เมนูสบายท้องยามเช้าของคนไทยคงหนีไม่พ้นปาท่องโก๋กับ น้ำเต้าหู้ อุ่น ๆ สักแก้วในวันที่ต้องเร่งรีบ กินง่าย ดื่มง่าย หาซื้อได้ตามตรอกซอกซอยทุกหัวระแหงถนน แถมยังอยู่ท้องในราคาสบาย ๆ เข้าถึงได้ทุกกลุ่มคน วันนี้เราเลยอยากจะมาชวนคุณเจาะประโยชน์ของน้ำเต้าหู้กันดูว่าที่เราดื่มกันเป็นประจำทุกเช้านี้ส่งผลต่อร่างกายอย่างไรบ้าง ตามไปดูพร้อม ๆ กันเลย
น้ำเต้าหู้ประโยชน์จากธัญพืช
แน่นอนว่าน้ำเต้าหู้นั้นทำมาจากถั่วเหลืองซึ่งเป็นธัญพืชที่มีคุณค่าทางอาหารสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรตีน ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างกล้ามเนื้อและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย เป็นโปรตีนจากพืชที่ย่อยง่ายดูดซึมง่าย
การทำน้ำเต้าหู้นั้นก็คือการนำถั่วเหลืองมาแปรรูปสกัดเป็นน้ำและแยกกาก จึงทำให้ยังคงคุณประโยชน์ต่าง ๆ ของถั่วเหลืองเอาไว้ครบถ้วน ดื่มแล้วได้ประโยชน์ไม่ต่างจากการกินถั่วเหลืองเพียว ๆ เลย
คุณประโยชน์ดี ๆ ของ น้ำเต้าหู้
- พลังงานต่ำไม่ทำให้อ้วน
น้ำเต้าหู้จำนวน 1 แก้ว ให้พลังงานต่ำเพียง 80 – 100 แคลอรี และยังให้คาร์โบไฮเดรต 4 กรัม ไขมัน 4 กรัม โปรตีน 7 กรัม นอกจากนั้นยังมีวิตามินบี 12 สูง โพแทสเซียม กรดอะมิโนกว่า 18 ชนิด ธาตุเหล็ก แคลเซียม และไอโซฟลาโวน ที่สำคัญยังมีไขมันดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกหลายชนิด เช่น โอเมก้า 3 และโอเมก้า 6
- ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
การดื่มน้ำเต้าหู้เป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมองได้ เพราะในถั่วเหลืองอุดมไปด้วยไขมันดีและไอโซฟลาโวน ช่วยลดคอเลสเตอรอลและไขมันเลวในเลือด ป้องกันการอุดตันของไขมันในหลอดเลือดหรือหลอดเลือดตีบตันได้
- เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง
โปรตีนและไอโซฟลาโวนจากน้ำเต้าหู้จะช่วยเสริมสร้างความหนาแน่นให้มวลกระดูก นอกจากนั้นยังมีไฟโตเอสโตรเจน (Phytoestrogen) ช่วยดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่กระดูกและกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะในหญิงวัยหมดประจำเดือนที่มวลกระดูกจะค่อย ๆ ลดลง การดื่มน้ำเต้าหู้เป็นประจำจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับกระดูก ช่วยป้องกันภาวะกระดูกพรุนได้
- ช่วยบำรุงผิวพรรณและบำรุงสมอง
สารไอโซฟลาโวนในน้ำเต้าหู้มีลักษณะคล้ายกับเอสโตรเจนซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิง ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งกระจ่างใส ให้ผิวเรียบเนียนละเอียดยกกระชับมีน้ำมีนวล ซึ่งนอกจากจะช่วยเรื่องผิวพรรณแล้วยังช่วยลดอาการวัยทองและอาการไม่พึงประสงค์ในช่วงมีประจำเดือน
รวมทั้งการดื่มน้ำเต้าหู้เป็นประจำช่วยบำรุงระบบประสาทและสมองได้ เพราะนอกจากจะมีวิตามินบี 12 ที่ดีต่อสมองแล้ว ยังมีเลซิติน (Lecithin) ซึ่งช่วยเสริมสร้างเซลล์ประสาทให้แข็งแรง
- ลดความดันโลหิต
การดื่มน้ำเต้าหู้เป็นประจำจากการศึกษาวิจัยพบว่า ช่วยลดค่าความดันตัวบนได้ประมาณ 4 – 8 มิลลิเมตรปรอท ส่วนค่าความดันตัวล่างลดลงประมาณ 3 – 5 มิลลิเมตรปรอท ผู้ที่ป่วยเป็นความดันโลหิตสูงแนะนำให้ดื่มน้ำเต้าหู้เป็นประจำจะช่วยควบคุมค่าความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติได้
ข้อควรระวังในการดื่มน้ำเต้าหู้
- ผู้ที่ป่วยเป็นมะเร็งเต้านมและมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก ควรระมัดระวังการดื่มน้ำเต้าหู้และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เพราะสารไอโซฟลาโวนในน้ำเต้าหู้มีลักษณะคล้ายกับเอสโตรเจนซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิงนั้นจะมีผลกระทบต่อเซลล์มะเร็งได้ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนนำมาดื่ม
- คนที่เป็นนิ่วในไต เพราะการดื่มน้ำเต้าหู้นั้นจะเพิ่มความเสี่ยงการสะสมของสารออกซาเลต (Oxalate) ซึ่งจะตกตะกอนจนกลายเป็นนิ่วได้ ดังนั้นคนที่มีปัญหาไตหรือเคยมีประวัติเป็นนิ่วในไตหรือในกระเพาะปัสสาวะ ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำเต้าหู้ในปริมาณที่มากจนเกินไป
- คนที่มีประวัติแพ้อาหารหรือมีอาการภูมิแพ้ โดยเฉพาะแพ้ถั่วจะต้องระมัดระวังการดื่มน้ำเต้าหู้ เพราะอาจจะเกิดการแพ้ถั่วเหลืองขึ้นมาได้
- ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ที่ดื่มน้ำเต้าหู้แบบไม่มีน้ำตาลเพียงอย่างเดียวโดยไม่รับประทานอาหารอื่น ๆ อาจทำให้เสี่ยงต่อภาวะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำได้ ดังนั้นคนที่เป็นเบาหวานแล้วรับประทานยาหรือฉีดอินซูลินอาจจะต้องหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำเต้าหู้สูตรหวานน้อยหรือน้ำเต้าหู้แบบไม่ใส่น้ำตาลในปริมาณที่มากเกินไป
- การดื่มน้ำเต้าหู้ที่ใส่น้ำตาลคู่กับปาท่องโก๋ทอดบ่อย ๆ จะเสี่ยงทำให้เกิดภาวะอ้วนได้ง่าย เพราะน้ำตาลและไขมันจากการทอดนั้นให้พลังงานสูง จะทำให้ได้รับพลังงานแคลอรีเกินกว่าความต้องการของร่างกาย และยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ อย่างไขมัน เบาหวาน และความดันโลหิตสูงตามมาได้
- การดื่มน้ำเต้าหู้นั้นอาจจะกระทบกับต่อมไทรอยด์ได้ เพราะน้ำเต้าหู้จะส่งผลต่อการปิดไอโอดีนซึ่งเป็นสารสำคัญของฮอร์โมนไทรอยด์ ส่งผลให้ฮอร์โมนไทรอยด์แปรปรวน เกิดความรู้สึกอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร และเกิดความเครียดขึ้นได้ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยโรคไทรอยด์อยู่แล้วควรระมัดระวังในการดื่มน้ำเต้าหู้หรือแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนนำมาดื่ม
จบไปแล้วกับสาระดี ๆ ของ น้ำเต้าหู้ เป็นอย่างไรกันบ้าง หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่รักสุขภาพทุกท่าน รู้อย่างนี้แล้วก็อย่าลังเลที่จะดื่มน้ำเต้าหู้เป็นประจำในทุก ๆ วัน แนะนำว่าให้เลือกดื่มน้ำเต้าหู้สูตรออแกนิกไม่ปรุงแต่งรส ที่สำคัญควรดื่มแบบหวานน้อย ไม่เช่นนั้นแทนที่จะดีต่อสุขภาพอาจจะทำให้เกิดโรคอ้วนและเบาหวานตามมาได้
ที่มาข้อมูล: sanook , hellokhunmor , GOURMET&CUISINE , POBPAD