ในปัจจุบันที่เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle: EV) กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว จนหลายคนเริ่มสนใจและมีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนจากรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงไปเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานสะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น แต่พบว่าหนึ่งในอุปสรรคก็คือความสะดวกในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ดังนั้นการจะมี EV Charger ติดที่บ้านจึงกลายเป็นหัวใจสำคัญและเป็นเรื่องที่คุณไม่รู้ไม่ได้เลยหากในอนาคตจะใช้รถยนต์ไฟฟ้า
EV Charger แบบชาร์จที่บ้านสามารถชาร์จได้กี่แบบ
ด้วยรูปแบบของการชาร์จไฟในรถ EV ซึ่งมีหลักการคล้ายกับการชาร์จไฟเข้าไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วไป นั่นทำให้เราสามารถเลือกรูปแบบการชาร์จได้ตามความเหมาะสม สำหรับรถ EV ก็จะมีรูปแบบการชาร์จหลัก ๆ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ คือ
- ชาร์จแบบธรรมดา (normal charge) เป็นการใช้เครื่องชาร์จทั่วไปของรถหรือสามารถใช้เครื่องชาร์จพิเศษที่ติดตั้งเพิ่มในบ้าน เป็นระบบใช้ไฟบ้านที่เป็นกระแสสลับ (AC) เพื่อชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งต้องติดตั้งเต้ารับ (EVSE) ที่สามารถรองรับการชาร์จไฟฟ้ารถยนต์ไฟฟ้าได้
- ชาร์จแบบเร็ว (double speed charge) รูปแบบนี้จะเร็วกว่าแบบแรก แต่ยังไม่เร็วถึงขั้น Quick Charge เป็นการใช้เครื่องชาร์จ EV ที่สามารถรองรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ารวดเร็วได้ เป็นตู้ชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ (AC charging) ที่มีความสามารถในการชาร์จแบบ Double Speed Charge ซึ่งสามารถชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในระยะเวลาที่สั้นกว่าชาร์จแบบธรรมดา
- ชาร์จแบบด่วน (quick charge) ใช้เครื่องชาร์จ Quick Charger ที่สามารถให้กระแสไฟฟ้าตรง (DC Charging) เข้าสู่แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าได้โดยตรง สามารถชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้ในเวลาที่สั้น และสามารถชาร์จจาก 0-80% ได้ภายในเวลาเพียง 40-60 นาที
จะติดตั้ง EV Charger ที่บ้านต้องเตรียมอะไรบ้าง
สำหรับใครที่ตอนนี้ตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือกติดตั้งเครื่องชาร์จที่บ้านของตัวเอง ลองมาดูสิ่งที่คุณต้องเตรียมและสิ่งที่ต้องรู้ก่อนติดตั้งเครื่องชาร์จไฟรถยนต์ EV ตรงนี้ก่อน
- ค่าเครื่อง Charger
ซึ่งราคาก็จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความสามารถในการรับไฟของรถยนต์ (On Board Charger) และขนาดกำลังไฟที่ต้องการชาร์จ โดยทั่วไปแล้วราคาของ Charger สามารถแบ่งออกเป็นหลายระดับตามขนาดความสามารถดังนี้
- Charger ระดับกำลังน้อย (3.7 kW) ราคาอยู่ในช่วงประมาณ 15,000 – 30,000 บาท ซึ่งเหมาะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความสามารถในการรับไฟต่ำ และใช้กำลังไฟต่ำเท่านั้น
- Charger ระดับกลาง (7.4 kW – 11 kW) ราคาอยู่ในช่วงประมาณ 30,000 – 60,000 บาท ซึ่งเหมาะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความสามารถในการรับไฟปานกลาง และต้องการชาร์จด้วยกำลังไฟที่สูงขึ้น
- Charger ระดับสูง (22 kW) ราคาอยู่ในช่วงประมาณ 60,000 – 100,000 บาท ซึ่งเหมาะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความสามารถในการรับไฟสูง และต้องการชาร์จด้วยกำลังไฟสูงสุด
- การขอเพิ่มขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าของบ้าน
ก่อนที่จะติดตั้ง Charger ที่บ้าน หลายคนอาจได้ยินมาว่าจะต้องไปทำเรื่องขอเปลี่ยนไฟบ้านเป็นมิเตอร์แบบ 3 เฟส แต่จริง ๆ แล้วอาจไม่จำเป็น เพราะเครื่องชาร์จในบ้านเราก็มีหลายรุ่นที่สามารถติดตั้งกับไฟบ้านเฟสเดียวได้
ซึ่งการเลือกใช้รุ่นของ Charger ที่สามารถติดตั้งกับไฟเฟสเดียวหรือ 3 เฟสขึ้นจะอยู่กับความต้องการ โดยให้ตรวจสอบข้อมูลรุ่นและคุณสมบัติของเครื่องชาร์จและรุ่นของรถด้วย
- เมื่อต้องการเลือกจุดติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV ในบ้าน
คุณควรพิจารณาประเด็นต่าง ๆ ที่สำคัญ ดังนี้
- เรื่องระยะทางการติดตั้ง ซึ่งไม่ควรห่างจากเต้ารับการชาร์จที่ตัวถังรถยนต์เกิน 5 เมตร เนื่องจากสายเครื่องชาร์จ EV โดยทั่วไปมีความยาวประมาณ 5-7 เมตร และระยะสายยิ่งสั้นก็จะยิ่งช่วยให้สะดวกและลดการสูญเสียของกระแสไฟฟ้าในสายชาร์จได้ด้วย
- ต่อมาก็จะเป็นการวางจุดชาร์จไว้ใกล้ตู้ MDB หรือวงจรหลักของบ้าน เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินสายไฟ การที่จุดชาร์จอยู่ใกล้ตู้ MDB จะช่วยลดการสูญเสียไฟฟ้าในระหว่างการส่งผ่านสายไฟที่ยาวได้อีกทางหนึ่ง
- สุดท้ายก็คือจุดชาร์จจะต้องมีหลังคาปกคลุม ควรวางจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV ใต้หลังคาหรือในที่ที่มีหลังคาปกคลุม เพื่อป้องกันละอองฝนที่อาจเข้าสู่เครื่องชาร์จ เพราะถึงแม้เครื่องชาร์จที่เลือกใช้สามารถกันน้ำได้ก็ตาม แต่ถ้าติดตั้งไว้ในจุดที่ป้องกันน้ำฝนและละอองน้ำฝนได้ ก็จะดีที่สุด
สรุปแล้วการติด Electric Vehicle Charger ที่บ้านดีอย่างไร
- ความสะดวกสบาย การติดตั้งElectric Vehicle Chargerที่บ้านช่วยให้คุณสามารถชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะกลางคืนหรือในช่วงที่ไม่ได้ใช้รถ ไม่ต้องพึ่งพา Charger สาธารณะที่คิวยาวสุด ๆ ช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้นมาก
- ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย การมี Charger เป็นของตัวเองจะช่วยคุณประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย ทั้งในการเดินทางไปหาสถานที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าภายนอก รวมไปถึงการชาร์จที่บ้านซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายซึ่งเป็นต้นทุนพลังงานได้ เนื่องจากสถานที่ชาร์จข้างนอกบางแห่งอาจเรียกค่าบริการการชาร์จไฟ ถ้ามีที่ชาร์จแบตเตอรี่ได้เองที่บ้าน ก็ไม่ต้องถูกคิดค่าบริการและส่วนต่างเพิ่ม
- ตัวเลือกการประหยัดที่มากกว่า การติดตั้ง Charger ที่บ้านเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างระบบพลังงานที่มีความยั่งยืน ยิ่งหากคุณติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาบ้านไว้ก็จะสามารถใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้ด้วย นั่นยิ่งทำให้คุณสามารถลดการใช้งานพลังงานจากแหล่งพลังงานที่ใช้เชื้อเพลิงให้น้อยลง สิ่งแวดล้อมดีขึ้น ค่าไฟก็ประหยัดไปได้อย่างมาก
หากคุณเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า การติดตั้ง EV Charger ที่บ้านเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจและกำลังจะเป็นกระแสความนิยมแห่งโลกอนาคต เพราะไม่เพียงแต่เรื่องของความสะดวกสบายเท่านั้น แต่ยังช่วยส่งเสริมสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นอีกด้วย
ที่มาข้อมูล: supalai , ddproperty