การบำรุงผิวเป็นกิจวัตรอย่างหนึ่งที่เราต้องทำเป็นประจำทุกวัน เพื่อดูแลผิวให้เนียนสวยสุขภาพดีอยู่เสมอ ซึ่งบางคนอาจจะแค่ทาครีมอย่างเดียว บางคนอาจจะใช้หลายอย่าง เช่น โทนเนอร์ เอสเซนส์ เซรั่ม ครีมบำรุง ครีมทารอบดวงตา ที่เชื่อว่าทาแล้วจะทำให้จบปัญหาผิวได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นปัญหาผิวหมองคล้ำ ฝ้า กระ รอยดำจากสิว ผิวแห้งกร้านขาดน้ำไม่เนียนนุ่ม แต่ทราบหรือไม่ว่านอกจากสกินแคร์ต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้นแล้วยังมีสกินแคร์อีกหนึ่งตัวที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่าสามารถช่วยแก้ปัญหาผิวได้ดีมากเช่นกัน ซึ่งก็คือ Ampoule นั่นเองค่ะ ทุกคนอาจจะสงสัยว่ามันคืออะไร ช่วยอะไรได้บ้าง จำเป็นต้องใช้หรือไม่ แล้วจะลงตอนไหนอย่างไร วันนี้เราจะพาไปเจาะลึกหาคำตอบแบบชัดจบครบทุกประเด็นจนทุกคนหายสงสัย ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันได้เลย
Ampoule คืออะไร แตกต่างจากสกินแคร์อื่น ๆ อย่างไร?
แอมพูลเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวชนิดหนึ่ง เนื้อสัมผัสมีลักษณะคล้ายกับเซรั่มหรือเอสเซนส์ แต่จะมีความแตกต่างกันเล็กน้อยคือเนื้อจะมีความเหลวแต่ไม่ใส มีความข้นนิด ๆ ทาแล้วสามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ไว ไม่หนักผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะ มักจะบรรจุมาในขวดพร้อมหลอดบีบหรือบางยี่ห้อจะมาในรูปแบบแคปซูลสำหรับใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง
สารสำคัญต่าง ๆ ที่ใส่มาจะมีความเข้มข้นสูงมาก ถ้าให้เปรียบเทียบง่าย ๆ จะเรียกว่าเป็นเซรั่มที่มีเข้มข้นสูงเป็นพิเศษก็ว่าได้ ทำให้มีประสิทธิภาพในการออกฤทธิ์ได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด เห็นผลไว จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการฟื้นฟูและบำรุงผิวอย่างเร่งด่วน ส่วนจะฟื้นฟูในด้านไหนนั้นสามารถเลือกสูตรได้ตามต้องการเลยค่ะ เพราะปัจจุบันนี้มีออกมาครอบคลุมแทบทุกปัญหาผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวที่แห้งกร้านขาดความชุ่มชื้น ผิวเหี่ยวย่นมีริ้วรอย ผิวเป็นสิว ผิวหมองคล้ำไม่สดใส มีฝ้า กระ จุดด่างดำ เป็นต้น
ใครที่ยังไม่เคยใช้และกำลังลังเลอยู่ว่าจะซื้อดีไหม? จำเป็นหรือเปล่า? ก็ต้องลองสำรวจดูว่าสกินแคร์ที่เราใช้อยู่นั้นเพียงพอและตอบโจทย์ความต้องการของผิวหรือยัง ถ้ารู้สึกว่าผิวหน้ายังมีปัญหาและต้องการตัวช่วยที่เห็นผลไวมากขึ้นหรือลองใช้สกินแคร์ตัวอื่น ๆ แล้วยังไม่ค่อยได้ผล อยากจะเพิ่มการบำรุงผิวแบบจัดเต็มสามารถซื้อมาใช้เสริมควบคู่กับสกินแคร์เดิมได้เลยค่ะ
ใช้ แอมพูล อย่างไรให้หน้าใสผิวสวย
ด้วยความที่เนื้อสัมผัสคล้ายกับเซรั่มอีกทั้งคุณสมบัติก็ดูจะใกล้เคียงกันทำให้หลายคนสงสัยว่า แล้วเซรั่มยังจำเป็นอยู่ไหม? อันนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาพผิวและเงินในกระเป๋าของแต่ละคนเลยค่ะ ซึ่งสามารถเลือกใช้ได้หลายแบบ ดังนี้
- ใช้อย่างเดียว สำหรับคนที่ผิวหน้าไม่ได้มีปัญหามากนัก สามารถเลือกใช้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยเลือกใช้ตัวที่มีความเข้มข้นสูงกว่า จะสะดวกและประหยัดเวลาได้มากกว่า ขวดเดียวจบ แถมประหยัดงบไม่ต้องซื้อสกินแคร์หลายตัวอีกด้วย
- ใช้ควบคู่กัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวและไม่ติดเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะสกินแคร์บางยี่ห้อราคาสูงเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน แต่จะช่วยบำรุงผิวได้แบบคูณสองและให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น ขอแนะนำว่าไม่ควรใช้สูตรเดียวกัน เช่น เน้นเรื่องความกระจ่างใสเพียงอย่างเดียว เพราะส่วนผสมทั้งหมดที่เพิ่มทวีคูณอาจจะแรงเกินไปสำหรับผิวหน้าทำให้เกิดการระคายเคืองได้ ลองใช้ควบคู่กับสูตรอื่น เช่น เพิ่มความชุ่มชื้น จะดีกว่า
- ใช้สลับกัน โดยสามารถเลือกใช้เซรั่มเป็นหลักทาเป็นประจำทุกวันแล้วเพิ่มความเข้มข้นเป็นพิเศษเฉพาะในช่วงที่รู้สึกว่าผิวแห้งขาดน้ำมาก หน้าโทรมสุด ๆ ผิวเสียไม่ไหว ต้องการกู้ผิวแบบเร่งด่วน หรือใช้แค่เวลาอยากบูสต์ผิวให้สวยใสเป็นพิเศษในงานสำคัญ
วิธีการลง Ampoule บนใบหน้า
ในส่วนของวิธีการใช้นั้นเหมือนกับเซรั่มทุกประการ เพียงหยดลงบนใบหน้าหรือมือครั้งละ 3 – 4 หยด เกลี่ยให้ทั่วแล้วนวดเบา ๆ จนซึมไปกับผิว ส่วนขั้นตอนในการลงจะมีด้วยกัน 2 แบบ คือ ลงตามลำดับและผสมกับสกินแคร์ตัวอื่น
- ทาตามลำดับความหนักของเนื้อสัมผัส โดยเริ่มจากการทำความสะอาดผิวหน้าให้เรียบร้อย จากนั้นปรับสภาพผิวด้วยโทนเนอร์ให้พร้อมรับการบำรุง แล้วจึงตามด้วยเอสเซนส์ แอมพูล เซรั่ม ครีมหรือมอยส์เจอไรเซอร์ ที่สำคัญถ้าเป็นตอนเช้าหรือกลางวันอย่าลืมปิดท้ายด้วยการทาครีมกันแดด ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ทั้งหมด บางคนอาจจะไม่ใช้เอสเซนส์หรือเซรั่มก็ได้
- หยดลงไปผสมกับสกินแคร์อื่น ไม่ว่าจะเป็น ครีม โลชั่น มอยส์เจอไรเซอร์ หรือรองพื้น วิธีนี้จะช่วยประหยัดเวลา แถมยังช่วยให้เนื้อสัมผัสของมอยส์เจอไรเซอร์และรองพื้นที่ค่อนข้างหนักและหนืดมีความเหลวมากขึ้น เกลี่ยไปบนผิวได้ง่าย ซึมเข้าสู่ผิวได้ไว ให้ผลลัพธ์เป็นผิวที่โกลว์สวยดูชุ่มฉ่ำอิ่มน้ำสุขภาพดี เหมาะมากสำหรับคนที่มีผิวแห้ง แต่งหน้าไม่ค่อยติด ลองนำไปใช้กันดูนะคะ
ผิวสวยสุขภาพดีคงไม่สามารถเนรมิตขึ้นได้ทันทีในหนึ่งวันหรือหนึ่งสัปดาห์ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นสกินแคร์ชนิดไหน แบรนด์อะไร ก็ต้องอาศัยเวลา หมั่นใช้เป็นประจำและใช้อย่างถูกวิธีต้อง เลือกให้เหมาะกับสภาพผิวและปัญหาผิวเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และนอกจากการบำรุงภายนอกแล้วก็อย่าลืมบำรุงภายในควบคู่กัน ด้วยการดูแลตัวเองในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย ดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจให้เบิกบานแจ่มใส ไม่เครียด รับรองว่าไม่นานผิวจะสวยใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
และสำหรับใครที่อ่านบทความนี้จบแล้วอยากหาไอเทมดี ๆ มาลองใช้กันบ้าง แต่ไม่รู้ว่าควรจะเลือกซื้อได้จากที่ไหนและยี่ห้อไหนดี แนะนำว่าให้ลองเข้ามาช้อปสินค้าที่ Lazada มีสกินแคร์ประเภทต่าง ๆ หลากหลายยี่ห้อให้เลือกและยังสามารถอ่านรีวิวจากผู้ใช้จริงด้านล่างสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อได้อีกด้วย
ที่มาข้อมูล: cosmenet , thebeautrium