ในยุคที่ผู้คนให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายกันมากขึ้น เทรนด์ในการดูแลสุขภาพนั้นกำลังมาแรง โดยการออกกำลังกายนั้นสามารถทำได้หลายแบบ ทั้งการวิ่ง เต้นแอโรบิก โยคะ รวมถึงการเล่นฟิตเนสด้วย ซึ่งช่วยทั้งเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายและใช้สำหรับควบคุมน้ำหนักได้อีกด้วย หลายคนนิยมฟังเพลงและสื่อต่าง ๆ ไปด้วยระหว่างออกกำลังกาย ทำให้เพลิดเพลินและสนุกกับการออกกำลังกายมากยิ่งขึ้น เราจึงจะมาแนะนำ หูฟังออกกำลังกาย ว่ามีรุ่นใดน่าใช้บ้าง
การออกกำลังกายให้สนุกนั้น หากได้ฟังเพลงไปในระหว่างออกกำลังกายด้วย ก็จะทำให้ไม่เกิดความเบื่อหน่าย สมัยก่อนอาจจะใช้การเปิดวิทยุ เครื่องเล่นซีดีในระหว่างการออกกำลังกายแต่ในปัจจุบันที่เทคโนโลยีมีความเจริญก้าวหน้า ทำให้การฟังเพลงผ่านสมาร์ทโฟนหรือแอปพลิเคชันทำได้อย่างสะดวกมากขึ้น หลายคนจึงหา หูฟังสปอร์ต ที่ให้คุณภาพเสียงที่ดีมาใช้งาน
แนะนำ หูฟังออกกำลังกาย คุณภาพดีน่าใช้
1. Bang & Olufsen (B&O) Beoplay EX
แบรนด์หูฟังซึ่งคุณภาพนั้นเป็นที่ยอมรับกันในวงกว้าง หูฟัง B&O นั้นได้รับการยอมรับในเรื่องของความพรีเมียม ถูกใจนักฟังเพลงทั่วโลกเพราะเสียงที่มีความละมุน โดยรุ่นนี้มีจุดเด่นในเรื่องของน้ำหนักที่เบา สวมใส่สบาย และเป็นหูฟังที่เล็กที่สุดที่ B&O เคยผลิตมา เหมาะสำหรับการฟังเพลงทุกแนว รวมถึงการฟัง podcast ก็ให้เสียงที่คมชัด ไม่มีการดีเลย์ของสัญญาณ เชื่อมต่อด้วยระบบบลูทูธได้ง่ายรวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ได้สูงสุด 2 เครื่อง จึงไม่มีปัญหาหากใช้เครื่องหนึ่งเพื่อรับสายเรียกเข้า-โทรออก ส่วนอีกเครื่องหนึ่งก็เปิดเพลงฟังได้สบาย ๆ นับได้ว่าเป็น หูฟังออกกำลังกาย รุ่นที่น่าใช้รุ่นหนึ่ง
2. Sony WI-C100
หูฟังไร้สายแบบอินเอียร์ ที่ให้คุณภาพเสียงเป็นเยี่ยม โดยมีเทคโนโลยี DSEE™ ที่จะทำให้คุณภาพเสียงดีเทียบเท่าต้นฉบับ เชื่อมต่อแบบไร้สายด้วยระบบบลูทูธ ทำให้ใช้งานได้อย่างสะดวกทุกการทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหว
Sony WI-C100 ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย โดยมีปุ่มควบคุมการทำงาน ทั้งปุ่มเล่นเพลง ปุ่มหยุด ปุ่มข้ามเพลง รวมทั้งการรับสายโทรศัพท์ที่รวดเร็ว กดสะดวก แบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่อง 25 ชั่วโมง ใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องอย่างไร้กังวล รองรับระบบชาร์จไว ที่การชาร์จเพียง 10 นาทีก็สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีปุ่มที่เชื่อมต่อการสั่งงานด้วยเสียงผ่านสมาร์ทโฟนได้ ช่วยให้ทุกการออกกำลังกายเต็มไปด้วยความสนุกไร้การขัดจังหวะ
3. Shokz OpenFit หูฟัง true wireless by munkong
หูฟังสปอร์ตไร้สาย จาก Shokz ที่มีขนาดเล็กลงจากรุ่นก่อนถึง 20% แต่คุณภาพไม่เล็กตามไปเลย ด้วยระบบแบบ Bone Conduction ที่ช่วยให้ฟังเพลงและได้ยินเสียงรอบด้านไปพร้อม ๆ กัน มีน้ำหนักเบาสวมใส่ได้กระชับเนื่องจากออกแบบมาเพื่อการออกกำลังกายโดยเฉพาะ โดดเด่นด้วยเสียงเบสที่หนักแน่นถูกใจคนรักการฟังเพลง
การออกแบบตัวหูฟังนั้น ออกแบบด้วยสีดำด้านให้ภาพลักษณ์ของความดุดัน แข็งแรง การทำงานนั้นเชื่อมต่อแบบไร้สายด้วยระบบบลูทูธ 5.0 ที่รองรับการใช้งานยาวนานถึง 10 ชั่วโมงด้วยกัน ส่วนตัวไมโครโฟนมีระบบตัดเสียงรบกวนในตัว เพียงกดปุ่มรับสายก็สามารถพูดคุยโทรศัพท์ได้เลยทันที
ทั้งยังกันน้ำกระเด็นและกันเหงื่อเป็นอย่างดีในระดับ IP55 ถือเป็นอีกหนึ่งหูฟังที่ตอบโจทย์ความต้องการส่วนใหญ่ของคนรักการออกกำลังกาย
4. Jabra Elite 7 Active
หูฟังแบบ True Wireless ระดับพรีเมียม เทคโนโลยี ShakeGrip ที่ช่วยให้การสวมใส่มีความกระชับมากขึ้น ทำให้สามารถออกกำลังกายที่ต้องเคลื่อนไหวได้เป็นอย่างดี รุ่นนี้ใช้การเชื่อมต่อการทำงานผ่านบลูทูธ 5.2 ระบบเสียงที่ให้มาถือว่ามีความคมชัด ฟังเพลงเพราะ และยังสามารถปรับ EQ ได้ผ่าน App Jabra Sound+ เพื่อให้ได้โทนเสียงที่ต้องการเฉพาะคุณ
แบตเตอรี่ของหูฟังใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 8 ชั่วโมง และตัวเคสนั้นก็ใช้งานเป็นที่ชาร์จแบตได้ถึง 30 ชั่วโมง โดยตัวเคสรองรับการชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi มีระบบชาร์จเร็ว 5 นาทีใช้งานได้ 1 ชั่วโมง จุดเด่นของรุ่นนี้อีกอย่างหนึ่งก็คือมีไมโครโฟนถึง 4 ตัว ทำให้สนทนาได้อย่างคมชัดทุกทิศทาง ถือเป็นหูฟังที่ใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์
5. หูฟังไร้สาย Edifier W820NB PLUS
หูฟังรุ่นอัปเกรดจาก Edifier ที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับการฟังเพลงความละเอียดสูงด้วยโหมด Active Noise Cancelling หรือการตัดเสียงรบกวนภายนอกออกไป หรือจะใช้โหมด Ambient Sound เพื่อดูดเสียงรอบข้างก็ได้ตามที่ต้องการ
มาพร้อมกับการปรับ EQ เสียงให้โดนใจ เพียงแค่เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่น Edifier Connect ง่าย ๆ ตัวหูฟังรองรับการเล่นเกมด้วย Game Mode ช่วยให้ได้ยินเสียงต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น เรียกได้ว่าจะหยิบมาฟังเพลงระหว่างออกกำลังกายก็ดี จากนั้นใช้ใส่ทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างการเล่นเกมก็ได้ ตอบโจทย์ทุกสายแน่นอน!
6. Jabra True Wireless Elite 3
อีกหนึ่งหูฟังสำหรับออกกำลังกายจาก Jabra ที่เป็นรุ่นยอดนิยมไม่แพ้กัน ด้วยระบบหูฟังบลูทูธแบบไร้การดีเลย์ แถมยังเชื่อมต่อสะดวก ง่าย เสียงไมค์ชัดเจน มาพร้อมระบบแยกเสียงซ้าย-ขวา ทำให้การฟังเพลงสนุกมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังสามารถตัดเสียงรบกวนภายนอกได้อย่างดีเยี่ยมด้วย Noise-isolation fit มีน้ำหนักเบาและกระชับ รองรับการใช้งานยาวนานถึง 28 ชั่วโมง
เลือก หูฟังสปอร์ต ไร้สายอย่างไรดี
1. เลือกประเภทของหูฟัง
หูฟังนั้นมีทั้งแบบครอบหูและแบบอินเอียร์ ในการเลือกซื้อนั้นก็ต้องเลือกตามความชอบ บางคนนั้นชอบหูฟังแบบครอบหูมากกว่า เพราะจะให้คุณภาพเสียงที่ดี สวมใส่สบาย แต่บางคนที่ชอบทำกิจกรรมที่เคลื่อนไหวตลอดเวลา ก็เลือกหูฟังแบบอินเอียร์ ที่จะช่วยให้เกิดความคล่องตัวมากกว่า
2. แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน
หูฟังไร้สายนั้นมีข้อดีคือความสะดวกคล่องตัวในการใช้งาน แต่ก็จะมีปัญหาในเรื่องที่ต้องพึ่งพาแบตเตอรี่ในการทำงาน การเลือกหูฟังที่มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานต่อเนื่องได้นาน จะช่วยให้การทำกิจกรรมไม่สะดุด ไม่ต้องชาร์จบ่อย ๆ หมดปัญหาเรื่องแบตหมดตอนใช้งานได้
การออกกำลังกายจะสนุกขึ้นหากเรามีเพลงฟังไปด้วย จะทำให้เกิดความผ่อนคลายและทำกิจกรรมได้อย่างไม่รู้สึกเบื่อ การเลือกซื้อ หูฟังออกกำลังกาย มาใช้งาน ก็จะตอบโจทย์ดังกล่าวได้เป็นอย่างดี
Comments 1