เคสมือถือ เลือกแบบไหนเหมาะกับเราที่สุด!

เชื่อว่าหลังจากทุกคนได้ซื้อสมาร์ตโฟนสักเครื่องแล้ว สิ่งต่อไปที่เลือกซื้อตามมา คือ accessory เสริม และ เคสมือถือ แต่ก็มีผู้ใช้งานสมาร์ตโฟนบางส่วนที่ไม่สนใจใส่เคสด้านนอกมือถือ เนื่องจากมองว่าเป็นสิ่งไม่จำเป็น อีกทั้งยังคิดว่าทำให้รูปทรงสมาร์ตโฟนดูใหญ่ขึ้นผิดปกติ ซึ่งผู้ใช้งานกลุ่มนี้จะเน้นโชว์ดีไซน์ และสีของสมาร์ตโฟนแบบธรรมชาติ แต่เคสสมาร์ตโฟนจะสำคัญขึ้นมาแน่นอน เพราะหากมือถือตกหล่นแล้วเกิดความเสียหายขึ้นมา ก็อาจต้องส่งซ่อมหรือซื้อใหม่กัน

ความสำคัญในการใช้งาน เคสมือถือ และวิธีในการเลือกซื้อเคส

เคสมือถือ นอกจากทำหน้าที่ป้องกันการตกหล่น ลดรอยขีดข่วนด้านนอกที่อาจขึ้นกับโทรศัพท์ และช่วยไม่ให้สมาร์ตโฟนที่ติดฟิล์มกันรอยด้านหลัง ลื่นจนเกินไป เมื่อมือคุณเหงื่อออก จนเผลอทำมือถือตก นอกจากนี้เลนส์กล้องด้านหลังก็มีความสำคัญเช่นกัน หากเลือกเคสที่มีความลึกตรงรูกล้องหลังจะป้องกันไม่ให้เลนส์กล้องสัมผัสกับพื้นโดยตรง รวมทั้งช่วยไม่ให้สิ่งสกปรกติดหน้าเลนส์ได้ง่าย ถ้าใครทำมือถือตกพื้นบ่อยย่อมทราบดีว่าเลนส์กล้องหลังจะเริ่มเสียโฟกัส ทำให้กล้องเบลอ หนักเข้าก็สแกน QR code โอนเงินไม่ได้ เคสสมาร์ตโฟนจึงมีบทบาทสำคัญไม่น้อย ถ้าใครอยากจะซื้อเคสสักเครื่อง เรามีวิธีเลือกซื้อง่าย ๆ มาฝากกันดังนี้

• ความสูงของเคส เคสโทรศัพท์ที่ดีเมื่อใส่เข้ากับโทรศัพท์ควรมีความสูงใกล้เคียงกับผิวหน้ากระจก มิเช่นนั้นเมื่อเกิดการตกกระแทกบริเวณด้านข้างของสมาร์ตโฟนจะสัมผัสกับพื้นโดยตรง หากความสูงเคสมากกว่าหน้าจอแสดงผล ผิวด้านข้างเคสจะรับแรงกระแทกก่อนหน้าจอ ช่วยลดความเสียหายได้มากนั่นเอง

• การระบายน้ำ เคสโทรศัพท์ทุกรุ่นถูกออกแบบมาเพื่อกันน้ำเข้าอยู่แล้ว แต่ก็มีบางประเภทที่ประสิทธิภาพในการกันน้ำต่ำกว่าวัสดุแบบอื่น จึงทำให้เหงื่อใต้ฝ่ามือ หรือน้ำฝนเข้าไปเกาะตัวใต้มือถือด้านใน และเกิดปัญหาต่อมาคือ หลังหน้าจอจะมีรอยน้ำขึ้นเป็นดวง รวมทั้งเกิดสิ่งสกปรก ดังนั้นหากเลือกวัสดุที่ดูดซึมน้ำได้ง่าย ควรหมั่นถอดออกมาล้าง ทำความสะอาดบ่อย ๆ เพื่อลดคราบรอยด่างที่อาจเกิดขึ้น

5 ประเภทของ เคสมือถือ ที่ทุกคนควรรู้

1. เคสแข็ง

เคสชนิดนี้ขอบด้านข้างจะแข็งแรง และหนา ส่วนขอบมุมถูกออกแบบมาให้มีผิวโค้งเรียบ จึงช่วยเสริมเอกลักษณ์รวมทั้งดีไซน์ได้เป็นอย่างดี ส่วนปัญหาของเคสแบบแข็ง คือ เมื่อถอดเคสออกจะใส่กลับเข้าไปค่อนข้างยาก และรับแรงกระแทกได้ต่ำกว่า เมื่อตกลงพื้นจึงแตกกระจายง่าย ตรงข้ามกับเคสนิ่ม เพราะวัสดุทำมาจากพลาสติกชนิดพิเศษ ได้แก่ Polypropylene, Poly carbonate ซึ่งผู้ใช้งานเคสแข็งต้องมีความชำนาญในการถอดเคสพอสมควร ใครที่ถอดไม่เป็นย่อมเจอกับปัญหาเคสข่วนกับมือถือเป็นรอย 

2. เคสใส

หากใครชอบดีไซน์ที่ช่วยเสริมให้สมาร์ตโฟนดูโดดเด่น เคสใสก็น่าสนใจเช่นกัน ซึ่งเคสชนิดนี้ถูกผลิตมาด้วยวัสดุพื้นผิวหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบบนุ่มและแข็ง แต่ปัญหาที่มักเกิดขึ้น คือ เกิดรอยคราบเหลืองหากใช้วัสดุ TPU ในการผลิต ดังนั้นวิธีแก้ไขง่าย ๆ ผู้ใช้งานจึงควรติดฟิล์มเคลือบกันรอยด้านหลัง เพื่อลดโอกาสเกิดคราบ และรอยขนแมวได้ง่าย ๆ 

3. เคสนิ่ม

เคสประเภทนี้มาพร้อมกับโครงสร้างยอดนิยม ได้แก่ เคสซิลิโคน และเคส TPU โดยเคสซิลิโคนมีจุดเด่นคือความยืดหยุ่นสูง กันน้ำได้ดี ราคาประหยัด ความกว้างยาวมากกว่าเคสชนิดอื่นอย่างเห็นได้ชัด แต่ฝุ่นเกาะเคสง่ายมาก หากคุณไม่ถอดออกมาทำความสะอาดบ่อย ๆ ฝุ่นจะเกาะด้านใต้มือถือจนทำความสะอาดลำบาก ทั้งนี้เคสซิลิโคน หรือเคสตระกูลพลาสติกทั้งหลาย มือถือจะระบายความร้อนได้ยาก ส่วนเคส TPU มีความแข็ง และรูปทรงมีขอบด้านข้างชัดเจนมากกว่าเคสซิลิโคน การบิดงอของ TPU จึงทำได้ไม่ง่ายนัก รวมทั้งฝุ่นไม่เกาะติดเหมือนกับซิลิโคน เพราะมีความหนืดบนผิวหน้าน้อยกว่า

4. เคสฝาพับ

เข้ากันได้ดีสำหรับผู้ใช้งานสมาร์ตโฟนที่ต้องการความหรูหรา มักมาพร้อมกับผิวนอกทำจากวัสดุหนัง ทำให้มีข้อเสียเมื่อโดนน้ำ ส่งผลให้อับชื้น น้ำอาจซึมเข้ากับสมาร์ทไหนง่าย และรองรับแรงกระแทกได้ต่ำ ถ้าไม่อยากเจอปัญหาดังกล่าวควรเลือกวัสดุที่ทำมาจากพลาสติก TPU ก็แก้ไขได้เช่นกัน แต่ควรติดฟิล์มกันรอยด้านใต้ เพื่อลดโอกาสเกิดคราบเหลือง ดังนั้นหากใครไม่ชอบเคสหนาแข็ง อาจเลือกใช้งานเคสชนิดนี้ที่ตอบโจทย์การคงเอกลักษณ์ของดีไซน์ของสมาร์ตโฟน และไม่โดนบดบังจากขนาดของเคสอีกด้วย

5. เคสลูกเล่นเสริม

เคสลูกเล่นที่ว่าคือ มาพร้อมกับดีไซน์ที่แปลกใหม่ มีฟีเจอร์เสริมในตัว เช่น เคสที่รองรับการชาร์จไปในตัว โดยมีแบตเตอรี่ขนาดตั้งแต่ 2000 mAh – 100000 mAh ที่ผลิตขึ้นเพื่อสายคุย ไม่อยากเสียเวลาเดินหาสายชาร์จ หรืออีกประเภท เช่น ออกแบบเคสกันกระแทกด้วยระบบพิเศษ หรือมีห่วงใต้เคสสำหรับใครที่กังวลว่ามือถือจะตก เป็นต้น

แนะนำ ร้านค้าเคสมือถือ น่าสนใจที่ทุกคนเป็นเจ้าของได้ไม่ยาก

1. Manis Lemon

ใครชอบเคสมือถือที่ทนทานและแข็งแรงต้องร้านนี้เลย อย่างเคสมือถือ Shield Magnetic Case ที่รองรับการใช้งานสำหรับ iPhone 14 และ iPhone 13 Pro Max ใช้งานฟังก์ชัน Magnetic ทาบวางตำแหน่งเข้ากับสมาร์ตโฟนอย่างรวดเร็วโดยไม่จำเป็นต้องสวมใส่เข้าไปให้เสียเวลา บริเวณเลนส์กล้องหลัง ตัวเคสออกแบบกระจกสำหรับป้องกันอันตรายต่อเลนส์กล้องโดยเฉพาะ ลดปัญหาเลนส์เสื่อมสภาพ ด้านการดีไซน์ใช้วัสดุซิลิโคน และแผ่นหลังเคสใช้วัสดุ PC จึงมีความนิ่มนวล และแข็งแรงในเวลาเดียวกัน อีกทั้งยังรองรับการชาร์จด้วยแม่เหล็กอีกด้วย

2. YiaMia

เคสสมาร์ตโฟนสำหรับคนที่ชื่นชอบความน่ารัก ขอแนะนำร้านค้านี้ ที่รวมเคสดีไซน์สวย ๆ มาไว้ให้แล้ว อย่างเคสรุ่นนี้ที่เหมาะสำหรับSamsungGalaxy รุ่น A12, A22, A32 จนไปถึงรุ่นเรือธงอย่าง A52 และ A72 ใช้วัสดุซิลิโคนออกแบบด้านหลังพร้อมลายการ์ตูนนักบินอวกาศที่นูนออกมาสำหรับการพับเก็บเป็นขาตั้งมือถือได้โดยเฉพาะ ลดการกระแทกที่อาจเกิดขึ้น ตัวเคสใช้กระจกป้องกันเลนส์กล้องในลักษณะที่หนาและนูนออกมา ช่วยให้เลนส์กล้องสวยงามโดดเด่นมากยิ่งขึ้น หากใครชอบลายการ์ตูนน่ารัก ๆ ไม่ควรพลาดกับร้านค้านี้

3. Hontinga

ยังอยู่กันที่เคสลายน่ารัก ๆ โดนใจทุกเพศทุกวัย สำหรับร้านค้า Hontinga ที่มีดีไซน์ให้เลือกหลากหลายเช่นเดียวกัน แถมยังมีแอสเซสซอรี่เพิ่มมาให้ด้วย เช่นรุ่น Smile Square Original ที่มาพร้อมสายรัดข้อมือน่ารัก ๆ กับกราฟิกลายหน้ายิ้มที่ครอบคลุมไปถึงบริเวณหน้ากล้อง ทำจากวัสดุซิลิโคนนุ่ม ๆ ช่วยกันกระแทกได้เป็นอย่างดี มีให้เลือกทั้งหมดถึง 10 สีด้วยกัน! เรียกได้ว่าพลาดไม่ได้เลยกับร้านนี้

หากคุณได้ทำความรู้จักกับประเภทเคสเหล่านี้แล้ว สิ่งสำคัญที่ไม่ควรลืม คือ หมั่นดูแลรักษาสมาร์ตโฟน ไม่เผลอทำตกจากที่สูงบ่อย ๆ เนื่องจากแม้เคสจะถูกออกแบบมาเพื่อกันกระแทกก็ตาม แต่ถ้าตกมาจากที่สูงแรง ๆ โทรศัพท์ก็หล่นแตกได้ง่าย และควรถอดเคสออกล้างเป็นประจำสำหรับป้องกันสิ่งสกปรกนั่นเอง

ที่มาข้อมูล: dmarket , promotions , kapook , tookjingjing