ในแต่ละวันหลังเลิกงานแต่ละวันก็เหนื่อยจนแทบขาดใจ วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ก็อยากจะพักผ่อนให้เต็มอิ่ม ถ้าต้องมากวาดบ้าน ถูพื้นอีก วันหยุดสุดท้ายก็เหมือนไม่หยุด หลายคนเลยเลือกมองหาอุปกรณ์ทุ่นแรงอย่าง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่ช่วยทำความสะอาดได้เป็นอย่างดี เราจึงนำคำตอบมาฝากทุกคนว่าหุ่นยนต์ดังกล่าวมีข้อแตกต่างกันอย่างไร ทำไมบางรุ่นถึงราคาสูงกว่ายี่ห้ออื่น ?
คุณเหมาะกับ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น แบบใด
แน่นอนว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ราคาสูงย่อมได้ฟังก์ชัน สเปคการทำงานที่ดีกว่าหุ่นยนต์ราคาต่ำกว่า แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้งานด้วยว่าต้องการแบบไหนเพื่อเลือกซื้อได้อย่างคุ้มค่าสุด ก่อนการซื้อควรสังเกตจากระบบนำทางว่ามีประสิทธิภาพนำทางดีมากหรือน้อยอย่างไร เพราะหุ่นยนต์ที่ราคาถูกระบบจับสัญญาณอาจด้อยกว่าหุ่นยนต์ที่ราคาแพง ไม่มีคุณสมบัติในการปรับไปใช้ระบบถูพื้น และขาดฟีเจอร์ในการควบคุมหุ่นยนต์เวลาคุณออกไปนอกบ้าน แต่ในกรณีที่คุณไม่ต้องการใช้ฟีเจอร์พิเศษ อย่างการซักล้าง อาจไม่ต้องซื้อหุ่นยนต์ราคาสูงก็ได้ นอกจากนี้ด้านขนาดและรูปทรงเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน กล่าวคือ หุ่นยนต์ที่มีขนาดใหญ่เกินไปจะเข้าไปยังพื้นที่แคบไม่สะดวก หรือบ้านใครที่สิ่งของเยอะ ก็ควรเลือกหุ่นขนาดเล็กเป็นพิเศษ
แนะนำ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น 5 ยี่ห้อที่คุณเป็นเจ้าของได้
1. Sweeping Robot จากร้านค้า WXB
หุ่นยนต์ขนาด 7 นิ้ว ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติ Smart sensor, HEPA Filter และ Multiple Cleaning Mode ทำให้สามารถตรวจจับฝุ่นละออง รวมทั้งปรับโหมดการทำงานได้หลายรูปแบบนอกเหนือการดูดฝุ่น ได้แก่ โหมดถู และกวาด ซึ่งตัวเครื่องประกอบด้วยแปรงคู่กับใบพัด 6 ใบ แบตเตอรี่ขนาด 1,500 mAh ใช้งานได้ไม่เกิน 120 นาที และชาร์จนานสูงสุด 180 นาที เหมาะสำหรับการใช้งานดูดฝุ่นขนาดเล็ก อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีรังสียูวีฆ่าเชื้อแบคทีเรียระหว่างทำงานอยู่ และรองรับการใช้งานกับพื้นผิวได้หลากหลาย
2. หุ่นยนต์ดูดฝุ่น จากร้านค้า Muller
หุ่นยนต์ Muller รุ่น SR97 คุณสมบัติเฉพาะตัวของหุ่นยนต์ยี่ห้อนี้ คือ Anti-Collision และ Smart Navigation ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการกระแทกระหว่างข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน เหมาะสำหรับใช้งานดูดฝุ่นกับพื้นที่ใช้สอยไม่เกิน 90 ตารางเมตร ระยะเวลาการใช้งานสูงสุดไม่เกิน 60 นาที กับแบตเตอรี่ความจุขนาด 1,200 mAh ชาร์จแบตเตอรี่ในเวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมง มาพร้อมกับแปรง 2 ข้าง ใช้คู่กับใบพัด 3 ใบ ด้านการใช้งานรองรับกับพื้นผิวชนิด พื้นไม้, กระเบื้อง, พื้นแกรนิต,ไม้ และกระดานคอมโพสิต
3. ECOVACS รุ่น DEEBOT OZMO T8 AIVI
หุ่นยนต์ ECOVAS มาพร้อมกับฟังก์ชันออกคำสั่งเสียง กล่าวคือ คุณไม่จำเป็นต้องเสียเวลาหาหุ่นยนต์นี้ เพียงแค่พูดก็เริ่มทำงานได้ทันที แถมพ่วงด้วยเทคโนโลยี True Mapping ที่ช่วยให้คุณเห็นพื้นที่ทำงานอย่างชัดเจน ด้านแบตเตอรี่ก็ขนาดใหญ่จุใจถึง 5,200 mAh เวลาทำงานนานสูงสุด 180 นาที แต่ด้วยระยะเวลาการทำงานที่นานนี้เอง จึงทำให้ต้องใช้เวลาชาร์จ 6.5 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็มที่ 1 ครั้ง
สำหรับการทำงาน หุ่นยนต์ตัวนี้ให้มาครบ ทั้ง กวาด ดูด ถูพื้น เรียกว่าครบฟังก์ชั่นการทำความสะอาดพื้นฐานเลย นอกจากนี้หุ่นยนต์สามารถ Video Streaming ในระหว่างทำงาน ทำให้คุณเห็นมุมมองซอกหลืบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน อีกทั้งยังถูพื้นด้วยความเร็วสูงอีกด้วย
4. Samsung รุ่น VR05R5050WK/ST
หุ่นยนต์ที่สามารถควบคุมผ่านแอพพลิเคชั่น Samsung ความพิเศษของเครื่องมือชิ้นนี้ คือ เดินทางกลับจุดชาร์จเองได้เมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด ทิ้งฝุ่นได้อย่างสะดวก แสดงระบบแผนที่การทำงาน และยังปรับอัตราการไหลของน้ำในระหว่างการใช้งานด้านถูพื้นให้อยู่ในระดับเหมาะสม ส่วนคุณลักษณะด้านแบตเตอรี่มีความจุสูงถึง 3,400 mAh ใช้งานได้สูงสุดไม่เกิน 150 นาที และชาร์จนาน 240 นาที
5. Dreame Bot L10S Ultra Robot
หุ่นยนต์ราคาหลักหมื่นทั่วไปจะยังไม่มีการออกแบบระบบซักล้างหลังการใช้งาน ซึ่ง Dreame ได้ออกแบบระบบดังกล่าวที่นอกจากซักล้างแล้วยังทำให้ผ้าแห้งได้ทันทีด้วยระบบเป่าลมร้อน ทั้งยังเติมน้ำยาทำความสะอาดอัตโนมัติ ในด้านของการทำความสะอาดมาพร้อมกับผ้าม็อบจำนวน 2 ผืน ช่วยขัดถูพื้นได้ดีกว่าหุ่นยนต์ที่ไม่มีผ้าแบบนี้ ส่วนความจุแบตเตอรี่อยู่ที่ขนาด 5,200 mAh ระยะเวลาการใช้งานสูงสุดอยู่ที่ 160 – 210 นาที
วิธีการดูแลรักษา หุ่นยนต์เครื่องดูดฝุ่น
ข้อจำกัดอย่างหนึ่งของหุ่นยนต์ที่ควรรู้คือมีอายุการใช้งานค่อนข้างสั้น เฉลี่ยอยู่ที่ 1 – 3 ปี เท่านั้น ซึ่งการดูแลรักษาให้ใช้ได้นานมีหลักการดังนี้
- ดูแลรักษาแบตเตอรี่
การใช้งานแต่ละครั้งไม่ควรปล่อยให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นทำงานหนักต่อเนื่องจนเกินไป หากพื้นที่ทำความสะอาดน้อยอาจไม่จำเป็นต้องให้ทำงานเต็มเวลา ใช้งานเพียง 30 – 45 นาทีก็เพียงพอแล้ว และอย่าปล่อยให้แบตเตอรี่หมดกลางคันในระหว่างการใช้งาน เพราะแบตเตอรี่จะเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ทั้งนี้เมื่อชาร์จแบตเตอรี่แต่ละครั้ง ไม่ควรชาร์จทิ้งไว้ทั้งวัน
- แผ่นกรอง
แผ่นกรองฝุ่นเมื่อใช้เป็นระยะเวลานานโดยไม่ได้ทำความสะอาด ย่อมมีโอกาสที่เศษฝุ่น หรือขยะเข้าไปติดในเครื่องยนต์ หรือเซนเซอร์ ดังนั้นเมื่อใช้งานเสร็จทุกครั้ง ควรเอากล่องไปเทเศษฝุ่นทิ้ง มิเช่นนั้นเวลาใช้งานครั้งต่อไป หุ่นยนต์จะดูดฝุ่นได้จำนวนลดลง เพราะกล่องรวมทั้งแผ่นกรองเต็มไปด้วยฝุ่นที่ไม่ได้ทิ้งนั่นเอง
ไม่ว่าคุณจะเลือกซื้อหุ่นยนต์เครื่องดูดฝุ่นในราคาแพงหรือถูก สิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลยคือการหมั่นทำความสะอาดและดูแลรักษาให้อายุการใช้งานนาน ทั้งนี้ข้อแตกต่างของหุ่นยนต์แพงและถูกตรงที่ระบบนำทางแตกต่างกัน ซึ่งหุ่นยนต์ราคาสูงจะทำงานได้ดีกว่าในระดับหนึ่ง แต่การซื้อหุ่นยนต์ควรพิจารณาถึงความจำเป็นเสียก่อนว่าคุณอยากได้สเปคพิเศษที่ให้มาหรือไม่ มิเช่นนั้นต่อให้ซื้อหุ่นยนต์ราคาแพง ก็อาจใช้งานได้ไม่คุ้มค่า
ที่มาข้อมูล: powerbuy
Comments 1