หูฟังเกมมิ่ง 2023 ที่ชาวเกมเมอร์ต้องมี

เชื่อได้เลยว่าใครที่เป็นเกมเมอร์หรือนักเล่นเกมตัวยงจะต้องมีหูฟังไว้สำหรับเล่นเกม เพื่ออรรถรสในการเล่น และเพื่อเก็บทุกรายละเอียดของเสียงเกม แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าหูฟังที่ใช้งานอยู่นั้นมีคุณภาพ ครบทุกการใช้งานทั้ง ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด คุ้มค่าเงินที่จ่ายไป วันนี้เราจึงจะพาไปดูวิธีการเลือกซื้อ หูฟังเกมมิ่ง 2023 ที่สายเกมเมอร์ไม่ควรพลาด ถ้าพร้อมแล้วตามมากันเลย

แนะนำวิธีเลือกซื้อ หูฟังเกมมิ่ง

• วัสดุและการออกแบบ

หูฟังเกมมิ่ง 2023 ส่วนใหญ่จะเป็นแบบครอบหู (Earcup) เพื่อลดเสียงรบกวนจากภายนอกและเพื่อให้ได้ยินเสียงที่ชัดเจน หลักในการเลือกหูฟังประเภทครอบ มีดังนี้ 

1. ควรพิจารณาถึงขนาดของถ้วยที่จะครอบหู มีขนาดเล็กหรือใหญ่เกินไปหรือไม่ เพราะถ้าหากเล็กไปจะทำให้เกิดการกดทับใบหูจนเจ็บและมีเสียงรบกวนจากภายนอกเข้ามา ส่วนที่ครอบหูที่มีขนาดใหญ่เกินไป จะทำให้หลวมและหลุดระหว่างใช้งาน ควรเลือกที่ครอบหูให้มีขนาดพอดี 
2. ส่วนวัสดุที่ใช้ควรเป็นเมมโมรีโฟม เพราะมีความนุ่มและคืนตัวได้ดี ในขณะที่วัสดุห่อหุ้มอาจเป็น PU เพราะมีความนุ่มนวล สามารถใช้งานได้นาน ๆ หรืออาจเลือกเป็นกำมะหยี่ก็ได้ตามใจชอบ
3. โครงสร้างหรือตัวบอดี้ของหูฟัง ควรเป็นวัสดุที่เบาแต่แข็งแรง รองรับการบิดงอได้ เพื่อให้กระชับกับศีรษะที่สวมใส่ บางรุ่นอาจมีที่ปรับเลื่อนให้กระชับ ซึ่งผู้ซื้อควรลองใส่เพื่อที่จะได้รู้ว่ารู้สึกอย่างไร
4. ฟังก์ชันและการใช้งาน จุดเด่นของ หูฟังเกมมิ่งที่ควรมีคือปุ่มปรับระดับเสียง, ปุ่มเปิด-ปิดไมค์ บางรุ่นอาจมีไฟ RGB เพิ่มเพื่อความสวยงาม หรือบางรุ่นที่ค่อนข้างมีราคาสูงขึ้น อาจมีแอปพลิเคชันให้สามารถปรับระดับเสียง, Equalizer, แสงไฟกระพริบ RGB ปรับบนแป้นคีย์บอร์ดได้

• ไมโครโฟน

หูฟังแบบครอบส่วนใหญ่จะมีไมโครโฟนติดมาให้ด้วย ด้วยคุณภาพอาจเพียงแค่พอรับได้หรือรองรับการใช้งานทั่วไป บางรุ่นอาจถอดและพับเก็บไมค์เพื่อความสะดวกในการใช้งาน หากมิใช่สายสตรีมเกมที่ต้องใช้ไมค์คุณภาพดี ก็ถือว่าใช้งานได้ดีในระดับหนึ่งแล้ว

• ระบบเสียง

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องเสียงสำหรับหูฟังแล้วสำคัญมาก ดังนั้น หูฟังที่จะซื้อควรดูในเรื่องระบบเสียงที่รองรับเสียง Surround ระบบเสียง DTS-X Headphone, ระบบเสียง 7.1 surround เป็นต้น ซึ่งหูฟังราคาประหยัดมักจะไม่รองรับระบบเสียงเหล่านี้ โดยระบบเสียงต่าง ๆ แบ่งได้ออกเป็น

1. Stereo System เป็นระบบหูฟังแบบ 2.0 ซึ่งเป็นหูฟังระบบมาตรฐานที่มีจำหน่ายทั่ว ๆ ราคาค่อนข้างถูก ใช้งานทั่วไปได้ ไม่หนักมาก 
2. Surround System ระบบเสียงที่มีแหล่งกำเนิดของเสียงหลายแห่ง ที่มักจะพบได้ทั่วไปตามโรงภาพยนตร์หรือเครื่องเสียงบ้านที่มี Subwoofer เช่น ระบบเสียง 5.1และ 7.1 เป็นต้น ซึ่งระบบเสียงดังกล่าวสามารถที่จะแยกแหล่งที่มาของเสียงได้เป็นอย่างดี เหมือนผู้เล่นเข้าไปอยู่ในสถานการณ์นั้น ๆ 
3. ระบบ True Surround และ Virtual Surround ระบบเสียงเสมือนจริง ที่ได้รับการพัฒนามาจากระบบ Stereo 2.0 และ 2.1 เพื่อรองรับการฟังเสียงให้มีมิติมากขึ้น โดยอาจใช้ในรูปแบบ Software Driver 

• ไร้สายกับไม่ไร้สาย

หูฟังแบบไร้สายควรมีแบตเตอรี่ที่อึด ทนใช้ได้นาน ชาร์จไฟได้เร็ว สะดวกในการใช้งาน แต่ราคาค่อนข้างสูง ในขณะที่หูฟังแบบมีสายจะราคาถูกกว่า แต่จะค่อนข้างเกะกะสาย โดยเฉพาะเมื่อต้องหมุนตัว ลุกนั่ง เดินไปทำธุระอื่น ๆ 

• ความสบายในการสวมใส่

ไม่ว่าจะเป็นหูฟังที่มีราคาสูงแค่ไหน เสียงดีเพียงใด หากสวมใส่แล้วไม่สบาย หนัก บีบรัด ก็ไม่เหมาะสมต่อการใช้งาน เพราะการเล่นเกมในระยะเวลานาน ๆ หูฟังควรสวมใส่สบาย ไม่ทำให้อึดอัดนั่นเอง

หูฟังเกมมิ่ง 2023 ที่เกมเมอร์ไม่ควรพลาด

1. JBL Quantum 400

เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยกับแบรนด์ JBL เป็นอย่างดี โดยเฉพาะลำโพงและอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับเสียง ซึ่งคราวนี้มาในรูปแบบของหูฟังเกมมิ่ง อย่าง JBL Quantum 400 หูฟังเกมมิ่งที่ต้องหาซื้อมาใช้งาน ด้วยระบบเสียง Surround 7.1 ที่จะทำให้คุณสัมผัสกับประสบการณ์การเล่นเกมในระบบเสียงรอบทิศทาง เก็บรายละเอียดเสียงได้ดี น้ำหนักเบา ใช้งานได้ยาวนาน มีฟีเจอร์ Game Chat Balance ที่สามารถปรับเสียงเกมและเสียงแชทให้สมดุลเพื่อรับรองการใช้งานกับโปรแกรม DISCORD ที่มาพร้อมไมโครโฟน Focus Voice ที่ช่วยให้สนทนากับเพื่อนได้อย่างชัดแจ๋ว 

2. SteelSeries Arctis 5RGB

เป็นอีกหนึ่งหูฟังเกมมิ่งที่ไม่ควรพลาดด้วยประกาศทั้งปวง แม้ว่า SteelSeries รุ่น Arctis 5RGB จะเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2019 แต่ยังมียอดขายดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะระบบเสียง Surround 7.1 DTS X V2.0 ที่ช่วยให้ได้ยินเสียงทุกรายละเอียด โดยเฉพาะตำแหน่งของเสียงที่ช่วยให้ผู้เล่นเกมได้รู้ที่มาของเสียง มีฟังชันก์ปรับสมดุลเสียงเกมและเสียงแชทด้วย USB ChatMicdisl พร้อมไมโครโฟน ClearCast แบบ 2 ทิศทาง พิเศษสุดด้วยไฟ RGB ที่แสดงผลได้มากกว่า 16 ล้านสี 

3. Logitech G435

สำหรับใครที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการเกมและคอมพิวเตอร์คงรู้จักกับแบรนด์ Logitech เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ ของคอมพิวเตอร์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในผู้นำอุปกรณ์ต่อพ่วงเหล่านั้น รวมถึง หูฟังเกมมิ่ง อย่าง Logitech G435 หูฟังสำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ เป็นหูฟังไร้สาย น้ำหนักเบา เพียง 165 กรัม รองรับการใช้งานทั้งระบบปฏิบัติการ Window, iOS, Playstation4-5 เชื่อมต่อสัญญาณผ่านระบบ Bluetooth ใช้งานต่อเนื่องได้นานสูงสุด 18 ชั่วโมง เมื่อแบตเตอรี่เต็ม ไมโครโฟนสามารถตัดเสียงรอบข้างได้ ช่วยให้การสนทนาไร้ซึ่งเสียงรบกวน

4. Razer BlackShark V2 X

หูฟังพันธุ์แกร่งขวัญใจชาว Esport ที่ช่วยเพิ่มความเร้าใจและอรรถรสในการเล่นเกมอย่างถึงที่สุด Razer BlackShark V2X ที่มาพร้อมพลังเสียงระดับ Hi-End Triforce Titanium 50mm. ช่วยแยกคลื่นเสียงได้อย่างชัดเจน พร้อมเสียง สูง กลาง ต่ำ ได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังรองรับระบบเสียง 7.1 Surround กระหึ่มรอบทิศ ช่วยให้การดูหนัง เล่นเกมได้อย่างสนุกและเพลิดเพลิน โดยไมโครโฟนมีระบบตัดเสียงรบกวนจากภายนอก ช่วยให้เสียงชัดเจน เพื่อที่จะได้โฟกัสกับเสียงภายในเกมได้ดียิ่งขึ้น สามารถปรับระดับเสียงต่าง ๆ ผ่านตัวหูฟังได้เลย 

5. Audio Technica Professional หูฟัง Monitor Series รุ่น M30x

หากคุณต้องการเสียงคุณภาพในราคาย่อมเยา ต้องไม่พลาดกับหูฟัง Audio Technica รุ่น M30x ที่ให้ความกว้างของเสียงตั้งแต่ 15-22,000HZ ไดร์ฟเวอร์ทำจาก นีโอไดเมี่ยมขนาด 40 mm ให้เสียง สูง กลาง ต่ำ ได้อย่างธรรมชาติและลงตัวมากที่สุด นอกจากจะเหมาะกับสายเกมมิ่งแล้ว สายฟังเพลง ดูหนังก็ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

สำหรับใครที่กำลังมองหาหูฟังสำหรับเล่นเกม รับรองว่าหูฟังที่เราคัดมานั้นสามารถตอบโจทย์ทุกรายละเอียดเสียงที่คุณต้องการ เสียงดังฟังชัด กระหึ่มรอบทิศทาง ในราคาคุ้มค่า เมื่อเทียบกับคุณภาพที่เกมเมอร์จะได้รับ หรือหากสนใจหูฟังเกมมิ่งและอุปกรณ์สำหรับเล่นเกมอื่น ๆ สามารถเลิอกซื้อได้เลยที่ลาซาด้า

ที่มาข้อมูล: notebookspec , computeandmore