แบตเตอรี่มือถือ ถือเป็นหัวใจสำคัญของสมาร์ทโฟนในปัจจุบันเลยก็ว่าได้ เพราะชีวิตประจำวันของคนเรานั้นต้องใช้มือถือเกือบแทบตลอดเวลา ทั้งช่วงการทำงานและเวลาพักผ่อน ความจุแบตเตอรี่ที่เพียงพอใช้งานได้ตลอดวันจึงสำคัญมาก
ยิ่งในยุคหลัง ๆ มือถือส่วนใหญ่ล้วนถูกออกแบบมาให้ไม่สามารถแกะฝาหลังได้เหมือนเมื่อก่อน ทำให้การเปลี่ยนแบตเตอรี่จะต้องผ่านศูนย์บริการเท่านั้น พูดง่าย ๆ ว่าจะเปลี่ยนแบตเตอรี่แต่ละครั้งต้องเสียเงินไม่ใช่น้อย ๆ ดังนั้น การรักษาแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้ยาวนานจึงเป็นเรื่องสำคัญ และวันนี้เราก็ได้รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับแบตเตอรี่สมาร์ทโฟน ทั้งสาเหตุที่ทำให้แบตเสื่อมและวิธีช่วยยืดอายุแบตมาฝากกัน
แบตเตอรี่มือถือ ในปัจจุบันมีกี่ประเภท?
ก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักกับสาเหตุยอดฮิตที่ทำให้แบตเตอรี่มือถือเสื่อมและวิธีการช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ เราลองมาดูกันก่อนว่าแบตเตอรี่ที่ติดตั้งอยู่ในสมาร์ทโฟนปัจจุบันนั้นมีกี่ประเภท แม้สมาร์ทโฟนในตลาดจะมีด้วยกันหลายรุ่นจากหลายแบรนด์ มีทั้งรุ่นเริ่มต้น รุ่นกลาง ไปจนถึงรุ่นเรือธงราคาแพง แต่แบตเตอรี่ใช้กันอยู่มีเพียงแค่ 2 ประเภทใหญ่ ๆ เท่านั้น คือ Lithium Ion (Li-Ion) และ Lithium Ion Polymer (Li-Po) ซึ่งจริง ๆ แล้วทั้งคู่ก็ไม่ค่อยมีความแตกต่างเรื่องอายุการใช้งานและความอึดในการใช้งานเท่าไหร่นัก เพียงแต่แบตแบบ Li-Po จะมีน้ำหนักเบากว่า และมีโอกาสระเบิดน้อยกว่าแบบ Li-Ion เล็กน้อยเท่านั้น
สำหรับสมาร์ทโฟนที่ใช้แบตเตอรี่แบบ Li-Po ก็คือ iPhone ของ Apple ทุกรุ่น ส่วนฝั่ง Android รุ่นใหม่ ๆ ก็เริ่มเปลี่ยนมาใช้แบตแบบ Li-Po กันมากขึ้น แต่หากเป็นรุ่นเริ่มต้นราคาประหยัดส่วนใหญ่จะยังคงใช้แบตแบบ Li-Ion อยู่
สาเหตุยอดฮิตที่ทำให้ แบตเตอรี่มือถือเสื่อม
แม้ว่า แบตเตอรี่มือถือ จะไม่ต่างจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชิ้นที่ต่างก็ต้องมีวันเสื่อมสภาพหรือหมดอายุการใช้งานด้วยกันทั้งนั้น แต่หากเราใช้งานไม่ถูกต้อง ก็จะยิ่งทำให้แบตเสื่อมสภาพไวขึ้น ซึ่งสาเหตุยอดฮิตที่ทำให้แบตเสื่อมมีดังต่อไปนี้
- ปล่อยให้แบตหมดเกลี้ยงจนเครื่องดับ
หลายคนมักจะลืมดูว่าแบตเตอรี่เหลือพลังงานอยู่เท่าไหร่ ทำให้บ่อยครั้งที่หยิบมือถือขึ้นมาแล้วแบตเหลือ 5%, 1% หรือไม่ก็แบตหมดจนเครื่องดับไปเลย ซึ่งนี่แหละคือหนึ่งในสาเหตุยอดฮิตอันดับต้น ๆ ที่ทำให้แบตเสื่อม เพราะการปล่อยให้แบตเหลือน้อยกว่า 20 – 30% จะทำให้แบตค่อย ๆ คายประจุไฟฟ้าออกไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดแบตก็จะเสื่อมสภาพเก็บประจุไฟฟ้าไม่ได้อย่างถาวร
- เล่นเกมจนเครื่องร้อน
ใครที่จะเป็นสายเล่นเกมย่อมจะรู้ว่าหากเล่นเกมไปนาน ๆ ก็จะทำให้มือถือเกิดความร้อนสูง โดยเฉพาะเกม 3D กราฟิกโหด ๆ แล้วละก็ บอกเลยว่ามือถือร้อนจนล้อเลียนกันว่าน่าจะใช้รีดผ้าได้เลยทีเดียว ซึ่งเจ้าความร้อนสะสมนี้เองที่เป็นหนึ่งในสาเหตุยอดฮิตที่ทำให้แบตเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ
- ใช้อุปกรณ์ชาร์จไม่ได้มาตรฐาน
ใครที่คิดจะซื้อสายชาร์จหรือหัวชาร์จที่วางขายกันข้างทาง ราคา 20 บาทบ้าง 39 บาทบ้าง หรือ 50 บาทบ้าง เราขอเตือนไว้เลยว่าให้คิดดี ๆ คิดหลาย ๆ รอบ เพราะอุปกรณ์เหล่านี้ไม่ได้แค่ชาร์จไฟเท่านั้น แต่ยังต้องมีระบบควบคุมการจ่ายไฟที่ได้มาตรฐาน มีระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดไฟฟ้าลัดวงจร หากอุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐาน นอกจากจะทำให้ชาร์จได้ช้าเป็นเต่าแล้ว ยังอาจทำให้แบตเสื่อม หรืออาจถึงขั้นระเบิดได้เลยทีเดียว
วิธีการช่วยยืดอายุ แบตเตอรี่มือถือ ให้ใช้งานได้ยาวนาน
สำหรับวิธีการถนอม แบตเตอรี่มือถือ ให้ใช้งานได้ยาวนานนั้น มีด้วยกันหลายวิธี แต่สำหรับวันนี้เราได้เลือกวิธีที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง ไม่ต้องเสียเงินซื้ออุปกรณ์เสริมมาเป็นตัวช่วยใด ๆ ทั้งสิ้น มาเริ่มดูแลแบตเตอรี่กันตั้งแต่วันนี้
- อย่าปล่อยให้แบตหมด
อย่างที่เราได้บอกไปว่าการปล่อยให้แบตเหลือพลังงานต่ำกว่า 20 – 30% จะทำให้แบตเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ทางที่ดีควรเริ่มชาร์จแบตในช่วงที่แบตเหลือพลังงานระหว่าง 40 – 80% จะดีที่สุด เพราะจะช่วยให้เรายืดอายุแบตจากปกติที่ชาร์จได้เฉลี่ย 500 รอบ เป็น 1,000 – 2,000 รอบเลยทีเดียว
- ไม่จำเป็นต้องชาร์จไวเต็มพิกัดทุกครั้ง
หัวชาร์จมือถือในปัจจุบันมีระบบ “ชาร์จไว” ให้เลือกใช้งานตั้งแต่ 10W, 18W, 33W ไปจนถึง 200W กันเลยทีเดียว แน่นอนว่ายิ่งใคร ๆ ก็ชอบให้มือถือชาร์จเต็มไว ๆ กันทั้งนั้น แต่ระบบชาร์จไวก็มีส่วนทำให้แบตเตอรี่เสื่อมไวขึ้นด้วยเช่นกัน ทางที่ดีหากไม่จำเป็นก็ควรชาร์จด้วยกำลังไฟปกติ ไม่สูงหรือต่ำเกินไป
- อย่าเล่นไปชาร์จไป
เชื่อว่าหลายคนมักจะเสียบสายชาร์จไปด้วยและเล่นมือถือไปด้วย ซึ่งจะทำให้แบตเตอรี่คายประจุและเก็บประจุในเวลาเดียวกัน ส่งผลให้พื้นที่บางส่วนของแบตมีรอบการชาร์จมากกว่าพื้นที่ส่วนอื่น ๆ ของแบต พูดง่าย ๆ ก็คือ แบตจะเสื่อมไม่เท่ากันทั้งก้อน ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้งานมือถือขณะชาร์จเพื่อให้แบตเก็บประจุเพียงอย่างเดียว ซึ่งจะทำให้แบตมีรอบการชาร์จเท่ากันทั้งก้อน
- อัปเดตซอฟต์แวร์ล่าสุด
การอัปเดตซอฟต์แวร์ของสมาร์ทโฟนให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดจะช่วยให้ระบบจัดการทรัพยากรต่าง ๆ ของมือถือทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่กินแบตเตอรี่ ช่วยให้ยืดอายุแบตให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น โดยเราสามารถเข้าไปเช็กอัปเดตซอฟต์แวร์ได้ที่ การตั้งค่า > อัปเดตซอฟต์แวร์
ทั้งหมดนี้คือสาระความรู้เกี่ยวกับ แบตเตอรี่มือถือ ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ แม้ว่าแบตเตอรี่จะมีอายุการใช้งานจำกัด แต่ขอเพียงแค่เราใช้งานอย่างถูกต้อง หลีกเลี่ยงปัจจัยที่จะทำให้แบตเสื่อมเร็ว โดยเฉพาะการใช้อุปกรณ์ชาร์จที่ไม่ได้มาตรฐาน เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถใช้งานได้ยาวนานจนกว่าจะหมดอายุการใช้งาน
ที่มาข้อมูล: bolttech , trueid , thaimobilecenter , it24hrs