป็นระบบเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สายที่เร็วกว่า WIFI 5 เป็นอย่างมาก ซึ่งไอแพดมินิ 6 ได้รองรับ WIFI 6 ด้วยเช่นกัน ทำให้การรับส่งข้อมูลของไอแพดรุ่นใหม่ล่าสุดทำได้ดีกว่ารุ่นอื่นพอสมควรและลดการรบกวนจากสัญญาณภายนอกได้ดี ที่สำคัญ WIFI 6 ยังช่วยให้ไอแพดประหยัดพลังงานมากขึ้นระหว่างเชื่อมต่อ WIFI อีกด้วย
อย่างไรก็ตามเมื่อเป็นเจ้าของไอแพดแล้ว สิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลยคือการบำรุงดูแลรักษา เพราะถึงแม้ไอแพดออกแบบให้ใช้ได้เป็นเวลานาน แต่ถ้าใช้งานในพื้นที่อุณหภูมิสูงกว่า 45 องศาเซลเซียส เช่น ในรถยนต์ที่จอดรถกลางแดด หรือพื้นที่โล่งแจ้ง ก็อาจทำให้ระยะเวลาใช้งานได้ต่อครั้งของแบตเตอรี่สั้นลงได้ และไม่ควรชาร์จไปเล่นไป เนื่องจากมีโอกาสทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเช่นกัน
ที่มาข้อมูล: pcmag, iphonemod , apple