Generator หรือ ที่รู้จักกันดีในนามของ เครื่องปั่นไฟ ที่ทำหน้าที่ในการผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อนำมาใช้งานเมื่อต้องผจญกับเหตุฉุกเฉิน ส่วนใหญ่ที่เห็นและนิยมใช้จะเป็น เครื่องปั่นไฟขนาดใหญ่ตามไซต์งานก่อสร้าง สถานที่ราชการหรือบริษัทเอกชนบางแห่ง เพื่อใช้ยามฉุกเฉินและดำเนินกิจการต่อไปได้แม้จะไม่มีไฟฟ้ากระแสหลักใช้งานก็ตาม หรือจะเป็นในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดารที่กระแสไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง แต่ปัจจุบันสามารถพบเห็นได้ทั่วไปตามรถแห่ วงดนตรี หรือแม้แต่รถบัส รถทัวร์ขนาดใหญ่ก็มีไว้ใช้งาน
วิธีการคำนวณปริมาณไฟก่อนเลือกซื้อ เครื่องปั่นไฟ
ก่อนที่จะไปถึงขั้นตอนการเลือกซื้อ เครื่องปั่นไฟ สิ่งแรกที่ผู้ซื้อจะต้องคำนึงถึงคือการคำนวณปริมาณไฟฟ้าที่จะต้องใช้งาน ณ ช่วงเวลาหนึ่งเสียก่อน เพื่อที่จะมั่นใจว่าเลือกซื้อเครื่องปั่นไฟมาได้อย่างถูกต้อง ตามความต้องการและสามารถผลิตกระแสไฟออกมาให้ใช้งานครอบคลุมทุกอุปกรณ์ที่จำเป็นจะต้องใช้
เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องใช้ไฟฟ้ามีกระแสไฟที่เพียงพอต่อการใช้งาน จะต้องตรวจดูว่าอุปกรณ์ใดบ้างที่ต้องการใช้พลังงานจากการปั่นกระแสไฟฟ้า ซึ่งมีด้วยกัน 2 วิธี คือ
- เครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับให้แสงสว่าง
- เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีมอเตอร์เป็นส่วนประกอบหลัก
ข้อแตกต่างของเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้ง 2 ประเภทนี้คือ แบบส่องสว่าง สามารถที่จะคำนวณค่าไฟได้ง่าย เมื่อเปิดใช้งานสามารถวัดค่าวัตต์ออกมาได้ทันที อยากใช้ไฟส่องสว่างกี่วัตต์ ก็ซื้อเครื่องกำเนิดไฟได้ในทันที ในขณะที่อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เป็นมอเตอร์จะมีวิธีการตรวจวัดค่อนข้างยาก เมื่อต้องการวัดค่าจะทำได้ค่อนข้างยาก เพราะต้องเผื่อค่าความปลอดภัยด้วย จึงไม่สามารถวัดได้ในครั้งแรกที่ต้องใช้งาน อาจต้องใช้จำนวนการใช้งาน 2-3 ครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่ากระแสไฟที่ใช้งานมีช่วงปริมาณการใช้เท่าใดจึงจะพอสรุปและเลือกซื้อได้
คำนวณวัตต์จากเครื่องใช้ไฟฟ้า
- หากอุปกรณ์ใช้กระแสไฟ ประมาณ 4,500 วัตต์ ให้ทำการแปลงค่าเป็นหน่วยกิโลวัตต์ ด้วยการนำเอา 1000 มาหาร ซึ่งจะได้ 4.5 กิโลวัตต์ หรือ 4.5 kw
- โดยที่ KVA คือ กิโลวัตต์แอมป์ เป็นหน่วยของกำลังไฟฟ้าที่แหล่งจ่ายไฟฟ้าให้โหลด เป็นผลคูณของกิโลโวลท์ หรือ KVA = KV X A โดยที่ 1 KVA มีค่าเท่ากับ 800 watt หรือ 0.8 KW หรือ 3.5 A
- ดังนั้น หากต้องซื้อเครื่องสำหรับปั่นไฟจะต้องซื้อเครื่องขนาด 6 KVA เพราะคำนวณกระแสไฟได้ 5.625 KVA
ในส่วนของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีมอเตอร์เป็นส่วนประกอบจะใช้วิธีการคำนวณหาค่าแอมแปร์ (A) โดยจะเป็นการหาค่าแรงดันกระแสไฟฟ้าต่อเนื่อง โดยมอเตอร์ขณะทำงาน (running) 1 HP จะอยู่ที่ 7A โดยประมาณ ถ้ามอเตอร์ขนาด 1 HP ดันกระแสไฟฟ้าต่อเนื่องขณะสตาร์ท จะมีค่าเท่ากับ (starting) 7A x 3 = 21 A นั่นเอง
วิธีเลือกซื้อเครื่องปั่นไฟ
หลังจากที่เรารู้เกี่ยวกับวิธีการคำนวณการใช้ไฟของอุปกรณ์ไฟฟ้าเป็นที่เรียบร้อย ลำดับต่อไปจะเป็นขั้นตอนการไปเลือกซื้อเครื่องปั่นไฟมาใช้งาน มีดังต่อไปนี้
- ชนิดของเครื่อง
โดยปกติจะมีด้วยกัน 3 ประเภทหลัก ได้แก่
- เครื่องปั่นไฟดีเซล เป็นเครื่องที่มีขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก มีความทนทานและมีเสียงค่อนข้างดัง แต่มีข้อดีคือประหยัด เพราะใช้น้ำมันดีเซลราคาถูก
- เครื่องปั่นเบนซิน เป็นเครื่องขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ไอเสียค่อนข้างต่ำ ใช้น้ำมันเบนซินเป็นเชื้อเพลิงหลัก ด้วยน้ำหนักตัวที่ไม่มากและมีขนาดเล็ก จึงได้รับความนิยมได้อย่างรวดเร็ว
- เครื่องปั่นแบบอินเวอร์เตอร์ เป็นเครื่องที่ได้รับการพัฒนามากจากเครื่องปั่นไฟเบนซินที่มีการนำระบบอินเวอร์เตอร์เข้ามาช่วย เพื่อให้เหมาะกับสถานที่ที่ใช้เสียงรบกวนต่ำและช่วยประหยัดพลังงาน แต่เครื่องปั่นไฟอินเวอร์เตอร์มีราคาค่อนข้างสูง
- รูปแบบการสตาร์ท
มีวิธีการสตาร์ทเครื่องเพื่อใช้งานอยู่ด้วยกัน 2 วิธี ได้แก่
- การใช้เชือกกระตุก เป็นการสตาร์ทเครื่องเพื่อใช้งานที่หลายคนเคยเห็นและคุ้นตากันเป็นอย่างดี โดยผู้ใช้งานจะต้องนำเชือกมาทำสตาร์ทเครื่อง เหมือนในรถไถนาเดินทาง รถอิแต๋น ซึ่งในการสตาร์ททุกครั้ง จำเป็นที่จะต้องมีแบตเตอรี่ที่มีไฟในการใช้งาน
- แบบอัตโนมัติ คือ ระบบจะมีการสตาร์ทเครื่องให้อัตโนมัติ หากไฟหลักที่ใช้งานดับ เครื่องก็จะสตาร์ทและทำงานในทันที ส่วนใหญ่นิยมใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม หรือธุรกิจขนาดใหญ่ที่ไม่ต้องการให้เกิด Down Time ในการทำงาน
- ขนาดของกำลังไฟที่จะสามารถผลิตได้
ในการเลือกซื้อเครื่องปั่นไฟผู้ซื้อจะต้องเลือกซื้อเครื่องที่มีขนาดและความสามารถในการจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอยู่ในบ้าน โดยอาจต้องเลือกขนาดที่ใหญ่หรือมีกำลังไฟในการผลิตมากกว่าปริมาณการใช้งานไฟฟ้าภายในบ้าน ไม่ควรเลือกขนาดกำลังการผลิตที่น้อยกว่า เพราะจะเกิดโอเวอร์โหลด เครื่องทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ
- การติดตั้ง
ก่อนการเลือกซื้อต้องคำนึงถึงสถานที่หรือพื้นที่ในการติดตั้งเครื่องปั่นไฟด้วย โดยหากนำมาใช้กับบ้านควรติดตั้งห่างจากบ้านประมาณ 6 เมตร และหันท่อไอเสียออกนอกตัวบ้าน เพื่อที่จะไม่ได้รับกลิ่นควันเข้าไปภายในบ้าน ที่สำคัญห้ามติดตั้งในพื้นที่ปิดซึ่งจะทำให้ไม่มีอากาศถ่ายเทและเครื่องมีความร้อนเพิ่มสูงขึ้นจนอาจเกิดอันตรายได้
สำหรับ เครื่องปั่นไฟ ในท้องตลาดมีให้เลือกหลายรุ่นหลายแบบ สิ่งที่สำคัญที่สุดจะต้องคำนึงถึงวัตถุประสงค์ของการนำไปใช้ จึงจะช่วยให้คุณรู้ได้ว่าควรเลือกเครื่องปั่นไฟชนิดไหนและแบบใด เพื่อตอบโจทย์กับการใช้งานมากที่สุด โดยเริ่มต้นศึกษารายการสินค้าแบบต่าง ๆ ได้ที่เว็บไซต์ลาซาด้า
ที่มาข้อมูล: bangkokgen , greeninterpart , tooltalking , itoolmart