ช่วงนี้ใครที่รีบปั่นงานมาดูซีรีส์เกาหลีที่ค้างไว้ยาว ๆ จนทนไม่ไหวกับอาหารเกาหลีที่นอกจากจะอินกับรามยอนไปแล้ว อีกหนึ่งเมนูที่คอซีรีส์ต้องไม่พลาดนั่นก็คือ ต๊อกบกกี ที่ถึงแม้ว่าตัวยังอยู่ไทย เราก็สามารถฟินไปกับเมนูนี้ได้เหมือนไปยืนกินตามรถขายอาหารที่เกาหลีได้เหมือนกัน
ก่อนหน้านี้หลายคนคงอาจจะเคยอยากทำเมนูนี้กินเองแต่กลัวว่ารสชาติจะไม่ถูกใจ หรือบางคนเคยทำแล้วแต่หน้าตา สีสัน ดูไม่ค่อยอินหรือไม่เหมือนกับที่เห็นในซีรีส์เท่าไร บทความนี้จึงขอแนะนำสูตรลับในการทำเมนูต๊อกแสนอร่อยที่เหมือนบินไปกินที่เกาหลีเลยทีเดียว
แชร์สูตรเด็ดเมนู ให้เหมือนคนเกาหลีมาทำเอง
โดยมีรายละเอียดและขั้นตอน ดังนี้
- เริ่มต้นจากการนำแป้งต๊อกมาแช่ในน้ำแล้วทิ้งไว้สักพักเพื่อให้แป้งต๊อกมีความนิ่ม เคล็ดลับของขั้นตอนนี้คือควรแช่น้ำทิ้งไว้จนแป้งต๊อกนิ่มแต่ไม่นิ่มมากเกินไป เพราะหากปล่อยให้แป้งต๊อกนิ่มมากเกินไปแล้ว เมื่อนำไปปรุงในขั้นตอนถัดไปอาจทำให้แป้งต๊อกนั้นนิ่มจนเกินพอดี
- เคล็ดลับของขั้นตอนนี้คือการหั่นส่วนประกอบ เช่น หั่นลูกชิ้นปลา หั่นออมุกตามแนวยาว หรือใครที่ชอบกินไส้กรอกอาจจะใส่เป็นไส้กรอกแทนก็ได้ ในการหั่นควรหั่นให้มีชิ้นปานกลางจนถึงใหญ่ จะเพิ่มความน่ากินมากยิ่งขึ้น
- ทำซอส Teokbokki โดยการนำพริกป่นมาร่อนบนตะแกรงเพื่อให้ได้พริกที่มีความละเอียดมากขึ้น เติมน้ำตาลทรายหรือน้ำเชื่อม ผงปรุงรส แล้วตามด้วยโคชูจัง จากนั้นเติมน้ำลงไปนิดหน่อยแล้วผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน เคล็ดลับของขั้นตอนนี้ที่หลายคนมักชอบลืมกันนั่นก็คือการทำให้พริกป่นมีความละเอียด ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ตัวน้ำซุปของเมนูนี้มีความเข้ากันเป็นเนื้อเดียวและทำให้หน้าตาของอาหารเหมือนของต้นตำรับมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งหากใครไม่อยากเสียเวลามาร่อนพริกป่นด้วยตนเอง อาจหาซื้อพริกป่นบดละเอียดที่เป็นแบบสำเร็จรูปมาใช้แทนก็ได้
- ต้มไข่ 1 – 2 ฟอง แล้วปอกไข่เตรียมไว้ โดยความสุกของไข่นั้นสามารถปรับได้ตามความชอบของแต่ละคน แต่หากจะให้เหมือนกับต้นตำรับ นิยมต้มเป็นไข่สุก ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับแต่ละคน โดยเคล็ดลับของขั้นตอนนี้คือ ควรต้มไข่ให้สุกน้อยถึงปานกลาง เพราะไข่จะสุกเพิ่มขึ้นจนพอดีในขั้นตอนที่ใส่ไข่ลงในกระทะอีกครั้ง
- ตั้งกระทะ จากนั้นใส่น้ำและซอส Teokbokki ที่ผสมเอาไว้แล้ว ละลายซอสให้คลุกเคล้ากันดี แล้วคนส่วนผสมในกระทะไปเรื่อย ๆ ด้วยไฟปานกลาง
- ใส่แป้งต๊อกลงในกระทะเมื่อน้ำเดือด ทิ้งไว้สักพักให้แป้งเริ่มสุก ซึ่งระหว่างที่ทิ้งไว้นั้นก็ยังคนให้ส่วนประกอบเข้ากันเรื่อย ๆ และให้แป้งต๊อกกับซอส Teokbokki มีรสชาติเข้าเนื้อกันมากขึ้น
- เติมออมุกที่หั่นไว้แล้ว เต้าหู้ทอด หรือลูกชิ้นปลาตามใจชอบลงไปในกระทะ จากนั้นคนให้เข้ากันแล้วทิ้งไว้สักพัก ให้คอยคนกระทะอยู่เรื่อย ๆ เพื่อให้รสชาติเข้ากันและให้ส่วนประกอบสุกทั่วกัน เคล็ดลับของขั้นตอนนี้อยู่ที่การเลือกส่วนประกอบที่นำมาใส่เพิ่ม ควรเลือกส่วนประกอบที่ไม่มีรสชาติของตัวเองหรือมีรสชาติของส่วนผสมนั้นน้อย เพื่อคงให้รสชาติโดยรวมของเมนูไม่ถูกเปลี่ยนแปลงไป
- ใช้ไฟปานกลาง คอยคนและดูกระทะอยู่เรื่อย ๆ ไม่ให้น้ำแห้ง หากน้ำเริ่มแห้งให้เติมน้ำลงไปเล็กน้อย ซึ่งขั้นตอนนี้ถือเป็นขั้นตอนที่ส่งผลต่อความเข้มข้นของตัวน้ำซุป โดยเคล็ดลับของขั้นตอนนี้อยู่ที่ปริมาณน้ำที่เติมเพิ่มลงไปควรมีความเหมาะสมกับสัดส่วนของตัวซอสที่ทำไว้ก่อนหน้า เพื่อไม่ให้น้ำซุปเจือจางจนเกินไปซึ่งจะทำให้รสชาติไม่เข้าเนื้อกับตัวแป้งต๊อก
- รอจนส่วนประกอบทุกอย่างสุก แล้วจึงใส่ไข่ต้มที่ปอกเปลือกไว้แล้วลงไป
- ใส่หอมซอย ตามความชอบของตนเองหรือผู้รับประทานเพื่อเพิ่มรสชาติความอร่อย
- คลุกเคล้าให้เข้ากันเป็นอันเสร็จเรียบร้อย นอกจากนี้อาจโรยงาคั่วเพิ่มเติมก่อนเสิร์ฟก็ได้
สรุปสูตร ต๊อกบกกี ฉบับต้นตำหรับเกาหลี
ส่วนประกอบในสูตรอาหารต๊อกบกกี ประกอบด้วย แป้งต๊อก ซอสโคชูจัง พริกป่น น้ำตาลทราย ผงปรุงรส น้ำเชื่อม ออมุก (อาจเพิ่มหรือเปลี่ยนเป็นลูกชิ้นปลา เต้าหู้ทอด ฯลฯ) ต้นหอม งาคั่ว ไข่ต้ม น้ำเปล่า และอาจมีส่วนประกอบอื่น ๆ เพิ่มเติมที่สามารถปรับได้ตามความชอบของแต่ละคน หรือใครที่ไม่มีเวลาเตรียมซอสเองอาจหาซื้อเป็นเซตต๊อกบกกี ที่เพิ่มความสะดวกและลดระยะเวลาในการเตรียมส่วนประกอบต่าง ๆ ไปได้มากเลยเช่นกัน โดยส่วนใหญ่Teokbokkiset มักประกอบไปด้วย แป้งต๊อก ซอสต๊อกสำเร็จรูป และออมุก ซึ่งหากต้องการเติมส่วนประกอบอื่น ๆ เพิ่มเติมก็สามารถนำมาเพิ่มเติมได้ตามสไตล์ของแต่ละคน
ถือว่าไม่ยากจนเกินไปกับสูตรลับอาหารเกาหลีที่อร่อยไม่แพ้ต้นตำรับ เพียงทำตามสูตรที่แนะนำข้างต้นก็จะได้เมนูที่เหมือนคนเกาหลีมาทำเองได้ง่าย ๆ ที่บ้านแล้ว สำหรับใครที่กำลังหาวัตถุดิบในการทำเมนูนี้สามารถเข้าไปเลือกซื้อได้ที่ลาซาด้า โดยอาจเพิ่มความเผ็ดจัดจ้านให้เหมาะสมกับความชอบของคนไทยมากขึ้นด้วยการใส่ซอสโคชูจังเพิ่มตามใจชอบ