จักรยาน มีด้วยกันหลายประเภทหลายแบบ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน บางคนใช้ไปซื้อกับข้าว ขี่เล่นในหมู่บ้านกับลูก บางคนเน้นออกกำลังกาย บางคนชอบการขับขี่แบบผจญภัย แต่จะทำอย่างไรจึงจะเลือกแบบที่สามารถตอบโจทย์ของตนเองได้ วันนี้จะพาไปดูข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อประเภทและรุ่นให้เหมาะสมกับตนเองเพื่อความสนุกสนานในการขับขี่
5 ข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อ จักรยาน
- วัตถุประสงค์ในการใช้งาน
อันดับแรกต้องกำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้งานก่อน ว่าต้องการใช้เพิ่อวัตถุประสงค์อะไรบ้างในชีวิตประจำวัน ขับขี่ออกกำลังกาย หรือขับขี่ชมวิวสวยงาม หากใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป ก็มีหลายรุ่นน่าเลือกใช้ เช่นจักรยานที่เน้นไปซื้อของที่ตลาดหรือปากซอยก็จะมีใส่ส่วนของตะกร้าเพื่อใส่สิ่งของ หากใช้เพื่อประหยัดค่ารถ ต้องการนำขึ้นรถเมล์หรือรถไฟฟ้าได้ก็มีรุ่นแบบที่พกพาหรือพับได้ก็จะสะดวกที่สุด หากเป็นสายลุย เน้นการผจญภัย จักรยานเสือภูเขา ยางวิบากคันเดียวอยู่ จึงต้องรู้ก่อนว่าจักรยานที่จะซื้อนั้นนำไปใช้แบบไหน ก็จะเลือกได้ตอบโจทย์ความต้องการมากขึ้น เพราะแต่ละประเภทก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน
- งบประมาณ
หลังจากเลือกประเภทได้แล้ว ลำดับต่อไปก็มาสำรวจเงินในกระเป๋าของตนเองว่าสามารถที่จะซื้อในราคาใดได้ เพราะแต่ละคันแต่ละแบรนด์ก็จะมีราคาที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้และบริษัทผู้ผลิต เช่น ล้อเหล็กจะมีราคาที่ค่อนข้างถูก ในขณะที่ล้อคาร์บอนจะมีราคาที่สูงมาก ดังนั้น ควรเลือกซื้อแบบที่เหมาะกับเงินในกระเป๋าของคุณด้วย
- อะไหล่ ของแต่งและอุปกรณ์เสริม
เชื่อได้ว่ามากกว่า 90% หลังจากใช้งานไปแล้วสักระยะหนึ่ง จะเริ่มมองหาอุปกรณ์เสริม ของแต่งเพื่อนำมาเปลี่ยนหรือแก้ไขของเดิมให้ดีขึ้น เช่น ระบบเบรก, ล้ออะลูมิเนียม, ล้อแม็ก, เบาะแต่ง, แฮนด์โรล, บันไดชิมาโนและอื่น ๆ เพื่อให้บอดี้ดูสวยงามและมีประสิทธิภาพในการขับขี่ที่ดีขึ้น ดังนั้นควรมีงบประมาณสำหรับของแต่งนี้ด้วย รวมถึงอะไหล่บางชนิดที่ต้องเปลี่ยนบ่อย ๆ เช่น ผ้าเบรก, ยางใน, ยางนอก, ลูกปืนและอุปกรณ์หล่อลื่นต่าง ๆ ควรสอบถามราคาและหาร้านค้าที่มีอะไหล่เหล่านั้นจำหน่ายในราคาที่เหมาะสมด้วย เพราะบางครั้งอาจต้องซื้อมาเป็นอะไหล่สำรองเพื่อใช้เปลี่ยนในกรณีฉุกเฉินด้วยตนเองได้
- สถานที่ในการขับขี่
เมื่อตั้งใจจะซื้อมาเพื่อการขับขี่แล้ว จะต้องรู้ด้วยว่าจะนำไปขับขี่ ณ สถานที่ใด จึงจะสามารถขับขี่ได้เต็มที่และปลอดภัยจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งสถานที่ดังกล่าวจะต้องอยู่ไม่ไกลจากที่พักมากเกินไป เช่น ภายในมหาวิทยาลัย, สวนสาธารณะที่มีเลนสำหรับการขับขี่, Skylane, สันเขื่อน, อ่างเก็บน้ำ เป็นต้น ไม่แนะนำให้ขับขี่บนท้องถนนหลวง หากไม่มีความชำนาญมากพอ เพราะอาจเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้
- เครื่องมือ อุปกรณ์เสริมอื่น ๆ นอกจากอะไหล่
เครื่องมือและอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ได้แก่ ปะแจ, คีมล็อก, ไขควง, ที่สูบลม, หมวกกันน็อก, ถุงมือ, ชุดสำหรับปั่นขับขี่, อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัย ฯลฯ ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับ การดูแลและบำรุงรักษาด้วยตนเอง โดยเฉพาะในกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นที่จะต้องซ่อมด้วยตนเอง หรือการสูบลมด้วยตนเอง เป็นต้น อย่างน้อยควรมีอุปกรณ์เหล่านี้ติดท้ายรถยนต์เพื่อที่จะได้นำออกมาใช้ได้ตลอดเวลาที่ต้องนำไปขับขี่ไกล ๆ รวมถึงไฟกะพริบที่ต้องติดบริเวณแกนเบาะให้รถคันหลังเห็น
วิธีเลือกซื้อ จักรยาน ให้เหมาะกับสรีระผู้ขับขี่
หลังจากตัดสินใจได้แล้วว่าจะซื้อประเภทใด ในลำดับต่อไปจะพาไปดูวิธีการเลือกรุ่นและขนาดให้เหมาะกับสรีระและร่างกายของตนเอง เพื่อที่จะได้ขับขี่ได้อย่างมีความสุข
เทียบขนาดกับผู้ขับขี่
ผู้ขับขี่จะต้องลองนั่งคร่อมและลองถีบปั่นล้อดู เพื่อที่จะได้รู้ว่าตัวบอดี้มีขนาดและความสูงพอดีกับเราหรือไม่ เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาในภายหลัง
- ตารางเทียบขนาดตัวรถกับผู้ขับขี่เบื้องต้น
ความสูงของผู้ขับขี่ (เซนติเมตร) | เสือภูเขา, ไฮบริด (นิ้ว) | เสือหมอบ (เซนติเมตร) |
148-152 | 13-14 | 40-44 |
152-160 | 14-15 | 44-47 |
160-168 | 15-17 | 46-49 |
168-175 | 17-18 | 49-53 |
175-183 | 18-19 | 53-58 |
183-191 | 19-21 | 58-61 |
191-198 | 21-23 | 61-63 |
การวัดความสูงของเป้า
การวัดความสูงเป้าของผู้ขับขี่ถือเป็นการวัดที่เจาะลึกลงไปอีก เพื่อให้ได้รุ่นที่มีความเหมาะสมกับผู้ขับขี่มากที่สุด โดยเป็นการวัดความสูงจากพื้นถึงบริเวณเป้าของผู้ปั่น โดยจะมีแท่นสำหรับวัดเป้าโดยเฉพาะ ซึ่งคนปั่นจะต้องไปยืนคร่อมท่อนไม้ที่ยื่นออกมา แล้วค่อย ๆ ขยับให้ขึ้นไปสูงในระดับเป้า จากนั้นดูตัวเลขที่แท่นก็จะรู้ความสูงของเป้า ค่อยไปเลือกซื้อรุ่นที่เหมาะสมได้ต่อไป
จักรยาน แต่ละประเภทมีการออกแบบที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งาน จึงทำให้มีสินค้าออกมาให้เลือกใช้งานหลากหลายแบบ ผู้ขับขี่จะต้องรู้วัตถุประสงค์และความต้องการของตนเองให้ดีว่าจะซื้อจักรยานขับขี่มาเพื่อใช้งานอะไร เพราะไม่อย่างนั้นอาจทำให้มีปัญหาในภายหลังหรือการใช้รถไม่ถูกประเภท เช่น การนำจักรยานเสือภูเขามาขับทางเรียบในระยะทางไกล ๆ หากถามว่าขี่ได้หรือไม่ ก็ต้องตอบว่าได้ แต่อาจต้องปรับเปลี่ยนล้อยางให้เป็นแบบผิวเรียบ ไม่ใช่ยางสำหรับออฟโรด ความเร็วที่ได้ก็จะทำได้ไม่ดีเท่าเสือหมอบ เป็นต้น ดังนั้น ในการเลือกซื้อจึงจำเป็นต้องกำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้งานให้ดี จึงจะทำให้ได้รุ่นและขนาดที่เหมาะสม ใช้งานได้อย่างคุ้มค่า
ที่มาข้อมูล : letsbike , tokyobike , gooviewthailand , bkkwheels