คนเล่นบอลย่อมรู้จักและเป็นเจ้าของ รองเท้าสตั๊ด อย่างน้อยหนึ่งคู่ที่เอาไว้ออกลุยกับเพื่อนทั้งแบบลงแข่งจริงจังและการเล่นเพื่อความสนุกสนาน ว่าแล้วเรามาทำความรู้จักกับเรื่องราวของรองเท้าคู่นี้ที่มีชื่อว่าสตั๊ดกันว่ามันมีที่มาที่ไปยังไง ไปดูกันว่ารองเท้าที่นักกีฬาฟุตบอลหน้าไหนก็ล้วนต้องใช้มันลงฟาดแข้ง มันมีดีตรงไหน ทำไมใคร ๆ ก็ต้องสวมใส่มันลงสนามด้วย พร้อมกับเทคนิคการเลือกซื้อรองเท้าสตั๊ดที่คุณต้องรู้ถ้าคุณคือคอฟุตบอลตัวจริง
พัฒนาการของ รองเท้าสตั๊ด ในแต่ละช่วงเวลา
ก่อนจะไปดูเทคนิคการเลือกนั้น มาดูกันว่าแต่ละช่วงเวลาของความเป็นมาของรองเท้าสตั๊ดเกิดขึ้นเมื่อไหร่
- ช่วงต้นปี ค.ศ.1800 เป็นยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมในประเทศอังกฤษ และเป็นช่วงเวลาที่กีฬาฟุตบอลได้รับความนิยมอย่างสูง ชนชั้นแรงงานมักเล่นฟุตบอลหลังเลิกงาน ซึ่งช่วงนี้ยังไม่ได้มีรองเท้าสตั๊ดผลิตออกมานะครับ พวกเขาก็ใส่รองเท้าบู๊ตที่ใส่ทำงานในโรงงานนั่นแหละมาเตะบอล รองเท้าบู๊ตก็เลยเป็นสตั๊ดไปโดยปริยาย
- ปี 1900 เริ่มมีการพัฒนารองเท้าที่ใช้เล่นฟุตบอลมากขึ้น ด้วยการใช้หนังมาทำรองเท้า ทรงรองเท้าสตั๊ดก็ได้รับการปรับปรุงให้เหมาะสมในการเล่น แต่ก็ยังมีน้ำหนักที่มากเกือบครึ่งกิโลเลยทีเดียว โดยจุดประสงค์หลักของการออกแบบรองเท้าสตั๊ดก็เพื่อการป้องกันเท้าของผู้เล่นนั่นเอง
- กลางทศวรรษ 1940 รูปแบบของรองเท้าเปลี่ยนไปเนื่องจากผู้ผลิตหันมาให้ความสำคัญกับความกระชับและความสะดวกสบายในการเล่นฟุตบอลบนสนามมากขึ้น สตั๊ดในยุคนี้ก็จะมีขนาดเล็กลงและมีน้ำหนักที่เบาขึ้น
- ยุคปี 60-70 ถึงปัจจุบัน ด้วยความที่ฟุตบอลกลายมาเป็นกีฬายอดนิยมมากขึ้น ทำให้เกิดบริษัทผลิตรองเท้าฟุตบอลขึ้นมากมาย ได้มีการเอาเทคโนโลยีการผลิตใหม่เข้ามาใช้ในการสร้างสตั๊ดที่ดีกว่า เบากว่า และทำให้การเล่นง่ายกว่า ไล่มาเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบันที่มีเทคโนโลยีรวมถึงนวัตกรรมเกี่ยวกับรองเท้ามากมายเกิดขึ้นจนได้เป็นสตั๊ดสวย ๆ ประสิทธิภาพสูงอย่างที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้
เรื่องน่าสนใจกับการแบ่งระดับของรองเท้าสตั๊ด
นอกจากว่าเราจะสามารถแบ่งระดับของรองเท้าสตั๊ดตามระดับราคาแพงแล้ว ถ้าจะให้จัดหมวดหมู่กันจริง ๆ สตั๊ดถูกแบ่งเป็น 4 เกรด คือ
- สตั๊ด WORLD CLASS เปิดตัวกับสตั๊ดราคาแพงสุด เพราะนี่คือสตั๊ดที่จัดเต็มเรื่องเทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิต วัสดุชั้นเลิศ แน่นอนว่าประสิทธิภาพย่อมสูงตามราคา แต่ก็ไม่ค่อยจะได้รับความนิยมเท่าไรเพราะแพงมากถึงระดับที่ไม่คุ้มจะหาซื้อมาใส่เล่น ถ้าคุณไม่ใช่สตาร์หรือนักสะสมก็ข้าม ๆ รุ่นนี้ไปเลย
- สตั๊ดตัว TOP ถึงแม้จะชื่อว่าเป็นสตั๊ดระดับ TOP ที่ราคาอาจอยู่ในระกับกลางค่อนไปทางสูง แต่นี่ก็ถือว่าเป็นรองเท้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ด้วยวัสดุและประสิทธิภาพของรองเท้าที่ตอบโจทย์ผู้เล่นทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่น เป็นหนึ่งตัวเลือกที่คุ้มที่สุดและจับต้องได้ง่ายกว่า ซึ่งตัวที่เด่น ๆ เลยก็จะมี Nemeziz 18 ที่เมสซี่ก็เคยใส่ , รุ่น Predator 20.1 และ X 20.1 ของ adidas
- สตั๊ดระดับกลาง ขยับระดับลงมาเล็กน้อยกับอีกตัวเลือกที่คุ้มค่าในราคาที่สบายกระเป๋ากว่า สตั๊ดรุ่นนี้จะเป็นตัวที่เอาเทคโนโลยีบางส่วนของรุ่น TOP มาใส่ ทำให้รองเท้ามีประสิทธิภาพที่ดี ใช้งานได้ตอบโจทย์ อาจไม่มากเท่าแต่ก็ยังถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอยู่ อย่างรุ่น Copa Gloro 20.2 ซึ่งถือเป็นตัวรอง Top ที่คุ้มสุด ๆ
- สตั๊ดระดับเบสิก ระดับสุดท้ายที่ไม่ได้แย่อย่างที่หลายคนคิด เพราะในกลุ่มรองเท้าฟุตบอลระดับนี้ก็มีหลายรุ่นเหมือนกันที่สามารถใช้งานได้ดี ถือเป็นรองเท้าสตั๊ดที่ได้รับความนิยมในหมู่นักฟุตบอลที่เพิ่งเข้าแวดวงนี้ รวมไปถึงคนที่เล่นฟุตบอลเพื่อความสนุกไม่ได้จริงจังมากเท่าไร ถ้าในกลุ่มนี้ก็จะมีรุ่นที่น่าสนใจคือ Nemeziz 20.3 และ Copa 20.3 ที่ถึงแม้จะอยู่ในกลุ่มบ๊วยแต่คุณภาพบอกเลยว่าไม่ธรรมดา
เทคนิคเลือก รองเท้าสตั๊ด ให้เข้ากับสไตล์การเล่น
มาถึงเทคนิคการเลือก รองเท้าสตั๊ด ที่จะช่วยให้คุณได้รองเท้าฟุตบอลในแบบที่ใช่และตอบโจทย์สไตล์การเล่นในแบบของตัวเองแล้ว มาดูกันเลย
- สตั๊ดที่ดีต้องพอดีกับเท้า เรื่องนี้สำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นสตั๊ดระดับไหน ถ้าใส่ไม่พอดีกับเท้าตัวสตั๊ดก็ไม่สามารถที่จะแสดงประสิทธิภาพของตัวมันเองออกมาเต็มร้อยได้ นั่นหมายความว่าเวลาเลือกสตั๊ดจะต้องเลือกให้เหมาะกับขนาดเท้าของตัวเอง ถ้ารุ่นที่อยากได้ไม่มีเบอร์เท้าตัวเอง อย่าไปเลือกเบอร์ที่ใส่ไม่พอดีเด็ดขาด
- ประเภท สไตล์ และตำแหน่ง เพราะสตั๊ดแต่ละรุ่นจะมีมาตรฐาน ประสิทธิภาพ และการออกแบบที่แตกต่างกันไป เพื่อรองรับสไตล์การเล่นฟุตบอลที่หลากหลายของแต่ละคน โดยเฉพาะกับตำแหน่งของผู้เล่น ตรงนี้เราสามารถเอามาเป็นแนวทางในการเลือกสตั๊ดได้ เช่น ถ้าคุณเล่นตำแหน่งกองหน้า สตั๊ดก็ควรจะเบา เน้นคล่องตัว แต่ถ้าเป็นตำแหน่งที่เน้นการจ่ายและสนับสนุน ก็จะเน้นไปทางการควบคุมลูกและความแข็งแรงเป็นหลัก
- เลือกให้เหมาะกับสนาม เทคนิคสุดท้ายเราต้องดูด้วยว่าสนามที่จะไปเล่นนั้นเป็นสนามแบบไหน เพราะ รองเท้าสตั๊ด แต่ละแบบจะมีความเหมาะในการเอามาใช้ในสนามที่ไม่เหมือนกัน เช่น สนามหญ้าจริงจะต้องใช้สตั๊ดปุ่มมาตรฐาน หรือ FG (Firm Ground) ซึ่งจะต้องเป็นสนามหญ้าที่ดินมีความนุ่ม เป็นสนามคุณภาพเท่านั้น
หลังจากที่เราได้รู้และเข้าใจถึงที่มาที่ไปและการแบ่งระดับกับประเภทของสตั๊ดรวมถึงเทคนิคการเลือกซื้อรองเท้าที่เหมาะกับสไตล์การเล่นของเรามากที่สุดไปแล้ว ให้นำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้เพื่อเลือกซื้อรองเท้าฟุตบอลคู่ใจก็จะได้รองเท้าที่เหมาะต่อการใช้งาน ซึ่งแน่นอนว่ามันจะช่วยให้การเล่นของคุณมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สำหรับใครที่ไม่สะดวกไปซื้อที่หน้าร้าน สามารถเลือกซื้อรองเท้าสตั๊ดที่ใช่กับLazadaผ่านช่องทางออนไลน์ได้เลย มีสตั๊ดหลากรุ่น หลายลาย ให้เลือกซื้อ ด้วยบริการจัดส่งที่รวดเร็ว ทันใจ พร้อมลงสนามไล่เก็บแต้มทำคะแนนรัว ๆ
ที่มาข้อมูล: volkyfootballboots , kopsport , mixmagazine