คนยุคปัจจุบันใช้สายตาจ้องจอกันมากขึ้น ทั้งจอใหญ่อย่างคอมพิวเตอร์หรือจอเล็กอย่างมือถือสมาร์ทโฟน ในหนึ่งวันมีสถิติว่าคนใช้เวลาอยู่หน้าจอนาน 8 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น นี่เป็นสาเหตุหลักทำให้คนต้องเผชิญกับอาการ ตาล้า จากการจ้องจอทุกวัน
สาเหตุของ อาการตาล้า
นอกเหนือจากการจ้องจอเป็นเวลานานอย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้นแล้ว อาการตาล้ายังเกิดได้จากการอ่านหนังสือเป็นเวลานาน ใช้สายตาในที่แสงสว่างจ้ามาก หรือใช้สายตาในที่มืด กิจกรรมเหล่านี้ล้วนทำให้ดวงตาต้องเผชิญกับการทำงานหนักต่อเนื่องทำให้เกิดภาวะตาล้าได้ นอกจากนั้นการเหนื่อยสะสมหรือความเครียดก็ทำให้เกิดภาวะตาล้าได้เช่นกัน
หากมีอาการตาล้าที่เกิดจากการจ้องจอนาน ๆ ภาษาอังกฤษเรียกว่า Computer Vision Syndrome จะมีอาการคือ ตาแห้ง ตาไวต่อแสง มีน้ำตาคลอ มองภาพมัว เห็นไม่ชัดหรือเห็นเป็นภาพซ้อน ปวดตา คันตา แสบตา ปวดศีรษะ และปวดคอ
เคล็ดลับบรรเทาอาการ ตาล้า
หากเริ่มมีอาการตาล้าหรืออาการใกล้เคียง โดยมีกิจกรรมที่ใช้สายตามากให้เพิ่มความระมัดระวังในการใช้สายตาให้มากขึ้น เพราะเป็นสัญญาณเตือนจากร่างกายว่าต้องมีการพักสายตาแล้ว หากไม่พักยังคงใช้สายตาไม่ระวัง อาการอาจมากขึ้นและเลยไปถึงขั้นเป็นโรคทางสายตาที่รุนแรงและรักษายาก สำหรับเคล็ดลับบรรเทาอาการตาล้ามีดังนี้
- เปิดไฟให้สว่าง หรือทำกิจกรรมในห้องหรือสถานที่ที่มีแสงสว่างทั่วถึงและเพียงพอ เช่น หากทำงานหรืออ่านหนังสือให้มั่นใจว่าห้องไม่มืดเกินไป แสงสว่างมากหรือน้อยไปก็ไม่ดีต่อสายตาทั้งนั้น
- หลีกเลี่ยงการจ้องจอในที่มืด หลายคนชอบดูทีวีโดยปิดไฟในห้องมืดสนิทเพราะเชื่อว่าทำให้เห็นภาพบนจอชัดกว่า ที่จริงแล้วทำแบบนั้นไม่ดีต่อสายตา ทำให้ดวงตาเราทำงานหนักขึ้น ต้องเพ่งดูจอในที่มืด เช่นเดียวกันหลายคนชอบนอนดูมือถือบนเตียงหลังปิดไฟแล้ว บางทีคิดว่าแค่ไม่นานแต่เอาเข้าจริงก็ใช้เวลานานเป็นชั่วโมงซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อสายตา หากจำเป็นให้เปิดไฟสลัวไว้สักเล็กน้อยก็ยังดีกว่ามืดสนิท
- ควรพักสายตาจากจอบ้าง คนส่วนใหญ่จ้องจอแทบตลอดทั้งวันแบบไม่ได้พักสายตาเลยทำให้ดวงตาทำงานหนักมาก ทั้งแสงจากจอ การจ้องโดยไม่ได้กรอกลูกตา หรือไม่ได้มองในระยะใกล้ไกลบ้าง ล้วนทำให้เกิดอาการตาล้าได้ทั้งนั้น วิธีคือต้องพักหรือละสายตาจากจอคอมพิวเตอร์ ทีวี หรือมือถือบ้าง โดยทุก 15 นาที ให้ละจากจอ ลุกเดินขยับร่างกายไปไหนสักเล็กน้อยแล้วค่อยกลับมาจ้องจอต่อ หากลุกไม่ได้จริง ๆ เช่น มีงานด่วน อย่างน้อยควรละสายตาจากจอ มองไปรอบ ๆ ห้อง มองระยะไกลออกนอกหน้าต่าง มองไปที่สีเขียว เช่น สนามหญ้า หรือหลับตาพักสักครู่ ทุก 1 ชั่วโมงต้องพักอย่างน้อย 5 นาที
- กระพริบตาบ่อย ๆ การจ้องจอนาน ๆ ทำให้ตาแข็งและลืมกระพริบตา ผลคือตาจะแห้งและล้า ต้องไม่ลืมกระพริบตาถี่ให้บ่อย เรียกว่าอย่าเผลอ ต้องบังคับตัวเองให้กระพริบตาเป็นระยะ ๆ ทุกครั้งที่กระพริบตา ดวงตาจะผลิตน้ำตาช่วยหล่อเลี้ยงให้นัยน์ตาชุ่มชื้นไม่แห้ง
- ใช้น้ำตาเทียมช่วย ถ้ามีอาการตาแห้งมาก ๆ กระพริบตาก็ไม่ช่วยแล้ว ต้องใช้น้ำตาเทียมช่วยโดยหยดลงบนดวงตาทั้งสองข้าง ข้างละ 2 – 3 หยด จากนั้นกระพริบตาถี่ ๆ จะทำให้ดวงตาชุ่มชื้นขึ้น
- บริหารดวงตา ใช้ท่าบริหารดวงตาพื้นฐาน เช่น กรอกลูกตาไปมา บน ล่าง ซ้าย ขวา และหมุนวนดวงตา สลับซ้ายขวา ขวาซ้าย เป็นการบริหารดวงตาจากการจ้องจอทุกวัน ถ้าจะให้เปรียบดวงตาก็เหมือนอวัยวะอื่น ต้องบริหารหรือออกกำลังกายเคลื่อนไหวเพื่อให้ใช้งานได้ดีอยู่เสมอ
- ใช้ผ้าชุบน้ำประคบดวงตา เป็นเทคนิคประคบเย็นประคบร้อนเพื่อลดอาการปวดตา การประคบเย็นช่วยให้หลอดเลือดในดวงตาหดตัว ส่วนการประคบอุ่นช่วยให้กล้ามเนื้อดวงตาผ่อนคลาย ประคบสลับเย็นกับอุ่นช่วยให้เลือดไหลเวียนดี ช่วยบรรเทาอาการปวดตาและตาล้าได้ดี
- ตรวจสอบอุปกรณ์ที่ใช้กับดวงตา ให้ตรวจสอบแว่นสายตาหรือคอนแทคเลนส์ว่ายังเหมาะสมกับสายตาของเราหรือไม่ โดยให้ตรวจวัดสายตาเป็นประจำ หากสายตาสั้นขึ้น ยาวขึ้น หรือเอียงมากขึ้นต้องตัดแว่นหรือเปลี่ยนคอนแทคเลนส์ใหม่ให้เหมาะสม การใช้อุปกรณ์ที่ไม่เหมาะกับสายตาทำให้สายตาต้องทำงานหนักเกิดอาการตาล้าได้เหมือนกัน
- รับประทานอาหารบำรุงสายตา ให้เลือกรับประทานอาหารหรือวิตามินที่มีประโยชน์ในการบำรุงสายตาโดยเฉพาะ ช่วยบรรเทาอาการตาล้าได้ เช่น อาหารที่มีเบต้าแคโรทีน แคร์รอต ฟักทอง มะละกอ ตำลึง ผักบุ้ง หรือทานวิตามินเอเป็นวิตามินเสริมเพื่อบำรุงสายตาโดยเฉพาะ
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ในช่วงที่มีอาการตาล้าให้นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เป็นการพักสายตาระยะยาวจากหน้าจอ ให้มั่นใจว่าเรานอนหลับเพียงพอในตอนกลางคืนเพื่อลดอาการปวดตาตาล้าในระหว่างวัน
- พบจักษุแพทย์เพื่อตรวจตา หากอาการตาล้าเป็นมากและมีอาการปวดตารุนแรง แนะนำให้ปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อรับการตรวจอย่างเหมาะสม จักษุแพทย์อาจแนะนำให้ใช้อุปกรณ์ เช่น แว่นตัดแสง สวมใส่เมื่อใช้จอ หรือแนะนำท่ากายบริหารสำหรับดวงตาที่เหมาะสม การพบจักษุแพทย์มีข้อดีคือได้รับการตรวจโดยละเอียด หากดวงตามีอาการอะไรที่รุนแรงจะได้รับการรักษาที่ทันท่วงที
ดวงตาเป็นอวัยวะที่สำคัญ เราต้องไม่ละเลยในการ บำรุงสายตา ยิ่งเราใช้สายตาจ้องจอมากเท่าไร เรายิ่งต้องถนอมสายตาไปด้วยมากขึ้นเท่านั้น เพื่อให้ดวงตาคู่สวยอยู่กับเราไปนาน ๆ สำหรับผู้ที่กำลังมองหาอาหารเสริมบำรุงสายตาสามารถเข้าไปเลือกช้อปกันได้ง่าย ๆ ที่ Lazada
ที่มาข้อมูล: blackmores , posttoday , trsclasik , muangthaiinsurance