ฟรีซดราย หรือ Freeze Dry คือ เทคโนโลยีการถนอมอาหารและการแปรรูปเพื่อให้สามารถจัดเก็บอาหารไว้ได้นาน โดยที่ยังคงรักษาคุณค่าทางอาหารไว้ได้มากกว่า 95% ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวถูกคิดค้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อลดปัญหาการขนส่งที่ใช้ระยะเวลานานจนทำให้ยาและวัคซีนเสื่อมคุณภาพ
ต่อมามีการพัฒนาเทคโนโลยีการฟรีซดราย เพื่อให้สามารถนำไปใช้กับอุตสาหกรรมอื่น ๆ ได้ เช่น อุตสาหกรรมอาหารที่มีการแปรรูปและฟรีซในส่วนของอาหารสำหรับนักบินอวกาศโดยองค์การนาซา (NASA) เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในอวกาศในระยะเวลาที่ยาวนานได้ โดยได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน
กระบวนการฟรีซดราย
คือ การกำจัดน้ำและความชื้นในอาหารด้วยวิธีการแช่แข็งที่อุณหภูมิ – 40 ถึง 50 องศาเซลเซียส จากนั้นจะเริ่มดูดอากาศและความชื้นออกให้หมด เพื่อให้เกิดสุญญากาศพร้อมกับลดความดันให้ต่ำลง เพื่อควบคุมให้จุดเดือดของน้ำต่ำกว่าค่าปกติ
เมื่ออุณหภูมิและความดันค่อย ๆ ลดต่ำลง อุณหภูมิของอาหารสูงขึ้น ผลึกน้ำแข็งที่เกาะอยู่จะค่อย ๆ ระเหิดกลายเป็นไอ ทำให้น้ำและความชื้นในอาหารออกไปหมด โดยไม่ต้องอาศัยความร้อน
จึงทำให้รักษาคุณค่าสารอาหารทั้งรสชาติ กลิ่น และสีได้ดีที่สุด ทำให้เก็บรักษาอาหารในสภาวะอุณหภูมิปกติได้นาน 15-25 ปี ทำให้สามารถนำอาหารที่ผ่านกระบวนการ ฟรีซดราย มาผสมน้ำให้กลับเป็นอาหารสด แล้วนำกลับมาปรุงเป็นอาหารได้
ข้อดีของการทำอาหาร ฟรีซดราย
ปัจจุบันแม้จะมีวิธีการแปรรูปและถนอมอาหารหลากหลายแบบ แต่ถึงกระนั้นการถนอมอาหารแบบเดิม ๆ เมื่อเก็บไว้ในระยะเวลาที่ยาวนานจะทำให้รสชาติของอาหารเปลี่ยน มีกลิ่นผิดเพี้ยน จนบางครั้งกลายเป็นอาหารเสีย อาหารบูด ทำให้เสียคุณค่าทางอาหารในที่สุด
เช่น การถนอมอาหารไว้กินในฤดูหนาวหรือฤดูกาลที่มิใช่ผลผลิตเพื่อสร้างมูลค่าให้เพิ่มมากขึ้น เช่น มะม่วง ทุเรียน คงไม่มีใครเอาทุเรียนมาขายในช่วงเดือนพฤศจิกายน – เดือนธันวาคมอย่างแน่นอน จะมีก็แต่ทุเรียนกวน มะม่วงกวน คงไม่สามารถนำมาทำเป็นเมนูข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวทุเรียนได้
แต่ด้วยเทคโนโลยีดังกล่าวทำให้เกษตรกรสามารถแช่แข็งทุเรียนด้วยวิธีการ Freeze Dry นำออกมาจำหน่ายในช่วงฤดูกาลต่าง ๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าของทุเรียนได้ ด้วยเทคโนโลยีดังกล่าวยังช่วยแก้ไขปัญหาในช่วงที่สินค้าทางการเกษตรมีผลผลิตล้นตลาดจนเป็นสาเหตุให้ราคาตกต่ำลงได้
- ช่วยกำจัดจุลินทรีย์ที่ไม่พึงประสงค์
- คุณค่าทางอาหาร รสชาติ กลิ่น สี และเนื้อสัมผัส มีโครงสร้างคงเดิม
- น้ำหนักเบา ช่วยลดต้นทุนในการขนส่ง
- สามารถคืนตัวได้ เพียงแช่ในน้ำ
- เก็บรักษาได้นาน 15 – 25 ปี
อาหารใดบ้างที่นิยมนำมาฟรีซดราย
หากจะดูการทำอาหาร ฟรีซดราย ที่เป็นต้นแบบและมีการพัฒนาวิธีการทำอาหารฟรีซดรายมาอย่างต่อเนื่องคงต้องยกให้ประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นซุปต่าง ๆ ข้าวแกงกะหรี่ รวมไปถึงผัก ผลไม้ และอาหารขบเคี้ยวต่าง ๆ ถูกนำมาแปรรูปและคงไว้ในรูปแบบฟรีซดรายเพื่อการบริโภคในประเทศและส่งออก
เพราะการถนอมอาหารด้วยวิธีการดังกล่าวเป็นการรักษาสารอาหารเอาไว้ได้มากกว่ากรรมวิธีการอื่น ๆ จึงทำให้อุตสาหกรรมฟรีซดรายในประเทศญี่ปุ่นเติบโตมาก
ซึ่งในประเทศไทยเองได้มีการนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาปรับใช้นานแล้วแต่หลายคนอาจไม่รู้ว่าเป็นเทคโนโลยีการฟรีซดราย นั่นคืออาหารในรูปแบบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพร้อมทานในรูปแบบคัพนูดเดิ้ลหรือบะหมี่ถ้วยนั่นเอง หากใครที่เคยกินจะเห็นเนื้อหมู ผัก แครอต ใส่ซองเป็นเครื่องเคียงให้กินพร้อมกับบะหมี่ ซึ่งอาหารเหล่านี้ผ่านการฟรีซดรายมาแล้วทั้งสิ้น แค่เติมน้ำร้อน รอให้อาหารดูดซับน้ำ เพียงเท่านี้ก็สามารถรับประทานอาหารที่มีสารอาหารมาให้ครบถ้วนแล้ว
ปัจจุบันจะเห็นอาหารฟรีซดรายเพิ่มมากขึ้นตามร้านสะดวกซื้อ ในรูปแบบอาหารแช่แข็ง เช่น สปาเก็ตตี้, ข้าวต้ม, ลาบ, ข้าวผัดกระเพรา, ข้าวสวยพร้อมรับประทาน, แกงเขียวหวาน, ผัดพริกแกง, บะหมี่, เกี๊ยวน้ำ และอื่น ๆ อีกมาก เท่านั้นยังไม่พอยังมีการนำวิธีการฟรีซดรายไปใช้กับผักผลไม้เพื่อเป็นขนมทานเล่นและให้คนที่ไม่ชอบทานผักสามารถรับประทานผักในรูปแบบอบแห้งได้ โดยที่สารอาหารและประโยชน์ต่าง ๆ อยู่ครบ
สารอาหารและประโยชน์ต่าง ๆ จะหายไปหรือไม่?
ด้วยกรรมวิธีการFreeze Dryที่ผ่านการวิจัยและมีหลายหน่วยงานในต่างประเทศให้การยอมรับ จึงมั่นใจว่าผัก ผลไม้ และอาหารที่ผ่านการฟรีซดรายมีสารอาหารและคุณประโยชน์ครบถ้วน เหมือนเมื่อครั้งยังสดและไม่ได้แปรรูป เพียงแต่การรับประทานต้องอยู่ภายใต้โภชนาการที่ดีและถูกต้อง เช่น การรับประทานผักและผลไม้สดวันละ 400 กรัม จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ได้
แต่ด้วยการฟรีซดรายทำให้น้ำหนักของผักผลไม้หายไปถึง 10 เท่า ดังนั้นจึงควรรับประทานไม่เกิน 40 กรัม พร้อมกับดื่มน้ำให้เพียงพอ นอกจากนี้ควรรับประทานผักผลไม้ให้หลากหลาย อย่าเลือกที่จะรับประทานเพียงอย่างหนึ่งอย่างใด มิเช่นนั้นก็จะทำให้ได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วนเช่นกัน
ข้อควรระวังสำหรับผลไม้ที่ให้ความหวานและพลังงานมากโดยเฉพาะทุเรียนและขนุน จะต้องรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม ด้วยความอร่อยและความเพลินประกอบกับอาหารอบแห้งทำให้มีน้ำหนักเบา จึงอาจทานเกินความพอดีจนทำให้น้ำตาลในเลือดขึ้นสูงได้
สำหรับใครที่มีปัญหาในการกินผักโดยเฉพาะผักใบเขียว สามารถที่จะหาผักที่ผ่านกระบวนการอบกรอบด้วยวิธีการฟรีซดรายได้ง่าย ๆ แถมยังมีแคลอรีน้อยกว่าการทำผักอบกรอบด้วยวิธีการทอด แถมสารอาหารที่มียังครบถ้วนกว่าการที่นำผักไปผ่านความร้อนด้วยวิธีการทอด
มาถึงตรงนี้คงทราบข้อมูลกันมากขึ้นแล้วเกี่ยวกับเทคโนโลยีการ ฟรีซดราย และความสำคัญ ไม่เพียงแต่ช่วยในเรื่องของการถนอมอาหารให้สามารถจัดเก็บได้ในระยะเวลานาน ๆ เท่านั้น แต่ยังช่วยในเรื่องของการพัฒนาอุตสาหกรรมและการส่งออกอื่น ๆ ให้ได้ประโยชน์อีกมากมาย
ที่มาข้อมูล: natures-craft , natures-craft , foodnetworksolution , sgethai