สำหรับหลาย ๆ คนที่รักรถก็มักจะนำรถไปล้างที่คาร์แคร์ แต่บางคนก็มักจะล้างทำความสะอาดรถด้วยตัวเอง เพราะนอกจากจะประหยัดค่าใช้จ่ายได้แล้ว ยังล้างได้ด้วยความทะนุถนอมมากกว่าไปล้างที่คาร์แคร์ ซึ่งหลายครั้งก็ได้ริ้วรอยออกมาเพราะความไม่ใส่จากพนักงานที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้หลายคนไม่กล้าไปคาร์แคร์อีกเลย แต่รู้หรือไม่ว่าการล้างทำความสะอาดรถที่ถูกวิธีนั้น มีขั้นตอนที่ต้องใส่ใจ การทำความสะอาดรถที่ผิดวิธี อาจจะเป็นการทำร้ายรถของเรามากกว่าที่คิด แต่จะทำอย่างไรจึงจะสามารถ ล้างรถ ได้สะอาดหมดจด วันนี้มีแนวทางมาบอก
วิธีการ ล้างรถ ที่ถูกต้อง
1. ล้างด้วยน้ำเปล่าในขั้นตอนแรก
เมื่อเราใช้รถไปนาน ๆ ก็จะมีคราบฝุ่น คราบดินติดอยู่ที่ตัวรถ ยิ่งในฤดูฝนนั้นก็ยิ่งจะมีคราบโคลนติดรถเราจนแน่น ทำให้คราบสกปรกเหล่านั้นแห้งเกรอะกรังและเกิดปัญหาในการล้าง
ในขั้นตอนแรกนี้เราควรใช้น้ำเปล่าฉีดไปทั่วตัวรถเสียก่อน หากมีเครื่องล้างที่มีหัวฉีดแรงสูงก็จะยิ่งดี เพราะจะทำให้ฉีดล้างคราบโคลนที่ติดแน่นให้หลุดออกได้ดี หากไม่มีเครื่องฉีดแรงสูงก็ใช้สายยางฉีดก็ได้ และขณะฉีดก็ใช้มือลูบตามไปด้วยเพื่อให้คราบสกปรกออกไปให้มากที่สุด เพราะหากเราล้างทั้ง ๆ ที่รถยังมีคราบดิน จะทำให้รถเราเป็นรอยได้ หลายคนที่มองข้ามเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ เมื่อล้างเสร็จก็ต้องมานั่งกุมขมับให้กับร่องรอยที่เราประมาทเลินเล่อทำไว้
2. ใช้น้ำยาล้างที่ถูกต้อง
หลังจากที่ใช้น้ำเปล่าล้างคราบสกปรกในเบื้องต้นแล้ว สิ่งต่อไปคือการใช้น้ำยาล้างเพื่อทำความสะอาดขั้นต่อไป ซึ่งขั้นตอนนี้เราควรเลือกน้ำยาล้างให้ถูกต้อง บางคนเน้นความสะดวกด้วยการนำน้ำยาล้างจานมาล้าง หลายคนมีพฤติกรรมที่ทำร้ายรถมากกว่านั้น ด้วยการนำผงซักฟอกมาใช้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะน้ำยาล้างจานนั้น แม้จะล้างพื้นผิวรถได้สะอาดแต่น้ำยาล้างจานหรือผงซักฟอกนั้นจะทำลายชั้นเคลือบสีรถให้บางลง สิ่งที่ถูกต้องคือการใช้น้ำยาหรือแชมพูสำหรับการล้างทำความสะอาดรถโดยเฉพาะ เพราะถูกออกแบบมาให้มีส่วนผสมที่ช่วยในการทำความสะอาดและรักษาผิวรถยนต์ บางยี่ห้อยังมีส่วนผสมที่ทำให้รถมีชั้น wax ที่เงางามตั้งแต่ล้างเสร็จอีกด้วย การผสมสัดส่วนของน้ำยาก็ขึ้นอยู่กับข้อบ่งใช้ของแต่ละยี่ห้อ
3. เลือกใช้ฟองน้ำหรือผ้าเนื้อละเอียดในการล้างรถ
ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องให้ความใส่ใจ ฟองน้ำราคาถูก คุณภาพต่ำ จะทิ้งริ้วรอยเอาไว้ที่ตัวรถ เราควรเลือกฟองน้ำที่มีเนื้อละเอียดในการนำมาใช้ หรือเลือกผ้าประเภทไมโครไฟเบอร์ที่มีเนื้อละเอียดมาใช้เพื่อทำความสะอาดรถ ในระหว่างการล้างทำความสะอาดก็หมั่นล้างฟองน้ำหรือผ้าเพื่อเอาเศษดิน เศษทรายที่ติดออกเพื่อป้องกันการเกิดรอยที่ตัวรถ และหากเป็นไปได้ควรแยกฟองน้ำที่ล้างด้านล่างของตัวรถ เพราะส่วนนี้เป็นส่วนที่มีดินโคลนติดอยู่มาก ป้องกันการเกิดรอยที่ตัวรถส่วนอื่นได้
4. ใช้ผ้าเช็ดรถที่มีคุณภาพ
เราไม่ควรปล่อยให้รถแห้งเอง เพราะจะทิ้งคราบเอาไว้จนทำความสะอาดได้ยาก ควรใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดจนแห้ง ผ้าที่ควรใช้คือผ้าชามัวร์ ที่มีคุณสมบัติในการดูดซึมน้ำได้ดี จากนั้นใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดซ้ำอีกรอบเพื่อความแห้งหมดจด วิธีการเช็ดต้องเช็ดจากด้านบนหลังคาลงมา เมื่อมั่นใจว่ารถแห้งทั่วทั้งคันแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการลงน้ำยาเคลือบเงา ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการทำหรือไม่ หรือเพียงแค่ล้างก็เพียงพอต่อการทำความสะอาดแล้ว แต่การลงน้ำยาเคลือบก็จะทำให้รถแวววาวดูสวยงามและเป็นการรักษาสีรถไปในตัว
นอกจากนี้ ยังไม่ควรอย่างยิ่งที่จะล้างกลางแดด เพราะแสงแดดนั้นนอกจากจะทำให้น้ำยาล้างแห้งไวแล้ว ยังส่งผลให้ตัวรถเกิดความเสียหายจากแสงแดดที่ส่องผ่านหยดน้ำจนเกิดเป็นความร้อนทำลายสีรถ ซ้ำยังทิ้งคราบสกปรกที่ทำความสะอาดได้ยากอีกด้วย
แนะนำอุปกรณ์พื้นฐานการล้างรถ ที่ควรมีไว้ใช้เพื่อรถที่คุณรัก
- ผ้าไมโครไฟเบอร์ เป็นผ้าที่มีเนื้อผ้าเนียนละเอียด นุ่ม ลดรอยขนแมวบนสีรถ ทำให้เราไม่ต้องกังวลว่ารถสุดที่รักจะเป็นรอย ซึมซับน้ำไว ใช้เช็ดเก็บกันฝุ่นได้ดี เนื้อผ้าใช้งานได้อย่างยาวนาน มีให้เลือกหลายขนาดตามต้องการ
- ฟองน้ำไมโครไฟเบอร์ การใช้ฟองน้ำคุณภาพแย่ จะทำให้รถเป็นรอย เราควรใช้ฟองน้ำที่มีคุณสมบัติการป้องกันริ้วรอยขณะใช้งาน ซึ่งฟองน้ำไมโครไฟเบอร์นั้นเป็นที่นิยม เพราะมีเนื้อหนาแน่น ละเอียด แม้ว่าจะมีราคาแพงกว่าฟองน้ำแบบธรรมดา แต่ก็คุ้มค่าในการถนอมสีรถเรา
- น้ำยาล้างทำความสะอาดรถ น้ำยาล้างรถคุณภาพดีนอกจากจะช่วยทำความสะอาดได้ดีแล้ว ยังมีคุณสมบัติในการเคลือบเงาสีรถหลังการล้าง เพื่อให้สีรถได้รับการปกป้อง เงางาม
- ผ้าชามัวร์ เป็นผ้าชนิดพิเศษที่มีคุณสมบัติการซับน้ำได้สูง ใช้ในการเช็ดรถหลังการล้างให้แห้งสนิท เช็ดรถได้ดีกว่าผ้าขนหนูแบบปกติ ไม่ทิ้งรอยบนตัวรถ
นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ในการล้างรถยนต์ให้เลือกซื้ออีกมากมาย ทั้งน้ำยาเคลือบสีรถ น้ำยาล้างยางมะตอย น้ำยาเช็ดเบาะ เข้าไปเลือกซื้อได้ที่เว็บไซต์ลาซาด้าซึ่งการทำความสะอาดรถด้วยตัวเองนั้น หากทำได้อย่างถูกวิธี จะช่วยให้เราดูแลรถสุดที่รักให้สวยงามไปอีกยาวนาน